โครเอเชีย-สโลเวเนีย 10 วัน 7 คืน โครเอเชีย-สโลเวเนีย 10 วัน 7 คืน

โครเอเชีย-สโลเวเนีย 10 วัน 7 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – เวียนนา (ออสเตรีย)

21.00 น.   พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ Austrian Airlines โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก

23.55 น.   ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ OS026 บินตรงสู่กรุงเวียนนา 

วันที่ 2

เวียนนา – กราซ – เบลด – ลูบลิยานา(สโลเวเนีย)

05.35 น.    ถึงสนามบินนานาชาติกรุงเวียนนา หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

นำคณะออกเดินทางสู่ “ เมืองกราซ ” Graz นำท่านชม “ เมืองกราซ ” (Graz) (178 ก.ม.) ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “ มรดกโลก ” จากองค์การยูเนสโก้ Unesco ให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมในปี 2003 นำคณะชม “เขตเมืองเก่า” Old Town ซึ่งเป็นเขตเมืองเก่าดั้งเดิมที่ตั้งมานานหลายศตวรรษ ตรอกซอกซอยในเขตเมืองเก่าคือพยานของวัฒนธรรมอันโดดเด่นที่มีอายุยาวนาน หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตผู้คนด้วยท่วงทำนองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรม แม้ว่าทางด้านการเมืองกราซจะเฟื่องฟูอยู่เพียงช่วงสั้นๆ ก็ตามทอดตัวอยู่เชิงเขาชลอสแบร์ก พร้อมชม “ หอนาฬิกาประจำเมือง ” Schlossberg clock tower ที่มีชื่อเสียง “ กราซ ” เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมต่างๆจากทุกสมัยทั้ง โกธิค เรอเนส์ซองส์ และบารอก จนถึงยุคย้อนยุค และ ยุคยูเกนดัชทิล(อาร์ตนูโว)…จากนั้นมีเวลาให้ท่านได้เดินเที่ยวชมย่านการค้าที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าที่เวียนนา หรือเพลิดเพลินกับเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอันสวยงาม นำท่านออกเดินทางสู่เมืองเบลด ประเทศสโลเวเนีย

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

บ่าย     นำท่านเดินทางสู่เมืองเบลดดินแดนที่มีความงดงามทางลักษณะภูมิประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ ภูเขา และศิลปะ วัฒนธรรมที่สุดแสนจะงดงาม เข้าสู่เมืองเบลด Bled เมืองตากอากาศตั้งอยู่ริมทะเลสาบและริมเทือกเขาแอลป์จูเลียน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย และได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์

นำท่านล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเบลด ตัวทะเลสาบเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งโบฮินจ์ (Bohinj Glacier) ในยุคน้ำแข็ง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือน้ำในทะเลสาบ ไม่ได้มาจากการละลายของธารน้ำแข็ง แต่มาจากบ่อน้ำร้อนใต้ดินหลายแห่ง น้ำในทะเลสาบนี้จึงใสบริสุทธิ์ และไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว เรือล่องผ่านปราสาทเบลด Bled Castle ที่ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด จักรพรรดิเฮนริค ที่ 2 แห่งเยอรมัน ยกให้เป็นสถานที่พักของบิชอป อัล เบี่ยม แห่งบริเซน (Bishop Albium of Brixen) ในปี ค.ศ.1004 ได้เวลาสมควรเดินทางต่อสู่กรุงลูบลิยานา (Ljubljana)

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

พักที่:  Plaza Hotel Ljubljana / เทียบเท่าระดับใกล้เคียง

วันที่ 3

ลูบลิยานา – ถ้ำโพสทอยน่า – โอปาเทีย(โครเอเชีย)

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านเข้าสู่จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน เป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับจัตุรัสบันไดสเปนในกรุงโรม มีรูปปั้นของฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลวีเนีย เป็นสัญลักษณ์ความรักชาติและเสรีภาพ ใกล้จัตุรัสเป็นโบสถ์ในนิกายฟรานเซสกัน ศิลปะในแบบอาร์ตนูโว

