KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า) KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า) KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า) KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า) KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า) KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า)

KOREA BLOSSOM BLOOM 5 D 3 N (บินดึก-กลับเช้า)

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ (สนามบินนานาชาติดอนเมือง)

18.00 น.  คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 4 เคาน์เตอร์ 4 สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการขึ้นเครื่อง (หัวหน้าทัวร์แนะนำการเดินทาง) สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน (หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)

**หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 40 นาที (**ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่อง เนื่องจากต้องเป็นไปตามระบบของสายการบิน**)

21.05 น.    บินลัดฟ้าสู่ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ โดยเที่ยวบินที่ XJ704 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

วันที่ 2

เกาหลีใต้ (สนามบินนานาชาติอินชอน) - ARA WATERFALL & MARU SKY WALK - ANYANG ART PARK - ชมดอกซากุระบาน @ UIWANG

04.35 น.   เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอินชอน (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ช.ม. กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว ขอต้อนรับทุกท่านสู่สาธารณะรัฐเกาหลีใต้ รถโค้ชนำทุกท่านข้ามทะเลตะวันตกด้วยสะพานแขวนยองจอง หรือ สะพานเพื่อความหวังในการรวมชาติที่ยาวกว่า 4.42กม. และมียอดโดมสูง 107 เมตร

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร (1) เมนู อูด้ง

นำท่านเดินทางสู่ ARA WATERFALL & MARU SKY WALK ชมความสวยงามของน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ ด้วยขนาดความกว้าง 150 เมตร และสูงถึง 50 เมตร นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเดินเล่นบนสกายวอร์ค จุดชมวิวที่ออกแบบมาให้เป็นรูปตัว O มีลักษณะเป็นวงกลมขนาดใหญ่ยื่นออกมาจึงทำให้มองเห็นทัศนีย์ภาพอันงดงาม ตัวทางเดินเป็นกระจกใสที่สามารถมองทะลุลงไปด้านล่างได้ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนผืนน้ำ และท่านจะยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ชื่นใจอีกด้วย พร้อมถ่ายรูปชมวิวตามอัธยาศัย 

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน (2) เมนู ชาบู ชาบู สุกี้สไตล์เกาหลี คล้ายการต้มรวมมิตรสุกี้หม้อไฟ ประกอบไปด้วยเนื้อหมูสไลด์ ผัก เห็ด และวุ้นเส้นเกาหลี เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตในเกาหลี และยังเป็นอาหารพื้นเมืองที่มีมาอย่างยาวนานอีกด้วย

