Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N

Duo Swiss Jungfrau Stanserhorn 7 D 4 N

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ

22.00 น.   คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
 

วันที่ 2

ดูไบ-เจนีวา-น้ำพุเจดโด-นาฬิกาดอกไม้

01.35 น.   ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

04.45 น.   เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

08.30 น.   เดินทางสู่ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 89 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

13.15 น.   เดินทางถึง สนามบินเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านชมเมืองเจนีวา เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วกรุงเจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ  ใน ค.ศ. 1919 และกาชาดสากล ใน ค.ศ. 1864

นำท่านชม น้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา โดยสามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดงานโยธินโปรแกรมรูปภาพที่จะทำโปรแกรมกลาเซียประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้ง ในปี 1886 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนและมีโอกาสล่องเรือมาในทะเลสาบ เจนีวามักไม่พลาดที่จะมาชมน้ำพุด้วยเช่นกัน

นำท่านแวะชมและถ่ายภาพกับ นาฬิกาดอกไม้ที่สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา จากนั้นอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีร้านค้ามากมายรายล้อมรอบสวนดอกไม้ไม่ว่าจะเป็น LOUIS VUITTON, PRADA, BALLY, GUCCI หรือจะเลือกชมนาฬิกายี่ห้อดังที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้ง ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEKPHILIPPE, LONGINES ซึ่งมีร้านจำหน่ายมากมายเช่นกัน

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Ramada Encore Geneve ระดับเดียวกัน

วันที่ 3

โลซานน์-สำนักงานโอลิมปิคสากล-ศาลาไทย-เวเว่ย์-เบิร์น-บ่อหมีสีน้ำตาล-ถนนจุงเคอร์นกาสเซ-นาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ นำท่านชม เมืองโลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เนื่องจากเมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศ ที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า ผ่านชม สำนักงานโอลิมปิกสากล ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยได้ร่วมกันก่อสร้างให้เมืองโลซานน์ ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปีและเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-สวิสฯ ครบ 75 ปี

เดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ เมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐโวของสวิสฯ ตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ชมเมืองเวเว่ย์ เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” ชมรูปปั้นชาลี แชปปลิ้น ศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตเคยใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองนี้ ชมย่านเมืองเก่า (OLD TOWN) ที่เต็มไปด้วยอาคารเก่า ร้านกาแฟกลางแจ้ง ร้านค้ามากมาย 

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ ในกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์น  ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2010

นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชม นาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม  อายุ 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191-1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทนและดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม ให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้าง ทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 อิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพ ตามอัธยาศัยหรือจะเลือกช้อปปิ้งซื้อสินค้าแบรนด์เนมและซื้อของที่ระลึก

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Mercure Plaza Biel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 4

กรินเดอวาล-ยอดเขาจุงฟราว-กลาเซียร์-เลาเทอบรุนเน่น-อินเตอร์ลาเก้น

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุด นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนน สู่ ยอดเขาจุงฟราว ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกของสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์  งานโยธินโปรแกรมรูปภาพที่จะทำโปรแกรมจรุงฟราววิว ธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับ พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (TOP OF EUROPE)

นำท่านชม กลาเซียร์ หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง SPHINX จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปสามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร และไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองอินเตอร์ลาเก้น เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ อีกมากมาย

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ City Oberland Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

ยอดเขาสแตนเซอร์ฮอร์น-ลูเซิร์น-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน-สะพานไม้ชาเปล-ซูริค

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ยอดเขาสแตนเซอร์ฮอร์น (Mt.Stanserhorn) มีความสูงที่ 1,898 เมตร(6,227 ฟุต) ระหว่างทางคุณจะได้ชมวิวแบบพาโนราม่าและให้ท่านได้สัมผัสการเดินทางโดยขึ้นกระเช้า “Cabrio” กระเช้าลอยฟ้าเปิดประทุนที่มี 2 ชั้นแห่งแรกของโลกและสามารถจุผู้โดยสารได้เกือบ 60 ท่าน โดยชั้นดาดฟ้าจะสามารถจุได้ 30 ท่าน ระยะเกือบ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะสามารถมองเห็นวิวแบบ 360 องศา

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม

นำท่านชม รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์  ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไห ม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด หลังจากนั้นเดินทางสู่ เมืองซูริค เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก  ณ Sheraton Zurich Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 6

เมืองซูก-ซูริค-จัตุรัสปราเดพลาทซ์-โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ถนนบาห์นฮอฟสตราสเซอ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซูก เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาปที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซูริค เที่ยวชมจัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (FraumunsterAbbey) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่

นำท่านสู่ ถนนบาห์นโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน

22.15 น.    ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 86 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่ 7

ดูไบ-กรุงเทพฯ

06.25 น.  เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น.   ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

19.15 น.   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

                   *******************************

ร้านค้าในยุโรปส่วนใหญ่จะปิดทำการในวันอาทิตย์ โปรแกรมการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า

อัตรานี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด (ECONOMY CLASS) โดยสายการบินเอมิเรตส์ (เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ) 
  • ค่าที่พัก 3-4 ดาว (ห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ (ขอสงวนสิทธิ์ในการย้ายเมืองเข้าพัก ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าพักที่เมืองนั้นๆได้ เช่น ติดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า งานประชุม เหตุสุดวิสัยต่างๆ ฯลฯ)
  • ค่าวีซ่าเชงเก้น (สถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมทุกกรณี)
  • ค่ารถปรับอากาศ และบริการนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยในการเดินทาง 2,000,000/500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง (ไม่รวมค่าทิป)

อัตรานี้ไม่รวม

  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ
  • ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก พนักงานยกกระเป๋า
  • คนขับรถท้องถิ่น  (2.5 สวิสฟรัง x 5 วัน = 12.5 สวิสฟรัง )
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย วันละ 100 x 7 วัน = 700 บาท

ราคา

THB 10,000,000

20 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more