ญี่ปุ่น ฮอกไกโด อาซาฮิยาม่า โอตารุ ซัปโปโร [เลทส์โก ยากูซ่า เย็นฉ่ำ] 5 วัน 3 คืน ญี่ปุ่น ฮอกไกโด อาซาฮิยาม่า โอตารุ ซัปโปโร [เลทส์โก ยากูซ่า เย็นฉ่ำ] 5 วัน 3 คืน

ญี่ปุ่น ฮอกไกโด อาซาฮิยาม่า โอตารุ ซัปโปโร [เลทส์โก ยากูซ่า เย็นฉ่ำ] 5 วัน 3 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ - สนามบินดอนเมือง

23.00 น.   พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง ชั้น 3 ประตูหมายเลข 4 สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เคาน์เตอร์ 4 เพื่อเตรียมตัวเดินทาง และผ่านขั้นตอนการเช็คอิน 

วันที่ 2

สนามบินซัปโปโร - เมืองอาซาฮิกาว่า - หมู่บ้านราเมน - สวนสัตว์อาซาฮิกาว่า - อิออน มอลล์

02.10 น.   เดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ 620 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 มีบริการอาหารร้อนเสิร์ฟทั้งขาไปและขากลับ (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)

10.40 น.   เดินทางถึงสนามบินชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศญี่ปุ่นแล้ว  นำท่านเดินทางสู่ RAMEN VILLAGE หรือ หมู่บ้านราเมน ”หมู่บ้านชื่อดังของเกาะฮอกไกโด นับย้อนหลังไปตั้งแต่สมัยต้นโชวะ ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ถือกำเนิดราเมนขึ้น ณ เมืองซัปโปโรโดยการผสมผสานบะหมี่หลากหลายชนิดของประเทศจีนเข้าด้วยกัน และต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เสร็จสิ้นลงราเมนของเมืองอาซาฮิกาว่า ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน อาทิเช่น วิธีการคงความร้อนของน้ำซุปให้อยู่ได้นานขึ้นโดยเคลือบผิวน้ำซุปด้วยน้ำมันหมู หรือจะเป็นน้ำซุปซีอิ๊วที่เคี่ยวจากกระดูกหมูและน้ำสต๊อคซีฟู้ด ปลาซาร์ดีนแห้ง หรือ “นิโบะชิ” และเส้นบะหมี่ที่มีส่วนผสมของน้ำน้อยกว่าปกติและด้วยความโด่งดังและมีเอกลักษณ์ของราเมน เมืองอาซาฮิกาว่าแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่น

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  (คืนเงินท่านละ 1,000 เยน) ซึ่งในหมู่บ้านราเมนนี้มีร้านบริการให้ท่านอย่างมากมายและหลากหลายเมนู อิสระให้ท่านเลือกทานราเมนตามสไตล์ของท่านซึ่งแต่ละร้านจะมีเมนูและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนกันทุกร้านนั้นคือความเข้มข้นของน้ำซุปและเส้นที่เหนียวนุ่มแบบฉบับต้นตำรับญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

นำท่านเดินทางสู่เมืองอาซาฮิกาว่า นำท่านชม สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เข้าชมความน่ารักของสัตว์ต่างๆ ที่ไม่ได้ถูกกักขังในกรงแบบที่ท่านเคยเห็นในสวนสัตว์ทั่ว ๆ ไปถึงกว่าปีละ 3 ล้านคนจากทั่วโลก โดยสวนสัตว์แห่งนี้ได้มีแนวความคิดที่ว่า สัตว์ต่างๆ ควรที่จะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและเป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์นั้นๆ จึงทำให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของสัตว์แต่ละประเภท อาทิเช่น หมีขาวจากขั้วโลก นกเพนกวินสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงครอบครัวลิงอุลังอุตังแสนรู้  ไฮไลท์!!! ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินกับขบวนพาเหรดนกเพนกวิน  ซึ่งทางสวนสัตว์จะให้นักท่องเที่ยวตั้งแถวสองข้างถนนเพื่อรอรับดาราตัวน้อยออกมาเดินโชว์ตัวกัน จุดเริ่มต้นของ เพนกวิน พาเหรด ที่สวนสัตว์นี้ก็คือ พฤติกรรมทางธรรมชาติของเพนกวินที่จะออกเดินไปยังทะเล เพื่อไปหาอาหารเป็นหมู่ ทางสวนสัตว์จึงนำพฤติกรรมนี้ บวกกับ ความต้องการที่อยากให้เพนกวินได้ออกกำลังกายในฤดูหนาว มารวมกัน และกลายมาเป็นพาเหรดน่ารักๆ

ค่ำ   อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย

ที่พัก โรงแรม SMILE HOTEL ASAHIKAWA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