จากนั้นนำท่านไป ANYANG ART PARK สวนศิลปะสุดฮิปใกล้กรุงโซล มีหลากหลายโซนให้เลือกเดินแบบฟูลออฟชั่น!! อาทิ โซน Grass on Vacation เป็นสะพานสีขาวเพื่อข้ามไปยังจุดอื่นๆ โซน Paper Snake เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความอาร์ตมาก รูปทรงคล้ายงูตามชื่อคอนเซ็ป โซน Linear Building on The Tree เป็นอุโมงค์ที่มีรูปทรงคดเคี้ยวและยาวมาก เดินทะลุออกไปจะพบกับลานกว้างๆ สีน้ำตาลรูปทรงแปลกตา โซน Grass on Vacation เป็นสะพานสีขาวเพื่อข้ามไปยังจุดอื่นๆ โซน Paper Snake เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความอาร์ตมาก รูปทรงคล้ายงูตามชื่อคอนเซ็ป โซน Artificial Fall เป็นน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ แต่หากเข้าไม่ถึงความอาร์ตนั้นก็สามารถหามุมชิคๆ เก๋ๆ ถ่ายรูปได้ โซน Dimension Mirror Labyrinth เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างด้วยกระจกเหมือนเป็นเขาวงกตกลางป่าใหญ่ โซน Anyang Crate House เป็นการนำเอาพลาสติกที่เหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะ พอเข้าไปด้านในจะมีแสงลอดเข้ามาตามช่อง ถ่ายรูปออกมาจะดูสวยมาก โซน The Tail of Dragon เป็นหลังคาบ้านเกาหลีโบราณที่โผล่ขึ้นมาจากดิน ลักษณะคล้ายหางมังกร โซน Anyang Peak เป็นจุดชมวิวของสวนแห่งนี้ และโซน Re. Vol. Ver. เป็นคอนเซ็ปบ้านเล็กกลางป่าใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีงานศิลปะอีกหลายจุดที่น่าสนใจ และสถาปัตยกรรมอื่นที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ในสวนเยอะมาก หากใครที่ไม่ได้อินกับงานศิลปะ แค่มาถ่ายรูปก็ถือคุ้มสุดคุ้ม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนสาธารณะอึยวัง เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิที่นี่ยังมีโซนที่มีต้นซากุระบานเรียงรายอยู่เป็นระยะทางยาว จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยงามไม่ไกลจากกรุงโซล ใครที่เป็นสายถ่ายรูปจะต้องเดินถ่ายกันจนแบตหมดอย่างแน่นอน รวมไปถึงที่แห่งนี้ยังเป็นจุดนั่งพักผ่อนในวันหยุดของคนเกาหลีในฤดูนี้อีกด้วย (ดอกซากุระจะเริ่มบานประมาณช่วงเดือนเมษายน ตั้งแต่กรุ๊ปประมาณวันที่ 08 – 15 เมษายน 2562 หรือในช่วงที่ดอกซากุระบาน หลังจากประมาณวันที่ 15 เมษายน จะไม่มีโปรแกรมไปดูซากุระ)

หมายเหตุ **ทั้งนี้การบานของดอกซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากดอกซากุระไม่บาน ทางบริษัทขออนุญาตไม่นำท่านไป และไม่มีการหักคืนค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น**

เย็น    บริการอาหารเย็น (3) เมนู บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลีที่คลุกเคล้าผสมกับผักนานาชนิด โปะด้านบนด้วยไข่ เสิร์ฟบริการพร้อมซุปชาบูหม้อร้อนๆ

พักที่ BENIKIA M HOTEL / HAEDAMCHAE HOTEL / INTERCITY HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 3

ไร่สตรอเบอร์รี่ - สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ - คอสเมติก - โซลทาวเวอร์

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ ไร่สตรอเบอร์รี่ ให้ท่านได้ชิมสตรอเบอร์รี่สดๆ หวานฉ่ำจากไร่ และยังสามารถซื้อกลับมาฝากคนที่เมืองไทยได้ด้วย โดยจะมีการแพ็คใส่กล่องสวยงาม และส่งให้ท่านวันสุดท้าย

นำท่านเดินทางสู่ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ถูกขนานนามว่าเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ประกอบไปด้วยโซนต่างๆ ดังนี้ Global Fair, Magic Land, European Adventure, American Adventure, Zootopia เมื่อท่านก้าวผ่านประตูเข้าไปในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ พบกับอาคารทรงสวยที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียตะวันออก และอินเดีย ซึ่งผสมผสานจนเข้ากันลงตัว แวะถ่ายรูปสวยๆ ที่ Magic Tree ต้นไม้แฟนตาซีขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนธีมไปตามเทศกาลต่างๆ ถือเป็นอีกจุดแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยว

ใครชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!! สนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิดไม่ว่าจะเป็น รถไฟเหาะตีลังกา (Rolling X-Train) ที่เร็วสุดๆ และตีลังกาถึง 2 รอบ เฮอร์ริเคน (Hurricane) เครื่องเล่นที่จะหมุนๆ เหวี่ยงๆ ให้หัวใจเต้นรัวกับความสูงเกือบ 20 เมตรจากพื้นดิน! ดับเบิ้ลร็อกสปิน (Double Rock Spin) ที่จะหมุนๆ ตีลังกา 3 ตลบบนอากาศด้วยความสูงที่แทบกลั้นหายใจ เรือเหาะไวกิ้ง (Columbus Adventure) เตรียมตัวเตรียมใจไปกับเจ้าเรือเหาะยักษ์ที่จะเหวี่ยทุกคนขึ้นไปสูงถึง 30 เมตร ในมุม 75 องศา และไฮไลค์ที่พลาดไม่ได้ของสวนสนุกแห่งนี้ รถไฟเหาะรางไม้ (T-EXPRESS) รถไฟเหาะรางไม้ที่สูงชันเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งมีความชันถึง 77 องศา และวิ่งด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตร/ชั่วโมง

พิเศษ!!! ทางเลือกใหม่สำหรับท่านที่ไม่ชอบการรอคิวนานๆ สามารถซื้อบัตร Q-Pass เพื่อขึ้นไปรอเล่นได้เลย โดยซื้อแพคเกจเฉพาะ T-Xpress จ่ายเพิ่มเพียง 30,000 วอน (ราคาสำหรับ 2 ท่าน) จะได้รับตั๋ว Q-Pass และ SD Card ขนาด 16 GB ใส่กล้อง Action Camera มาให้ เมื่อถึงด้านบนให้นำกล้องส่งให้เจ้าหน้าที่เพื่อติดตั้ง ซึ่งจะเป็นโบกี้สุดท้ายของขบวนรถไฟ 1 รอบจะนั่งได้เพียง 2 ท่าน เพราะจุดติดตั้งกล้องมีเพียง 1 ชุด จากนั้นก็ลุย!! และหลังจากลงจากรถไฟแล้ว ท่านสามารถนำ SD Card มาตรวจสอบการบันทึกวีดีโอ หากวีดีโอเสียจะสามารถขึ้นไปเล่นใหม่ได้อีก 1 รอบ

พักเหนื่อยจากเครื่องเล่น หลุดเข้ามาในโลกของเหล่าสัตว์มากมาย!! ในโลกของ Zootopia หนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี มีสัตว์มากกว่า 2,000 ตัว จาก 200 กว่าสายพันธุ์ พาทุกท่านท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ขึ้นไปบนรถบัสซาฟารีเพื่อใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์ป่ายิ่งขึ้นอย่างโซน Safari World พบกับสัตว์ที่น่าเกรงขามอย่างสิงโตเจ้าป่า เสืออันดุร้าย และหมีตัวใหญ่ที่อาจจะโผล่มาทักทายคุณได้ทุกเมื่อจะมีอะไรตื่นเต้นไปกว่าการนั่งรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก!! ตะลุยเข้าไปในโซน Lost Valley พร้อมเพลิดเพลินกับการชมสัตว์ต่างๆ ที่เดินเล่นอย่างอิสระ ถ้าโชคดีอาจจะได้พบกับสัตว์เหล่านี้มาขอขนมกินถึงหน้าต่างรถเลยทีเดียว

เปลี่ยนบรรยากาศจากเหล่าสัตว์โลกมาเจอความสวยงามของหมู่พฤกษา เดินชมสวนดอกไม้ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งอวดสีสัน ณ สวนดอกไม้สี่ฤดู (Four Season Garden) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงพันธุ์ดอกไม้ไปตามฤดูกาลในรูปแบบที่หลากหลายตลอดทั้งปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ด้วยสีสันที่สดของดอกไม้แต่ละชนิดจึงได้รับความนิยมอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่มาสวนสนุกจึงไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความสดชื่นกลับไปเป็นที่ระลึก รวมทั้งยังมีการจัดเทศกาลในแต่ละเดือน อาทิเช่น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนเมษายน – มิถุนายน เป็นสวนดอกทิวลิป และดอกกุหลาบ ในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายน -สิงหาคม เป็นสวนดอกลิลลี่หลากสีสัน ยังไม่หมดแค่นั้น ในช่วงเดือนนี้จะมีเทศกาลคลายร้อนไปกับสายน้ำ (Summer Splash) ในฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน เป็นสวนดอกเบญจมาศ พร้อมกับมีจัดตกแต่งสวนสนุกให้เข้ากับเทศกาลฮัลโลวีน (Happy Halloween) มีการจัดขบวนรถแฟนซีแห่รอบสวนสนุก และมีเจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นผีมาเดินแกล้งนักท่องเที่ยวด้วย ในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม มีการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ทุกเทศกาลจะตกแต่งด้วย แสง สี เสียง สุดอลังการ พร้อมทั้งมีขบวนพาเหรดมาสร้างความบันเทิงให้กับเด็กๆ เช่น White Christmas Parade, Moonlight Parade

