เกาหลี โซล ซูวอน [เลทส์โก ไลท์ เฟสติวัล] 5 วัน 3 คืน เกาหลี โซล ซูวอน [เลทส์โก ไลท์ เฟสติวัล] 5 วัน 3 คืน เกาหลี โซล ซูวอน [เลทส์โก ไลท์ เฟสติวัล] 5 วัน 3 คืน เกาหลี โซล ซูวอน [เลทส์โก ไลท์ เฟสติวัล] 5 วัน 3 คืน เกาหลี โซล ซูวอน [เลทส์โก ไลท์ เฟสติวัล] 5 วัน 3 คืน

เกาหลี โซล ซูวอน [เลทส์โก ไลท์ เฟสติวัล] 5 วัน 3 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

สนามบินดอนเมือง

23.00 น.  พร้อมกัน ณ สนามบินนานาชาติดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก (อาคาร 1) ชั้น 3 ประตูทางเข้าหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ 4 สายการบิน AIR ASIA X โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวก

สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน (หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)

วันที่ 2

สนามบินอินชอน เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ - เกาะนามิ – THE GARDEN OF MORNING CALM

02.40 น.   นำท่านเดินทางสู่ ประเทศเกาหลีใต้ โดยเที่ยวบินที่ XJ700 ** ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง **

10.05 น.   เดินทางถึง สนามบินอินชอน เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ช.ม.) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว รถโค้ชพาท่านข้ามทะเลตะวันตกด้วยสะพานแขวนยองจอง หรือสะพานเพื่อความหวังในการรวมชาติที่ยาวกว่า 4.42กม. และมียอดโดมสูง 107 เมตร

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู ชาบู ชาบู สุกี้หม้อไฟสไตล์เกาหลี อาหารพื้นเมืองของเกาหลี ลักษณะคล้ายสุกี้หม้อไฟ

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองชุนชอน ที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้อย่าง เกาะนามิ เกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาปชองเพียง บนเกาะจะมีบรรยากาศร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นสน ต้นเกาลัด ต้นแปะก๊วย ต้นซากุระ ต้นเมเปิ้ล และต้นไม้ ดอกไม้อื่นๆ ที่พลัดกันออกดอกเปลี่ยนสีให้ชมกันทุกฤดูกาล การข้ามไปเกาะนามินั้นใช้เวลาสั้นๆ เพียงแค่ 5 นาที โดยนั่งเรือเฟอรี่ข้ามไป ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามของเกาะนามิ ซึ่งความน่าสนใจของเกาะนามิอยู่ตรงที่ธรรมชาติสวยงามของต้นไม้น้อยใหญ่ที่มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะทิวต้นสนสูงใหญ่ที่ขึ้นเรียงรายเป็นแนวยาว และมาปลุกความรักซีรีส์เกาหลีด้วยการเดินชิลๆ ไปบนถนนที่มีต้นไม้ขนาบข้าง ซึ่งเป็นถนนที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “Ginkgo Tree Lane” เมื่อผ่านพ้นช่วงกลางเดือนตุลาคมไป อุโมงค์ต้นแปะก๊วยจะถูกย้อมไปด้วยสีเหลืองอร่าม เรียงแถวทอดตัวยาวกว่า 80 เมตร เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุด นับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปถ่ายรูปเก็บความประทับใจไว้ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้บนเกาะก็จะเริ่มมีสีสันสวยงามสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกมาก ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การมาเที่ยวเกาะนามิจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนสิงหาคม และเดือนตุลาคม หากใครชอบบรรยากาศหนาวๆ มีหิมะปกคลุมก็จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม เกาะนามิโด่งดังจากซีรี่ย์เรื่อง Winter Sonata โดยใช้เกาะนามิเป็นสถานที่ถ่ายทคู่รักมายมากมักไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์บนเกาะสุดโรแมนติก “Winter Sonata’s First Kiss” รูปปั้นคู่พระ-นางจากซีรี่ย์เรื่องดัง ใกล้กันนั้นจะมีโซนอาหารทั้งร้านอาหารแบบนั่งทาน ร้านของปิ้งย่าง และซาลาเปานึงเตาถ่านแบบโบราณ