หลังจากเข้าที่พักแล้ว นำท่านช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้า ห้างจัสโก้อิออน ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น มีสินค้ามากมายหลากหลายชนิดให้ท่านได้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป็นโซนเครื่องซำอางค์ ของใช้เด็ก ของเล่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ยาสามัญประจำบ้านหรือแม้กระทั่งผลไม้สดๆจากไร่ของญี่ปุ่นก็มีจำหน่ายที่นี่ด้วยเช่นกัน  พิเศษสุดกับร้าน 100 เยน ทีทุกอย่างในร้านราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น ซึ่งเป็นร้านยอดฮิตของคนญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว **อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า**

วันที่ 3

ลานกิจกรรมหิมะ - โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ถนนซาไกมาชิ - ดิวตี้ฟรี - ทานุกิโคจิ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่ ลานกิจกรรมหิมะ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับ กิจกรรมหิมะให้เล่น เช่น สโนว์โมบิล และสโนสเลด หรือจะเลือกเล่นผาดโผนในสไตล์ท่านเอง (ไม่รวมค่าอุปกรณ์ และค่าเครื่องเล่น ประมาณ 5,000-15,000 เยน) ** ทั้งนี้การเล่นกิจกรรมหิมะต่างๆนั้น ขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ และปริมาณความหนาของหิมะ ณ เวลานั้น*

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอตารุ ซึ่งถือเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก รวมถึงการตกแต่งของบ้านเรือนนั้น ส่วนใหญ่ได้ถูกออกแบบเป็นสไตล์ตะวันตกเนื่องจากในอดีต เมืองโอตารุได้รับอิทธิพลมาจากการทำการค้าระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศในแถบยุโรป อิสระให้ท่านเดินชมความสวยงามของเมืองเลียบคลองโอตารุอันสวยงามน่าประทับใจ คลองโอตารุเป็นคลองที่เกิดขึ้นจากการถมทะเล สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่สู่โกดังในเมือง ภายหลังเลิกใช้จึงถมคลองครึ่งหนึ่งเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวแทนโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกนั่นเอง 

จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี ท่านสามารถชมกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ สวยงามมากมายที่ถูกสะสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกคิดแบบทำกล่องดนตรีในสไตล์ของตัวเองขึ้นมาเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนรักได้อีกด้วย

นอกจากนี้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมี “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนนาดา ถ้ามาฮอกไกโดแล้วไม่มาชม ต้องไปชมที่แคนนาดากันนะจ๊ะ

อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อ เลือกชมสินค้ามากมาย กับถนนซาไกมาชิ  โดยด้านขวามือก็ต้องสะดุดตา สะดุดใจ ไปกับความน่ารักของเจ้าแมวน้อยคิตตี้ ที่ท้าทายรอให้ทุกๆท่านเข้าไปเยี่ยมชม ผ่านมาแล้วจะผ่านเลยไปได้อย่างไรกัน แวะชมกันสักหน่อยสิค่ะ เมื่อเข้าไปในร้านทุกท่านสามารถเลือกแก้วเป็นลวดลายตามใจชอบแต่ละท่านได้เลยนะจ๊ะ ซึ่งข้างหลังแก้วจะมีการสกรีนคำว่า otaru ติดไว้ด้วยนะคะ ซึ่งแก้วก็จะมีมากมายหลากหลายแบบให้เลือก ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อซื้อแก้วพร้อมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วสามารถเติมเครื่องดื่มฟรีได้อีกรอบด้วยนะคะ เลือกเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เชิญเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยที่บริเวณชั้นสองได้เลยจ้า หรือถ้าใครไม่อยากนั่งบริเวณชั้นหนึ่งจะเป็นโซนขายของที่ระลึก หรือจะสนุกสนานไปกับการหมุนตู้กาชาปองเสี่ยงทายหาของฝากไปฝากคนที่คุณรักก็ตามแต่สะดวกเลยค่ะ

ออกจากร้านคาเฟ่คิตตี้ไม่ทันไร ก็จะเจอร้านถัดมาที่เรียกกันว่า มาฮอกไกโด ทั้งทีต้องไม่พลาด LETAO กันนะจ๊ะ เป็นค่าเฟ่ให้นั่งทานและสามารถสั่งกลับได้  ซึ่งบางวันอาจจะต้องรอคิวกันสักนิดนึง  สิ่งต้องห้ามก็คือ ห้ามพลาดที่จะลิ้มรส และห้ามพลาดที่จะหิ้วกลับมาเป็นของฝากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งโดยเด็ดขาด LETAO ที่ควรค่าแก่การทานคือชีสเค้กนั่นเอง สัมผัสลิ้นที่นุ่มละมุน กลิ่นหอมหวาน ให้รสชาติหวานพอดี ลิ้มรสพร้อมกับจิบชาและชมบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ไม่มีอะไรจะฟินไปยิ่งกว่านี้แล้วววว