การแสดขบวนพาเหรดอันน่าตื่นตาตื่นใจ! ชมขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่อย่าง คานิวัล แฟนตาซี พาเหรด (Carnival Fantasy Parade) พบกับโชว์ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก มีทั้งธีมสไตล์บราซิลอย่างแซมบาเฟสติวัล (Samba festival) ไปจนถึงธีมเวนิสคานิวัล (Venice Carnival) จากอิตาลีก็ตบเท้าเข้าร่วมขบวนด้วย สนุกสนานกับการเต้นรำไปพร้อมๆกัน ช่วงหัวค่ำเป็นอีกหนึ่งการแสดงที่พลาดไม่ได้เช่นกัน อย่าเพิ่งรีบกลับ! หากท่านยังไม่ได้ชมการแสดงพลุสุดอลังการหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน และยังมีขบวนพาเหรดที่จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง อย่างมูนไลท์พาเหรด (Moonlight parade) ให้ท่านได้ชมอีกด้วย ขบวนพาเหรดจะมีรอบ 14.30 18.30 และ 19.30 น.

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน (5)มนู บุฟเฟต์บาบีคิวปิ้งย่างสไตล์เกาหลี เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาหมึก อาหารเกาหลี เติมไม่อั้น

จากนั้นนำท่านแวะช้อปที่ร้านเครื่องสำอางค์ยอดนิยม COSMETIC OUTLET สวรรค์ของนักช้อปชาวไทย เพื่อเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบนด์ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์บำรุงผิวแบรนด์อย่าง DEWINS และแบรนด์ JSM ที่เป็นสินค้าหลักของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นครีมหอยทาก ครีมน้ำแตก ครีมขัดขี้ไคล สแตมเซลล์ โบท็อกซ์ เป็นต้น และยังมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ครีมว่านหางจระเข้ แป้งม้าโยก ยาย้อมผม แฮนด์ครีม ยาสระผม ฯลฯ

จากนั้นนำท่านไปยังหนึ่งในทาวเวอร์ที่มีวิวที่สวยที่สุดในเอเชีย โซลทาวเวอร์ ตั้งอยู่บนภูเขานัมซานใจกลางกรุงโซล มีความสูงจากฐานหอคอยประมาณ 236.7 เมตร และมีความสูง 479 เมตรจากพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืน หรือฤดูกาลไหนๆ ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา ทั้งจากนักท่องเที่ยวและคู่รักชาวเกาหลี เพราะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวทั่วทั้งกรุงโซล และบริเวณรอบๆ แบบพาโนราม่า นับเป็นอีกสถานที่สุดแสนโรแมนติกแห่งหนึ่งที่คู่รักทุกคู่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญของกรุงโซลที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาแวะเช็คอินคือ สถานที่คล้องกุญแจชื่อดัง Love Key Ceremony ที่มีความเชื่อว่า คู่รักที่มาคล้องกุญแจที่นี่จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล ** ราคาทัวร์นี้ไม่รวมกุญแจและค่าขึ้นลิฟท์ 10,000 วอน**

