EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N EASY  CLASSIC  EUROPE  9 D 6 N

EASY CLASSIC EUROPE 9 D 6 N

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – อาบูดาบี

15.00 น.    คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ Q ของสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

18.25 น.   ออกเดินทางสู่ อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EY405

22.00 น.   ถึงท่าอากาศยานอาบูดาบี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

02.35 น.   ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ EY085
***บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน***

วันที่ 2

อาบูดาบี – กรุงโรม – นครรัฐวาติกัน – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – อนุสาวรีย์กษัตริย์วิคเตอร์ เอมานูเอลที่ 2 – สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม – น้ำพุเทรวี่ – บันไดสเปน – ฟลอเรนซ์

07.05 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน กรุงโรม หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) ระยะทางประมาณ 30.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เมืองหลวงของประเทศอิตาลี อดีตศูนย์กลางของอาณาจักรโรมัน ในสมัยที่ยังเรืองอำนาจนับได้ว่าเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นำท่านเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) รัฐอิสระที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปา และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 

นำท่านชมบริเวณด้านหน้า มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของนครรัฐวาติกัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของคริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก ที่ตั้งมหาวิหารเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของ นักบุญเปโตร หนึ่งในสาวกของพระเยซู ต่อมาได้สถาปนาขึ้นเป็น
พระสันตะปาปาองค์แรกของโรม ภายในประดับประดาด้วยศิลปะชิ้นเอกมากมาย  และที่โดดเด่นที่สุด คือ  “เพียต้า” (Pieta) หรือรูปแกะสลักหินอ่อนของพระแม่มาเรียอุ้มพระเยซูไว้บนตัก ผลงานชิ้นเอกของไมเคิล แองเจโล

แล้วนำท่านผ่านชม อนุสาวรีย์กษัตริย์วิคเตอร์ เอมานูเอลที่ 2 (Victorio Emanuele II Monument) ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติของกษัตริย์วิคเตอร์ เอมานูเอลที่ 2 ผู้รวบรวมแคว้นต่างๆ ในคาบสมุทรอิตาลีและสถาปนาขึ้นเป็นอาณาจักรอิตาลี

จากนั้น นำท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สนามกีฬากลางแจ้งโบราณขนาดใหญ่ใจกลางเมือง อดีตสนามประลองการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของ เหล่ากลาดิเอเตอร์ ซึ่งเป็นสังเวียนเลือดที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อให้ความบันเทิงแก่ชาวโรมัน

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

หลังอาหาร นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) น้ำพุที่สวยงามที่สุดของกรุงโรม หรือท่านสามารถโยนเหรียญลงน้ำพุเทรวี่ ซึ่งเชื่อกันว่าจะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีก และเป็นที่มาของเพลงอมตะ Three Coins in The Fountain แล้วนำท่านเดินเท้าเพื่อไปเที่ยวชมความสวยงามของ บันไดสเปน (Spanish step) บันไดที่กว้างและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ซึ่งตกแต่งอย่างงดงามและล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันที่สวยงาม

ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ ฟลอเรนซ์ (Florence) ระยะทางประมาณ 271 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.05 ชั่วโมง เมืองหลวงของแคว้นทัสคานี ในสมัยยุคกลางเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน ซึ่งต่อมาเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการหรือเรอเนสซองซ์ นอกจากนั้นยังได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม (2) 

พักค้างแรม ณ โรงแรม Ambasciatori หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 3

ฟลอเรนซ์ – สะพาน Ponte Vecchio – จัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม – จัตุรัสซิญญอเรีย – เมสเตร – ท่าเรือตรอนเคตโต้ – เวนิส – สะพานรีอัลโต – สะพานถอนหายใจ – จัตุรัสซานมาร์โค – ท่าเรือตรอนเคตโต้ – เมสเตร

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (3)

หลังอาหาร นำท่าน เที่ยวชมเมืองเก่าฟลอเรนซ์ ต้นกำเนิดของยุคเรอเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป ชม สะพาน Ponte Vecchio สะพานเก่าแก่ที่สุดของเมือง ที่มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน บนสะพานเป็นตลาดขายพวกเครื่องประดับต่างๆ และของที่ระลึกจำนวนมากมาย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง 

แล้วนำท่านชม จัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม (Piazza del Duomo)  หนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ที่ตั้งของมหาวิหารฟลอเรนซ์ หรือวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิออเร มหาวิหารขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป ถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13  

จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสซิญญอเรีย (Piazza della Signoria) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่และงานศิลปะ ประติมากรรมแกะสลักหินอ่อนที่งดงาม งานประติมากรรมที่โดดเด่นที่สุด คือ รูปแกะสลักหินอ่อน “เดวิด” ผลงานชิ้นเอกของศิลปินไมเคิล แองเจโล่ ซึ่งจำลองจากงานดั้งเดิม

ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมสเตร (Mestre) ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง อีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ของอิตาลี

กลางวัน    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ จากนั้น นำท่านล่องเรือสู่ เวนิส (Venice) เมืองที่ใช้คลองแทนถนน เรือแทนรถ ในการคมนาคม โดยมีสถาปัตยกรรมโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นมากมายบนเกาะมากกว่า 188 เกาะและเชื่อมโยงกันด้วยสะพานมากกว่า 400 แห่ง ให้ท่านสัมผัสกับเมืองสุดแสนโรแมนติค จนได้รับสมญานามว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก 

นำท่านชม สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge) สะพานข้าม Grand Canal ที่สวยงาม เก่าแก่ที่สุดและเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเวนิส 

แล้วชม สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sigh) สะพานแห่งนี้ เป็นสะพานที่นักโทษใช้เดินข้ามเพื่อไปเข้าคุกที่อยู่อีกฝั่ง แสงสว่างที่เห็นจากช่องสะพาน นักโทษจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าคุก และจะถอนหายใจด้วยเหตุผลนี้ เพราะรู้ตัวว่าจะไม่มีโอกาสเดินออกมาเห็นแสงสว่างอีกแล้ว

จากนั้นนำท่านชม  จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) จัตุรัสริมทะเลศูนย์กลางของเกาะเวนิส ที่ล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น มหาวิหารซานมาร์โค ประกอบไปด้วย โดม 5 โดมตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ และพระราชวังด็อด (Doge Palace) ที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต เป็นต้น อิสระให้ท่านเดินเล่น ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติคของเกาะเวนิส จนถึงเวลานัดหมายหรือท่านสามารถเลือกนั่งเรือกอนโดล่า อีกหนึ่งเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเวนิส (ไม่รวมในค่าทัวร์ กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ก่อน)

ได้เวลานัดหมาย นำท่านล่องเรือกลับสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ จากนั้นเดินทางสู่ เมสเตร

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (5)

พักค้างแรม ณ โรงแรม Russott หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 4

เมสเตร – มิลาน – มหาวิหารแห่งมิลาน – แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอ็มมานูเอลที่ 2 – ลูเซิร์น – สะพานไม้ ชาเปล – อนุสาวรีย์รูปสิงโตหินแกะสลัก – ช้อปปิ้ง

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (6)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มิลาน ระยะทางประมาณ 260 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเมืองศูนย์กลางทางด้านธุรกิจ การค้า และแฟชั่นที่สำคัญของประเทศอิตาลี แล้วนำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ดูโอโมหรือมหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ.1386 เสร็จสมบูรณ์ ในปี ค.ศ. 1965 รวมระยะเวลาในการก่อสร้างมากกว่า 500 ปี สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความสูงถึง 157 เมตร ความโดดเด่นของดูโอโม อยู่ที่ยอดแหลมบนหลังคา บนยอดใหญ่ตรงกลางมีพระรูปแม่พระ ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเรียกกันว่า มาดูนีนา (Madunina) และชม แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Galleria Vittorio Emanuele II) อาคารศูนย์การค้าที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ลูเซิร์น (Lucerne) ระยะทางประมาณ 243 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองตากอากาศที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ 

นำท่านชม สะพานไม้ ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำรอยส์ มีอายุมากกว่า 600 ปี และเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และนำท่านถ่ายภาพกับ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหินแกะสลัก (The Lion Monument) อนุสาวรีย์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและเสียสละ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารสวิสที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังพระราชวังตุย เลอรีย์ ของฝรั่งเศส

อิสระให้ท่าน เดินเล่นชมบรรยากาศย่านเมืองเก่า ที่งดงามหรือ เดินเลือกซื้อสินค้าชื่อดังของสวิส อาทิ นาฬิกา, มีดพกทหารสวิส, ช็อคโกแลต ฯลฯ ตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ   อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพื่อไม่รบกวนเวลาในการช้อปปิ้งของท่าน

พักค้างแรม ณ โรงแรม Ibis Styles Luzern City หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 5

ลูเซิร์น – เอนเกลเบิร์ก – กระเช้าไฟฟ้า Titlis Rotair – ยอดเขาทิตลิส – ถ้ำน้ำแข็ง สะพานแขวนทิตลิต – สนุกสนานกับการสัมผัสหิมะบนยอดเขา – เอนเกลเบิร์ก – ดิจง

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (8)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เอนเกลเบิร์ก (Engelberg) ระยะทางประมาณ 35.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที  เมืองสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์