พิเศษสุด! ลองสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร การข้ามเกาะนามิจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เอาใจคนชื่นชอบความท้าทายเป็นพิเศษกับ Nami Skyline ZipWire ครั้งนึงในชีวิตต้องลองการนั่งซิปไลน์ข้ามทะเลสาบชองเพียง พาท่านขึ้นไปสูดโอโซนบนความสูง 80 เมตร รวบรวมความกล้าแล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปกับวิวธรรมชาติ 360 องศา สัมผัสอะดรีนาลีนที่หลั่งไปทั่วร่างขณะโหนสลิงเหนือผืนน้ำด้านล่างภายในเวลาเพียงชั่วอิดใจ ประทับใจไปกับวิวของท้องฟ้าสดใส เทือกเขา และธรรมชาติอันสวยงามใต้เท้าคุณ (หมายเหตุ : กิจกรรมนี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจเท่านั้น อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวมค่าบัตรเล่น ZipWire)

จากนั้นนำท่านตื่นตาตื่นใจกับเทศกาลประดับไฟสุดอลังการประจำฤดูหนาวที่สวน THE GARDEN OF THE MORNING CALM สวนนี้ได้รับฉายาของประเทศเกาหลีที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความสงบยามเช้า สวนดอกไม้ที่งดงามและกว้างใหญ่ เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยสวนนั้นตั้งอยู่ในเขตเมืองในเมืองคาพยอง ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 330,000 ตารางเมตร โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นทั้งหมด 6 สวนหลักคือ Hakyung Garden, Hometown House Garden, Bonsai Garden, Moonlight Garden, Sky Path และ Garden of Eden เนื่องจากสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณที่ส่งกลิ่นหอมหวานอบอวลไปทั่วทั้งสวน รวมถึงต้นสนมากมายที่มอบทัศนียภาพแห่งความงามที่ไม่เหมือนที่ไหน จึงถือได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ครอบครัว คู่รักและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ที่มักจะมาพักผ่อนรวมทั้งถ่ายภาพสวยๆของที่นี่เสมอ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำในซีรีย์ชื่อดัง You're beautiful อีกด้วย

เย็น    บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนู ทัคาลบิ หรือไก่บาร์บีคิวผัดซอสเกาหลี อาหารเลื่องชื่อแห่งเมืองซุนซอน นำไก่บาร์บีคิว ข้าวเหนียว มันหวาน ผักต่างๆลงผัดรวมกับซอสแบบเกาหลี นำผักกาดเขียวมาห่อรับประทาน โดยนำข้าวสวย และสาหร่ายแห้งมาผัดรวมกับทัคคาลบี

พักที่ JM HOTEL / NEW M HOTEL / SUWON KOREA TOURIST HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

ไร่สตรอเบอร์รี่ - สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ - คอสเมติค - ร้านกาแฟ 943 KING’S CROSS - ถนนฮงแด

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ ไร่สตรอเบอร์รี่ ให้ท่านได้ชิมสตรอเบอร์รี่สดๆ หวานฉ่ำจากไร่ หากติดใจรสชาติที่แสนหวานก็สามารถเลือกซื้อกลับมาฝากคนที่เมืองไทยได้ด้วย โดยจะมีการแพ็คใส่กล่องสวยงาม และนำส่งถึงสนามบินในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองยงอิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ถูกขนานนามว่าเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาประกอบไปด้วยโซนต่างๆ ดังนี้ Global Fair, Magic Land, European Adventure, American Adventure, Zootopia เมื่อท่านก้าวผ่านประตูเข้าไปในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ พบกับอาคารทรงสวยที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียตะวันออกและอินเดีย ซึ่งผสมผสานจนเข้ากันลงตัว แวะถ่ายรูปสวยๆ ที่ Magic Tree ต้นไม้แฟนตาซีขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนธีมไปตามเทศกาลต่างๆ ถือเป็นอีกจุดแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยว

ใครชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวต้องห้ามพลาดเด็ดขาด สนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิดไม่ว่าจะเป็น รถไฟเหาะตีลังกา (Rolling X-Train) ที่เร็วสุดๆ และตีลังกาถึง 2 รอบ เฮอร์ริเคน (Hurricane) เครื่องเล่นที่จะหมุนๆ เหวี่ยงๆ ให้หัวใจเต้นรัวกับความสูงเกือบ 20 เมตรจากพื้นดิน! ดับเบิ้ลร็อกสปิน (Double Rock Spin) ที่จะหมุนๆ ตีลังกา 3 ตลบบนอากาศด้วยความสูงที่แทบกลั้นหายใจ เรือเหาะไวกิ้ง (Columbus Adventure) เตรียมตัวเตรียมใจไปกับเจ้าเรือเหาะยักษ์ที่จะเหวี่ยทุกคนขึ้นไปสูงถึง 30 เมตร ในมุม 75 องศา และไฮไลค์ที่พลาดไม่ได้ของสวนสนุกแห่งนี้ รถไฟเหาะรางไม้ (T-EXPRESS) รถไฟเหาะรางไม้ที่สูงชันเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งมีความชันถึง 77 องศา และวิ่งด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตร/ชั่วโมง