เย็น    บริการอาหารเย็น (6) เมนู คัมจาทัง เเกงมันฝรั่งกระดูกหมู ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนผสมที่สำคัญคือ กระดูกหมูส่วนซี่โครง สันหลัง มันฝรั่ง ต้นหอม พริกแกง งาดำป่า ใบงาเขียว และเห็ด

พักที่  BENIKIA M HOTEL / HAEDAMCHAE HOTEL / INTERCITY HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 4

เทศกาลดอกซากุระ ณ ถนนยออีโด - ศูนย์สมุนไพรโสม - ศูนย์สมุนไพรฮอตเกนามู - ผลิตภัณฑ์น้ำมันสน พระราชวังคยองกุง - ดิวตี้ฟรี - ตลาดเมียงดง

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)

จากนั้นนำท่านผ่านชม เทศกาลดอกซากุระ ถนนยออีโด ซึ่งกำลังบานอยู่ทั่วเกาหลี ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก็ได้ก็สามารถชมซากุระได้ เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน สองข้างทางจะเต็มไปด้วยงามของดอกซากุระสีชมพูอ่อนละลานตา พร้อมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพดอกซากุระเก็บไว้เป็นที่ระลึก อีกทั้งได้เห็นภาพของคนเกาหลีออกมาปิคนิคตามสวนสาธารณะ ทั้งที่มาเป็นเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ คู่รัก และครอบครัว ชวนกันมาพักผ่อนทำอาหารมานั่งทานไปคุยไปดูดอกซากุระไปด้วย (ดอกซากุระจะเริ่มบานประมาณช่วงเดือนเมษายน ตั้งแต่กรุ๊ปประมาณวันที่ 08 – 15 เมษายน 2562 หรือในช่วงที่ดอกซากุระบาน หลังจากประมาณวันที่ 15 เมษายน จะไม่มีโปรแกรมไปดูซากุระ)

หมายเหตุ **ทั้งนี้การบานของดอกซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากดอกซากุระไม่บาน ทางบริษัทขออนุญาตไม่นำท่านไป และไม่มีการหักคืนค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น**

จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง ศูนย์สมุนไพรโสมเกาหลี สมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหาร ปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบ และเพิ่มพละกำลัง มีสรรพคุณทางการแพทย์ช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด เสริมประสิทธิภาพทางเพศ ลดและป้องกันมะเร็ง

นำท่านชม ศูนย์สมุนไพรฮอตเกนามู ต้นไม้ชนิดนี้เจริญเติบโตในป่าลึกบนภูเขาที่ปราศจากมลภาวะ และสูงเหนือระดับน้ำทะเล 50-800 เมตร ช่วยดูแลตับให้สะอาดแข็งแรง ป้องกันโรคตับแข็ง ไม่ถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ บุหรี่ สารตกค้างจากอาหาร และยา

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน (8) เมนู จิมทัค ไก่ตุ๋นซีอิ๊วผัดกับวุ้นเส้นที่เหนียวนุ่ม หัวหอมใหญ่ รสชาติคล้ายไก่พะโล้ของไทยแต่จะเผ็ดกว่านิดหน่อย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงต่างๆ

จากนั้นนำท่านเรียนรู้การทำ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสน ที่สกัดจากผลิตภัณฑ์น้ำมันสนเข็มแดง มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ลดไขมัน ช่วยควบคุมอาหาร และรักษาสมดุลในร่างกาย