นำท่านขึ้น กระเช้าไฟฟ้า Titlis Rotair แบบหมุนได้ 360 องศา ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์โดยรอบทิศทางแบบ  360 องศาเลยทีเดียว แล้วขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) ที่มีความสูง 3,238 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี หนึ่งในเทือกเขาที่เป็นแหล่งสกียอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านชม ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Cave) ถ้าน้ำแข็งที่สร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ แล้วนำท่านชมหรือเดินข้ามสะพานแขวน (Titlis Cliff Walk) ที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร และความสูงห่างจากพื้นประมาณ 500 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) แล้วอิสระให้ท่านสนุกสนานเพลิดเพลินกับการสัมผัสหิมะบนลานหิมะ พร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขาทิตลิส 

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา (9)

หลังอาหาร นำท่านนั่งกระเช้าไฟฟ้า ลงจากยอดเขาสู่ เอนเกลเบิร์ก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ดิจง (Dijon) ระยะทางประมาณ 383 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี แคว้นที่มีชื่อเสียงในเรื่องการผลิตไวน์และมัสตาร์ด นอกจากประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเรื่องของการผลิตไวน์แล้ว เมืองแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของดยุคแห่งเบอร์กันดีอีกด้วย 

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม (10) 

พักค้างแรม ณ โรงแรม Ibis Dijon Gare หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 6

ดิจง – ชมเมือง – ประตูชัย – โบสถ์นอร์ทเธอดามแห่งดิจง – จัตุรัสกลางเมือง – ย่านเมืองเก่า – ช้อปปิ้งลา วัลเล่ย์ วิลเลจ – ปารีส

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (11)

หลังอาหาร นำท่าน ชมเมืองดิจง (ทางบริษัทฯได้จัดเตรียมไกด์ท้องถิ่น นําเที่ยวชมและบรรยาย ซึ่งท่านจะได้รับความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้) ชม ประตูชัย (Porte Guillaume) ที่เปรียบดั่งศูนย์กลางของเมือง แล้วชม โบสถ์นอร์ทเธอดามแห่งดิจง (Notre Dame de Dijon) เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมโกธิคในสมัยนั้นเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสกลางเมือง ที่ตั้งของพระราชวังของดยุคแห่งเบอร์กันดี (Palace the Dukes of Burgundy) พระราชวังของตระกูลขุนนางชั้นสูงแห่งฝรั่งเศส และเดินเล่นภายใน ย่านเมืองเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมในสมัยยุคกลาง อันเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงาม

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (12)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ลา วัลเล่ย์  วิลเลจ (La Vallée Village Outlet) ระยะทางประมาณ 332 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ชื่อดัง จากทั่วโลกมากกว่า 100 ยี่ห้อ ด้วยราคาที่ถูกกว่าตามช้อปทั่วไป อาทิเช่น Giorgio Armani, Burberry, Calvin Klein, Gucci, Hugo Boss, Lacoste, Longchamp, Polo Ralph Lauren, Paul Smith, Versace เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ   อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย เพื่อไม่รบกวนเวลาในการช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ ปารีส (Paris) ดินแดนแห่งน้ำหอม เมืองหลวงแห่งศิลปะแฟชั่นของโลก มหานครที่แสนโรแมนติกอันเป็นจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Mercure Paris la Defense 5 หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 7

ปารีส – พระราชวังแวร์ซายส์ – ปารีส – จัตุรัสคองคอร์ด – ถนนชองป์เซลิเซ่ – ประตูชัย มหาวิหารนอร์ทเธอดามแห่งปารีส – พิพิธภัณฑ์ลูฟ – ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (13)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) (ทางบริษัทฯได้จัดเตรียมไกด์ประจําพระราชวัง นําชมและบรรยาย ซึ่งท่านจะได้รับความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงของโลกแห่งนี้)  นำท่านเข้าชมพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป นำท่านชมความโออ่าหรูหราของห้องต่างๆ ภายในพระราชวัง นอกจากนั้นท่านจะได้เพลิดเพลินกับสวนพฤกษชาติ ที่จัดตบแต่งไว้อย่างสวยงาม

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (14)

หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับ ปารีส แล้วนำท่านชมเมืองปารีส ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามและโรแมนติคที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผ่านชม จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) จัตุรัสที่กว้างที่สุดในกรุงปารีส และเป็นลานประหารชีวิตพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และ พระนางมารี อังตัวเนตด้วยเครื่องกิโยติน ในสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส ผ่าน ถนนชองป์เซลิเซ่ (Champ Elysees) ถนนที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งเป็นต้นแบบถนนราชดำเนินของประเทศไทย แล้วผ่านชม ประตูชัย (Arc de triomphe) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่นโปเลียน ที่ได้รับชัยชนะในการทำสงคราม

แล้วนำท่านชมความสวยงามของ มหาวิหารนอร์ทเธอดามแห่งปารีส (Notre Dame Cathedral) จากบริเวณภายนอก หนึ่งในมหาวิหารชื่อดังของโลก โบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงปารีส อีกทั้งเป็นมหาวิหารแห่งแรกที่สร้างในสไตล์โกธิค เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1163 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1345 แต่มีการปรับปรุงซ่อมแซมความเสียหายอยู่เรื่อยมาทุกยุคทุกสมัย ภายในและภายนอกอาคารประดับประดาด้วยประติมากรรม และหน้าต่างกระจกสี ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก 