พักเหนื่อยจากเครื่องเล่นหลุดเข้ามาในโลกของเหล่าสัตว์มากมาย โซน Zootopia หนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี มีสัตว์มากกว่า 2,000 ตัว จาก 200 กว่าสายพันธุ์ พาทุกท่านท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ขึ้นไปบนรถบัสซาฟารีเพื่อใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์ป่ายิ่งขึ้นอย่างโซน Safari World พบกับสัตว์ที่น่าเกรงขามอย่างสิงโตเจ้าป่า เสืออันดุร้าย และหมีตัวใหญ่ที่อาจจะโผล่มาทักทายคุณได้ทุกเมื่อ ตะลุยเข้าไปในโซน Lost Valley ตื่นเต้นไปกับการนั่งรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก พร้อมเพลิดเพลินกับการชมสัตว์ต่างๆ ที่เดินเล่นอย่างอิสระ ถ้าโชคดีอาจจะได้พบกับสัตว์เหล่านี้มาขอขนมกินถึงหน้าต่างรถเลยทีเดียว

เปลี่ยนบรรยากาศจากเหล่าสัตว์โลกมาเจอความสวยงามของหมู่พฤกษา สวนดอกไม้สี่ฤดู เดินชมสวนดอกไม้ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งอวดสีสัน ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงพันธุ์ดอกไม้ไปตามฤดูกาลในรูปแบบที่หลากหลายตลอดทั้งปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ด้วยสีสันที่สดของดอกไม้แต่ละชนิดจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ท่านไม่ควรพลาดที่จะมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความสดชื่นกลับไปเป็นที่ระลึก รวมทั้งยังมีการจัดเทศกาลในแต่ละเดือน อาทิเช่น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนมีนาคม - มิถุนายน จะเป็นคิวของสวนดอกทิวลิป และดอกกุหลาบ

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู บุฟเฟต์บาบีคิวปิ้งย่างสไตล์เกาหลี เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาหมึก อาหารเกาหลี เติมไม่อั้น

จากนั้นนำท่านแวะช้อปที่ร้านเครื่องสำอางค์ยอดนิยม COSMETIC OUTLET สวรรค์ของนักช้อปชาวไทย เพื่อเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบนด์ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์บำรุงผิวแบรนด์อย่าง DEWINS และแบรนด์ JSM ที่เป็นสินค้าหลักของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นครีมหอยทาก ครีมน้ำแตก ครีมขัดขี้ไคล สแตมเซลล์ โบท็อกซ์ เป็นต้น และยังมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ครีมว่านหางจระเข้ แป้งม้าโยก ยาย้อมผม แฮนด์ครีม ยาสระผม ฯลฯ

พาท่านเข้าสู่โลกเวทมนตร์ที่ 943 KING’S CROSS คาเฟ่สุดแนวที่จำลองบรรยากาศมาจากหนังเรื่องดัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ สาวกต้องห้ามพลาด!! ถ่ายรูปกับมุมสุดฮิต ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ ชานชาลาที่อยู่ในสถานีรถไฟคิงส์ครอส กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างโลกมักเกิ้ลกับโลกเวทมนตร์ ตั้งอยู่ระหว่างชานชาลาหมายเลข 9 และ 10 นั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมสัมผัสกลิ่นอายเวทมนต์ เพลิดเพลินกับมุมถ่ายรูปต่างๆ

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง ย่านฮงแด เป็นย่านที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยฮงอิก มีผลงานศิลปะที่ส่วนใหญ่เป็นศิลปะแนวร่วมสมัยจัดวางแสดงเต็มพื้นที่ของถนนปิกัสโซ่ที่ขึ้นชื่อของย่านนี้ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีผับ บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหารมากมายตามตรอกซอกซอยแทบทุกแห่ง จึงทำให้ที่นี่เป็นสีสันของกรุงโซลที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวไม่ขาดสายทั้งกลางวันและกลางคืน

เย็น    บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนู บิบิมบับ ข้าวยำสไตล์เกาหลี เสิร์ฟบริการพร้อมซุปชาบูหม้อร้อนๆ 