จากนั้นนำท่านไป พระราชวังชางคยองกุง หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดในเกาหลี เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์ราชวงศ์โครยอ โดยเริ่มต้นเดินจากศาลเจ้าชงมโย ถือเป็นสถานที่แห่งมรดกโลกระดับนานาชาติที่ได้รับการคุ้มครอง เป็นศาลเจ้าแบบขงจื้อที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ศาลเจ้าชงมโยยังคงสภาพอยู่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 จนถึงทุกวันนี้ และมีแผ่นจารึกลงคำสั่งสอนจากกษัตริย์หลายพระองค์ในสมัยราชวงค์โชซอนของเกาหลี จากศาลเจ้าเดินข้ามสะพานไปยังพระราชวังชางเคียงกุง โดยสังเกตสิ่งก่อสร้างที่ทำจากหินบริเวณเนินเขาที่จะค่อยๆนำทางไป หนึ่งในสิ่งก่อสร้างนี้เคยเป็นหอสังเกตการณ์ในอดีต ประตูทางเข้าใหญ่ของพระราชวังจะเชื่อมต่อกับสะพานอกช็องกโย และนับเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในโซล มองให้ดีแล้วจะเจอรูปปีศาจที่กำลังซุ่มอยู่ใต้กำแพงอิฐ นอกจากนั้น ยังสามารถชมซากุระสวยๆ พร้อมชมความงามทางสถาปัตยกรรมแบบโบราณของพระราชวังเป็นฉากหลัง หากโชคดีจะสามารถเห็นซากุระปลิวไปตามสายลมบนสะพานอกช็องกโย นอกจากจะเป็นช่วงซากุระบานแล้ว ดอกไม้อื่นๆ เช่น ดอกแอพริคอต ดอกฟอร์ซีเธีย และดอกอาซาเลีย จะเบ่งบานอวดความงามไม่น้อยหน้าเช่นกัน

หมายเหตุ: กรณีที่พระราชวังชางคยองกุงไม่เปิดทำการ ขอสงวนสิทธิ์ปรับรายการท่องเที่ยว ทดแทนเป็น พระราชวังชางด็อกกุง พระราชวังลำดับที่สองที่ถูกสร้างต่อจากพระราชวังเคียงบกกุง เคยใช้เป็นที่พำนักของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ในสมัยราชวงศ์โชซอน และยังเป็น 1 ใน 5 ของพระราชวังสำคัญที่ยังคงรักษาไว้ พระราชวังหลวงทั้ง 5 ที่ในโซลนั้น จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายๆ กัน แตกต่างกันที่ทัศนียภาพ รวมถึงความพิเศษของแต่ละสถานที่ด้วย อย่างตัวพระราชวังชางด็อกกุงแห่งนี้ก็มีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ สวนฮูวอน หรือสวนแห่งความลับนั่นเอง (Secret Garden) ภายในพระราชวังประกอบไปด้วยเขตพระราชฐานชั้นนอก พระราชฐานชั้นใน และสวนด้านหลังที่ใช้สำหรับเป็นที่พักผ่อนของพระมหากษัตริย์ในสมัยโบราณ เมื่อเดินเข้ามาบริเวณด้านในพระราชวังจะเจอกับลานกว้าง เป็นพื้นที่สาธารณะที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ พระราชวังแห่งนี้เคยถูกเผาทำลายไปในช่วงปี 1592 ก่อนจะถูกบูรณะในปี 1611 และได้กลายเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันยังคงเหลือความงดงามบางส่วนของพระราชวังเอาไว้ นอกจากนั้นยังมีต้นไม้ขนาดยักษ์มีอายุกว่า 300 ปี บ่อน้ำ และศาลาริมน้ำ

จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ดิวตี้ฟรี ที่ร้านค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในโซล แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับหลากหลายแบรนด์ดัง และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย โดยชั้นใต้ดินจะเป็นสินค้าแบรนด์หรู และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิเช่น PRADA, DIOR, LOUIS VUITTON, BULGARI, LONGCHAMP, COACH, GUCCI, MICHEL KORS, LOEWE, MIU MIU เป็นต้น ในส่วนของชั้นที่ 1 เป็นช็อป CHANNEL และนาฬิกาดังหลากหลายแบรนด์ อาทิเช่น ROLEX, HERMES, OMEGA, TISSOT เป็นต้น ชั้น 2 เป็นช็อป MCM ชั้นที่ 3 เป็นโซนเครื่องสำอางค์หลากหลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ SULWHASOO, HERA, LANEIGE, L'Oréal, SU:M37, ESTEE LAUDER, LANCOME, CHRISTIAN DIOR, BIOTHERM, MAC เป็นต้น ชั้น 4 จะเป็นสินค้าแบรนด์เนมอื่นๆ และชั้นที่ 5 จะเป็นแบรนด์ของเกาหลี และโซนร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ย่านเมียงดง แหล่งละลายทรัพย์ในดวงใจของสาวๆหลายคน หรือสยามสแควร์เกาหลี ตลาดแห่งนี้จะมีเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องสำอางค์ทั้งแบรนด์เนมชื่อดัง และโลคอลแบรนด์ รวมถึงซีดีเพลง รูปดารา และศิลปินเกาหลี หรืออะไรที่วัยรุ่นต้องการก็สามารถหาได้จากที่ตลาดนี้ อาทิเช่น ร้านเครื่องสำอางค์ค์ที่คุ้นหูคนไทยที่ไม่ว่าจะเป็น ETUDE, SKIN FOOD, THE FACE SHOP, NATURAL REPUBLIC, INNISFREE ราคาเครื่องสำอางค์ค์จะถูกกว่าประเทศไทยประมาณ 2 ถึง 3 เท่า และบางรุ่นไม่มีขายในประเทศไทย หรือจะเป็นร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังอย่างร้าน MBC MART ก็มีรองเท้าหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือกมากมาย อาทิเช่น ADIDAS, NIKE, NEW BALANCE, VANS, CONVERSE, FILA เป็นต้น

ในส่วนของอาหารบริเวณข้างทางที่ฮอทฮิตไม่แพ้กันอย่างโซน เมียงดงสตรีทฟู้ด มีอาหารหรือของทานเล่นให้ได้ลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ย่างตัวใหญ่อบน่ากิน ขนมไข่หรือเครันปัง ขนมยอดฮิตตลอดกาลของเมียงดง กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ย่างชีสมีรสหวาน ชีสย่าง โดยการเอามอสซาเรลล่าชีสเสียบไม้แล้วเอาไปย่าง ต๊อกโบกี เค้กข้าวที่ขึ้นชื่อของเกาหลี ปรุงรสด้วยซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี เมนูนี้มีอยู่เกือบทุกซอกทุกมุมที่ในตลาดเมียงดง บะหมี่ดำจาจังมยอน หนึ่งในเมนูสุดฮิตที่เห็นกันบ่อยในซีรี่ส์เกาหลี มันฝรั่งเกลียวทอดกรอบเสียบไม้ พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองไทย แต่ของที่นี่จะมีไส้กรอกเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งชั้น ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ เสียบไม้แบบอลังการโรยด้วยเกลือ เป็นต้น แต่หากคนที่ชอบของหวานก็จะมีไอติมโคนเจ้าดัง ซึ่งไอติมที่กดมาใส่โคนนั้นสูงถึง 2 ฟุต

เย็น   อิสระอาหารเย็น (ให้ทุกท่านได้อิสระตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช็อปปิ้ง)

พักที่ GRAND PALACE HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

สนามบินนานาชาติอินชอน - กรุงเทพฯ (สนามบินนานาชาติดอนเมือง)

02.00 น.  เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอินชอน

05.50 น.   เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ XJ705 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

10.35 น.   ถึงประเทศไทย สนามบินนานาชาติดอนเมือง พร้อมด้วยความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ     
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.  
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน  
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ                    
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง , ค่าโทรศัพท์ , ค่าโทรศัพท์ทางไกล , ค่าอินเตอร์เน็ต , ค่าซักรีด , มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าวีซ่าสำหรับพาสปอร์ตต่างด้าว 

ราคา

THB 10,000,000

19 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more