จากนั้น นำท่านชมบริเวณด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟ (Louvre Museum) อดีตเคยเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่โตที่สุดของโลก ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในปารีส ภายในพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาวัตถุโบราณที่มีค่าและมีชื่อเสียงของโลกมากมาย โดยเก็บรักษาภาพวาดที่ทรงคุณค่าที่สุดในโลก คือ ภาพโมนาลิซ่า อันเลื่องชื่อ ผลงานโดย ลีโอนาโด ดาวินชี และมีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อ สินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอางค์  น้ำหอม เป็นต้น

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (15) 

พักค้างแรม ณ โรงแรม Mercure Paris la Defense 5 หรือในระดับเดียวกัน

 

วันที่ 8

ปารีส – ถ่ายรูปกับ หอไอเฟล ณ สวนชองป์ เดอ มาร์ส – ล่องเรือแม่น้ำแซน – พิพิธภัณฑ์น้ำหอมฟราโกนาร์ด – ช้อปปิ้งห้างแกลอรี่ ลาฟาแยต – ท่าอากาศยานปารีส ชาร์ล เดอ โกล

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (16)

หลังอาหาร นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ หอไอเฟล (Eifel Tower) ณ สวนชองป์ เดอ มาร์ส สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงปารีส หนึ่งในจุดชมหอไอเฟล ในมุมมองสวยงามที่สุดซึ่งได้รับความนิยมสำหรับการถ่ายภาพของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยว และนักถ่ายภาพมืออาชีพมากมาย

จากนั้น นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน สัมผัสมหานครที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำโดยรอบตัวเมือง ผ่านชมอาคารบ้านเรือนและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของปารีส

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (17)

หลังอาหาร นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์น้ำหอมฟราโกนาร์ด (Fragonard Perfume Museum) (ทางบริษัทฯได้จัดเตรียมไกด์ประจําพิพิธภัณฑ์ นําชมและบรรยาย ซึ่งท่านจะได้รับความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของแบรนด์น้ำหอมเก่าแก่ของฝรั่งเศสแห่งนี้)  หนึ่งในน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส ให้ท่านได้เรียนรู้วิธีการผลิตน้ำหอมจากแบรนด์ชื่อดังในดินแดนแห่งน้ำหอมแห่งนี้ พร้อมกับให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้อีกด้วย 
จากนั้นนำท่านสู่ แกลอรี่ ลาฟาแยต (Galeries Lafayette) ห้างสรรพสินค้าอันโด่งดังและเก่าแก่ของฝรั่งเศส อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่มีอย่างหลากหลาย เช่น เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า เครื่องสำอาง ฯลฯ ตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานปารีส ชาร์ล เดอ โกล (Charles de Gaulle Airport) เพื่อเตรียมตัวกลับสู่ กรุงเทพฯ

21.55 น.    ออกเดินทางสู่ อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EY038 ***บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน***

วันที่ 9

อาบูดาบี – กรุงเทพฯ

06.40 น.    เดินทางถึงอาบูดาบี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

10.20 น.    ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EY404

20.10 น.     เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามเที่ยวบินที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้นตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถอัพเกรดเป็นธุรกิจได้ หากต้องการนั่งชั้นธุรกิจจะต้องจองตั๋วเดี่ยว กรุณาเช็คราคากับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
  • ค่าภาษีสนามบิน ภาษีน้ำมัน
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้ขับรถเกิน 12ช.ม./วัน 
  • โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน พักห้องละ 2 หรือ 3 ท่าน (โรงแรมในยุโรปหลายแห่งจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบอุณหภูมิต่ำ ซึ่งทางบริษัทฯ พยายามเลือกโรงแรมที่พักที่มีเครื่องปรับอากาศให้แก่ลูกค้า หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ ทางบริษัทอาจมีการปรับเปลี่ยนโรงแรมหรือย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ) 
  • ค่าอาหารทุกมื้อ ตามที่ระบุในรายการท่องเที่ยว
  • ค่าเข้าชมสถานที่ ตามระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าฝรั่งเศสหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า
  • หัวหน้าทัวร์จากประเทศไทย คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองในระหว่างการเดินทาง วงเงิน 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือเอกสารต่างด้าวต่างๆ
  • ค่าภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  • ค่าระวางกระเป๋าน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พัก และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการท่องเที่ยว ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษของโรงแรม เป็นต้น
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% 
  • ค่าธรรมเนียมทิปหัวหน้าทัวร์ คนขับรถและไกด์ท้องถิ่น ท่านละ 55 ยูโร ตลอดทริป

ราคา

THB 10,000,000

24 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more