พักที่  BENIKIA M HOTEL / HAEDAMCHAE HOTEL / INTERCITY HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ 4

โซลทาวเวอร์ - ศูนย์สมุนไพรโสม - ผลิตภัณฑ์น้ำมันสน - พระราชวังชางด็อกกุง - ดิวตี้ฟรี - ตลาดเมียงดง

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านไปยัง โซลทาวเวอร์ หนึ่งในทาวเวอร์ที่มีวิวที่สวยที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่บนภูเขานัมซานใจกลางกรุงโซล มีความสูงจากฐานหอคอยประมาณ 236.7 เมตร และมีความสูง 479 เมตรจากพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืน หรือฤดูกาลไหนๆ ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา ทั้งจากนักท่องเที่ยวและคู่รักชาวเกาหลี เพราะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวทั่วทั้งกรุงโซล และบริเวณรอบๆ แบบพาโนราม่า นับเป็นอีกสถานที่สุดแสนโรแมนติกแห่งหนึ่งที่คู่รักทุกคู่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญของกรุงโซลที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาแวะเช็คอินคือ สถานที่คล้องกุญแจชื่อดัง Love Key Ceremony ที่มีความเชื่อว่า คู่รักที่มาคล้องกุญแจที่นี่จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล (ไม่รวมค่ากุญแจและค่าขึ้นลิฟท์ ประมาณ 11,000 วอน)

จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง ศูนย์สมุนไพรโสมเกาหลี สมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหาร ปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบ และเพิ่มพละกำลัง มีสรรพคุณทางการแพทย์ช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด เสริมประสิทธิภาพทางเพศ ลดและป้องกันมะเร็ง

จากนั้นนำท่านเรียนรู้การทำ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสน ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากน้ำมันสนเข็มแดง มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ลดไขมัน ช่วยควบคุมอาหาร และรักษาสมดุลในร่างกาย

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู ไก่ตุ๋นโสม อาหารบำรุงสุขภาพ ไก่ขนาดกำลังเหมาะ ยัดไส้ด้วยโสม แปะก๊วย และสมุนไพรบำรุงร่างกาย เสิร์ฟในหม้อดินร้อนๆ

จากนั้นนำท่านชม พระราชวังชางด็อกกุง พระราชวังลำดับที่สองที่ถูกสร้างต่อจากพระราชวังเคียงบกกุง เคยใช้เป็นที่พำนักของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ในสมัยราชวงศ์โชซอน และยังเป็น 1 ใน 5 ของพระราชวังสำคัญที่ยังคงรักษาไว้ พระราชวังหลวงทั้ง 5 ที่ในโซลนั้น จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายๆ กัน แตกต่างกันที่ทัศนียภาพ รวมถึงความพิเศษของแต่ละสถานที่ด้วย อย่างตัวพระราชวังชางด็อกกุงแห่งนี้ก็มีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ สวนฮูวอน หรือสวนแห่งความลับนั่นเอง ภายในพระราชวังประกอบไปด้วยเขตพระราชฐานชั้นนอก พระราชฐานชั้นใน และสวนด้านหลังที่ใช้สำหรับเป็นที่พักผ่อนของพระมหากษัตริย์ในสมัยโบราณ เมื่อเดินเข้ามาบริเวณด้านในพระราชวังจะเจอกับลานกว้าง เป็นพื้นที่สาธารณะที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ พระราชวังแห่งนี้เคยถูกเผาทำลายไปในช่วงปี 1592 ก่อนจะถูกบูรณะในปี 1611 และได้กลายเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันยังคงเหลือความงดงามบางส่วนของพระราชวังเอาไว้ นอกจากนั้นยังมีต้นไม้ขนาดยักษ์มีอายุกว่า 300 ปี บ่อน้ำ และศาลาริมน้ำ

หมายเหตุ : กรณีที่พระราชวังชางด็อกกุงไม่เปิดทำการ ขอสงวนสิทธิ์ปรับรายการท่องเที่ยว ทดแทนเป็น พระราชวังถ็อกซูกุง 1 ใน 5 พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์โชซอน มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ตั้งโดดเด่นสง่างามอยู่ท่ามกลางอาคารสไตล์ตะวันตกใจกลางกรุงโซล แต่สวยงามร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วยิ่งสวยงามไปอีก ในแต่ละวันจะมีการเปลี่ยนเวรยามของทหาร หากมาได้ถูกจังหวะจะได้ชมพิธีเปลี่ยนเวรยามประจำวัน ซึ่งในหนึ่งวันนั้นจะมี 3 รอบ คือ รอบแรกตอน 11.00 น. รอบที่สอง 14.00 น. และรอบสุดท้ายตอน 15.30 น.

จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ดิวตี้ฟรี (ที่ร้านค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในโซล แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับหลากหลายแบรนด์ดัง และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย โดยชั้นใต้ดินจะเป็นสินค้าแบรนด์หรู และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิเช่น PRADA, DIOR, LOUIS VUITTON, BULGARI, LONGCHAMP, COACH, GUCCI, MICHEL KORS, LOEWE, MIU MIU เป็นต้น ในส่วนของชั้นที่ 1 เป็นช็อป CHANNEL และนาฬิกาดังหลากหลายแบรนด์ อาทิเช่น ROLEX, HERMES, OMEGA, TISSOT เป็นต้น ชั้น 2 เป็นช็อป MCM ชั้นที่ 3 เป็นโซนเครื่องสำอางค์หลากหลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ SULWHASOO, HERA, LANEIGE, L'Oréal, SU:M37, ESTEE LAUDER, LANCOME, CHRISTIAN DIOR, BIOTHERM, MAC เป็นต้น ชั้น 4 จะเป็นสินค้าแบรนด์เนมอื่นๆ และชั้นที่ 5 จะเป็นแบรนด์ของเกาหลี และโซนร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ย่านเมียงดง แหล่งละลายทรัพย์ในดวงใจของสาวๆหลายคน หรือสยามสแควร์เกาหลี ตลาดแห่งนี้จะมีเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องสำอางค์ทั้งแบรนด์เนมชื่อดัง และโลคอลแบรนด์ รวมถึงซีดีเพลง รูปดารา และศิลปินเกาหลี หรืออะไรที่วัยรุ่นต้องการก็สามารถหาได้จากที่ตลาดนี้ อาทิเช่น ร้านเครื่องสำอางค์ค์ที่คุ้นหูคนไทยที่ไม่ว่าจะเป็น ETUDE, SKIN FOOD, THE FACE SHOP, NATURAL REPUBLIC, INNISFREE ราคาเครื่องสำอางค์ค์จะถูกกว่าประเทศไทยประมาณ 2 ถึง 3 เท่า และบางรุ่นไม่มีขายในประเทศไทย หรือจะเป็นร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังอย่างร้าน MBC MART ก็มีรองเท้าหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือกมากมาย อาทิเช่น ADIDAS, NIKE, NEW BALANCE, VANS, CONVERSE, FILA เป็นต้น

ในส่วนของอาหารบริเวณข้างทางที่ฮอทฮิตไม่แพ้กันอย่างโซน เมียงดงสตรีทฟู้ด มีอาหารหรือของทานเล่นให้ได้ลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ย่างตัวใหญ่อบน่ากิน ขนมไข่หรือเครันปัง ขนมยอดฮิตตลอดกาลของเมียงดง กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ย่างชีสมีรสหวาน ชีสย่าง โดยการเอามอสซาเรลล่าชีสเสียบไม้แล้วเอาไปย่าง ต๊อกโบกี เค้กข้าวที่ขึ้นชื่อของเกาหลี ปรุงรสด้วยซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี เมนูนี้มีอยู่เกือบทุกซอกทุกมุมที่ในตลาดเมียงดง บะหมี่ดำจาจังมยอน หนึ่งในเมนูสุดฮิตที่เห็นกันบ่อยในซีรี่ส์เกาหลี มันฝรั่งเกลียวทอดกรอบเสียบไม้ พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองไทย แต่ของที่นี่จะมีไส้กรอกเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งชั้น ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ เสียบไม้แบบอลังการโรยด้วยเกลือ เป็นต้น แต่หากคนที่ชอบของหวานก็จะมีไอติมโคนเจ้าดัง ซึ่งไอติมที่กดมาใส่โคนนั้นสูงถึง 2 ฟุต

เย็น   อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช็อปปิ้ง

พักที่  BENIKIA M HOTEL / HAEDAMCHAE HOTEL / INTERCITY HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ 5

ศูนย์สมุนไพรฮอตเกนามู - พลอยอเมทิส - หมู่บ้านเทพนิยาย - ละลายเงินวอน ซุปเปอร์มาร์เก็ต สนามบินอินชอน เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ - สนามบินดอนเมือง