มากันที่ร้านแนะนำร้านสุดท้ายกันค่ะ ร้านนี้ก็คือ คาเฟ่สนูปปี้ เอาใจคนรักสนูปปี้ ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือไอศกรีมนั่นเองค่ะ ซึ่งมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม เป็นซอฟท์ครีมเนื้อนุ่มละมุน ภายในร้านแบ่งเป็นสองชั้น ซึ่งชั้นที่สองจะเป็นโซนร้านอาหาร การตกแต่งร้านก็ไม่พลาดที่จะตกแต่งไปด้วยสนูปปี้ทั้งร้านแน่นอนค่ะ นอกจากอาหาร ของหวาน เครื่องดื่มแล้ว ทางร้านยังจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับสนูปปี้เพื่อเอาใจคนรักสนูปปี้กันด้วยค่ะ มีให้ท่านได้เลือกซื้ออย่างมากมาย

จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น และนำท่านช้อปปิ้งที่ ทานุกิโคจิ เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ  มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า Susukin  มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์,ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น,ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอาง

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษกับเมนู บุฟเฟ่ต์ชาบูหมูต้นตำหรับ+ขาปู

ที่พัก โรงแรม TOKYU EXCEL HOTEL SAPPORO หรือระดับเดียวกันระดับเดียวกัน

วันที่ 4

อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง)

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระเต็มวัน ให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง หรือเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยมีไกด์คอยให้คำแนะนำในการเดินทาง อาทิ

⦁  อาคารเจอาร์ทาวเวอร์ (JR TOWER) เป็นตึกที่สูงที่สุดในซัปโปโร ตั้งอยู่ติดกับสถานีเจอาร์ ซัปโปโร เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ และศูนย์อาหาร มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์,ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น,ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอางอาคาร JR TOWER มีจุดชมวิวตั้งอยู่ที่ชั้น 38 เรียกว่า T38 (Tower Three Eight) ที่ระดับความสูง 160 เมตร จึงมองเห็นทิวทัศน์เหนือเมืองซัปโปโรได้กว้างไกลสวยงามทั้งกลางวันกลางคืน โดยเฉพาะยามค่ำคืนจะมองเห็นทีวีทาวเวอร์ตั้งอยู่กลางสวนโอโดริ โดยมีแสงไฟจากกลุ่มตึก ย่านซูซูกิโนะ ส่องสว่างที่จุดกลางเมืองติด ๆ กันมีตึก ESTA ซึ่งที่ชั้น 10 เป็นศูนย์รวมร้านราเมน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ร้าน ให้เลือกชิมอร่อยไม่แพ้ตรอกราเมนในย่านซูซูกิโน่ (ไม่รวมตั๋วขึ้น จุดชมวิวราคาประมาณ 700-1000 เยน)

⦁  ย่านซูซูกิโนะ ตั้งอยู่ในบริเวณรอบๆ สถานีรถไฟใต้ดินซูซูกิโนะ เมืองซัปโปโร โดยอยู่ถัดลงมาทางใต้ของสวนสาธารณะโอโดริประมาณ 500 เมตร ซึ่งถือเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของซัปโปโร โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟตามป้ายไฟโฆษณาสีสันต่างๆ บนตึกที่ตั้งอยู่ในย่านแห่งนี้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรีต่างๆ ทั้งไนท์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด มากกว่า 4,000 ร้าน ตามตรอกซอกซอย จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมา ณ สถานที่แห่งนี

⦁  ตลาดปลานิโจ ตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร ตลาดปลาแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1903 และตลาดแห่งนี้รู้จักกันในนาม “ครัวทะเลของชาวเมืองซัปโปโร”เพราะสัตว์ทะเลที่จับได้ส่วนใหญ่จะหาได้จากทะเลแถบนี้ทั้งสิ้น ซึ่งจะมีความสดมากเหมือนไปเดินซื้อที่ ท่าเรือเลยทีเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศรวมถึงชาวบ้านเข้า มาจับจ่ายใช้สอยกันเสมอ ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่อง ไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน อาหารกลางวันและอาหารค่ำตามอัธยาศัย

พักที่  โรงแรม TOKYU EXCEL HOTEL SAPPORO หรือระดับเดียวกันระดับเดียวกัน

วันที่ 5

สนามบินชิโตเสะ - กรุงเทพฯ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำทุกท่านเดินทางสู่ สนามบินชิโตเสะ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

11.55 น.  นำทุกท่านเหิรฟ้ากลับสู่ประเทศไทย โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 621 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

18.00 น.  เดินทางถึงสนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ...

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ           
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.        
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน        
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ              
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน) **ถ้ากรณีที่ทางรัฐบาลประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเพิ่ม ท่านละ 1,700 บาท**
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 1500 บาท/ทริป/ต่อท่าน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

ราคา

THB 10,000,000

28 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more