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

จากนั้นพาท่านชม ศูนย์สมุนไพรฮอตเกนามู ต้นไม้ชนิดนี้เจริญเติบโตในป่าลึกบนภูเขาที่ปราศจากมลภาวะ และสูงเหนือระดับน้ำทะเล 50-800 เมตร ช่วยดูแลตับให้สะอาดแข็งแรง ป้องกันโรคตับแข็ง ไม่ถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ บุหรี่ สารตกค้างจากอาหาร และยา

จากนั้นนำท่านชม โรงงานเจียระไนพลอยอเมทิส แดนเกาหลีเป็นแดนของพลอยสีม่วง พลอยแห่งสุขภาพและนำโชค โดยมีตั้งแต่สีม่วงอ่อนเย็นตา จนถึงสีม่วงไวน์ มีเสน่ห์เย้ายวนใจ พลอยนี้จะงามจับตาเมื่อมาทำเป็นแหวน จี้ ต่างหู และสร้อยข้อมือ

นำท่านเดินทางไปยัง หมู่บ้านเทพนิยาย ถูกตกแต่งประดับประดา และวาดสีสันให้หมู่บ้านแสนจะธรรมดากลายเป็นหมู่บ้านแห่งเทพนิยาย มีนิยายโด่งดังหลายเรื่อง อาทิเช่น สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้ง 7 หนูน้อยหมวกแดง ปีเตอร์แพน อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ฯลฯ รวมอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้เป็นเหมือนสตูดิโอถ่ายรูปขนาดใหญ่ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ถ่ายรูปได้เก๋สุดๆ

นอกเหนือไปจากการเดินเล่นเที่ยวชมหมู่บ้านแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้กัน ให้ได้เยี่ยมชมกันอีกหลายแห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์จาจังเมียน ซึ่งเคยเป็นร้านขายจาจังเมียน หรือก๋วยเตี๋ยวในซอสถั่วดำแห่งแรกในบริเวณท่าเรือของเมืองอินชอน หรือบะหมี่ดำอันลือชื่อที่มีจุดกำเนิดในเมืองนี้ และต้องลองไปแวะชิม Mandabok ร้านดังใน Chinatown สุดยอดจาจังมย็อนี่มีคนต่อคิวรอแถวยาวทุกวัน รวมถึงเมนู เกี๊ยวนึ่งสุดฟิน ที่ตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เด็ดๆ มาแนะนำอย่าง ร้าน AKIRA COFFEE ที่สายคาเฟ่ต้องห้ามพลาด! แวะเช็คอินคาเฟ่ญี่ปุ่นสุดเกร๋ที่ตกแต่งแบบสวนหินสไตล์เซน ด้านบนชั้นสองของร้านสามารถนั่งจิบกาแฟชิลๆ รับลมเย็นๆ แบบ Outdoor ได้อีกด้วย ต่อกันอีกร้านแบบฟินๆ ร้าน C27 CHEESE สายชีสเค้กต้องโดนสักชิ้นจะติดใจ กับคาเฟ๋สไตล์ล loft ปูนเปลือย มีที่นั่งและมุมถ่ายรูปมากมาย มีเมนูสารพัดชีสเค้ก และเครื่องดื่มหลากหลายให้เลือก ตั้งอยู่ละแวกใกล้ๆ กับ AKIRA Coffee

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู บูลโกกิ หมูหมักสไตล์เกาหลี มีรสชาติออกหวานเผ็ดเล็กน้อย โดยนำหมูลงในกระทะพร้อมน้ำซุปปรุงรส เมื่อสุกรับประทานพร้อมเครื่องเคียงและข้าวสวย 

นำท่านแวะซื้อของฝากที่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต (ละลายเงินวอน ซื้อ 5 แถม 1) สาหร่าย ขนมต่างๆ ช็อกโกแล็ตหิน ซีเรียลช็อกโก้ ผลิตภัณฑ์ของใบ และรากฝอยของโสมในรูปแบบขนม ชาโสม โคลนพอกหน้าโสม ครีมล้างหน้าโสม เครื่องสำอางโสม และยังมีกิมจิ เปเปโร (ป๊อกกี้เกาหลี) ชินราเมง (มาม่าเกาหลี) นมกล้วย เป็นต้น

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินอินชอน เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

16.25 น.  นำท่านเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ XJ709 ** ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง **

20.45 น.   เดินทางถึงประเทศไทย สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ           
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.            
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน            
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ              
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหาร และเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าวีซ่าสำหรับพาสปอร์ตต่างด้าว 

ราคา

THB 10,000,000

29 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more