นำท่านขึ้นชม ลานปราสาทลุบบลิยาน่า ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือใจกลางเมืองลูบลิยาน่า โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานของชาวเติร์กและกบฏ ปัจจุบันปราสาทลูบลิยาน่าได้กลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มี ความสำคัญทางด้านวัฒนธรรม และยังกลายเป็นหอชมเมือง ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้เกือบทั้งหมด จัตุรัสที่มีความสำคัญ จัตุรัสเป็นรูปหล่อของฟรานซ์ เพรเซเรน กวีที่มีชื่อเสียงของสโลเวเนีย (1800 – 1849) เป็นสัญลักษณ์ของคนรักชาติ รักเ  สรีภาพ ใกล้จัตุรัสเป็นโบสถ์นิกายฟรานเซสกันที่มีสีชมพูดึงดูดสายตา ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 14 ปี เป็นศิลปะแบบอาร์ตนูโว ภายในมีห้องสมุดตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งมีหนังสือประมาณ 55,000 เล่ม ไม่ไกลจากจัตุรัสมีสะพาน 3 แห่งที่มีชื่อเสียงของเมืองลูบลีอานา ที่สำคัญคือ สะพานมังกร ซึ่งสร้างในปี 1901 เป็นสะพานแห่งแรก ๆ ที่  สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ของยุโรป ที่หัวสะพานทั้งสองฝั่งประดับด้วยรูปปั้นมังกรในแบบอาร์ตนูโว

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำคณะเดินทางไปเที่ยวชม ถ้ำโพสทอยน่า (50 ก.ม.) เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 31 ล้านคน เป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป ภายในถ้ำเชื่อมต่อถึงกันเป็นระยะทางว่า 20 กิโลเมตร เข้าชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปี 1884 อุณหภูมิภายในถ้ำโดยเฉลี่ย 8-10 องศาเซลเซียส ชมส่วนที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำที่เรียกว่า Classic Karst ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่าง ๆ ภายในถ้ำมากมายลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ราวกับเนรมิต สมควรแก่เวลานําท่านเดินทางสู่เมืองโอพาเทีย(60 ก.ม.)

นำท่านชมเมือง โอพาเทีย (OPATIJA) เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอเดรียติค” ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ระหว่างทางลัดเลาะซ้ายขวาไปตามไหล่เขาเคล้า ด้วยวิวทะเลอเดรียติคที่สวยงาม “โอพาเทีย” มีฐานะเป็นเมืองตากอากาศสำคัญของเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่และชนชั้นสูงของออสเตรีย เมืองนี่คือเมืองที่ใช้ชื่อตามสำนักสงฆ์นิกายเบเดนิกซ์ ในช่วงศตวรรษที่ 14

นำท่านชมตัวเมือง แวะถ่ายรูปกับรูปปั้น นางแห่งนกนางนวล (MAIDEN WITH THE SEAGULL) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง มีเวลาอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านได้เดินชมเมืองโอพาเทีย

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ กุ้งมังกรรสเลิศ

พักที่:  ASTORIA  HOTEL หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 4

โอพาเทีย – ซาเกรป – ชมเมืองเก่า

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านเดินทางสู่กรุงซาเกรบ Zagreb เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย(170 ก.ม.) ดินแดนแห่งทะเลอะเดรียติค ซึ่งมีความเก่าแก่แฝงด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง เมืองซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันประชาชนชาวโครแอทมีวิถีชีวิตเยี่ยงชาวยุโรปที่เจริญโดย ทั่วไป การคมนาคมภายในกรุงซาเกรบสะดวกสบายนิยมใช้รถรางเป็นพาหนะ สัญจรนับสิบสาย ทั่วทั้งเมือง กรุงซาเกรบประกอบด้วยเขตเมือง Upper Town ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต Lower Town  ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 และเขตเมืองใหม่ที่สร้างสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำท่านชมมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่สร้างในสไตล์นีโอโกธิค ชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูกมาก นำท่านสู่เขต Upper Town ชมวิหารเซนต์มาร์ก (St.Marks Church) ที่มีหลังคากระเบื้องปูเป็นลวดลายรูปตราของกองทหารแห่งยุคกลาง ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของซาเกรบ ชมโบสถ์ประจำเมืองเก่าเซนต์แคทเธอรีน บริเวณแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี (President Palace)

นำท่านชมจุดชมวิวที่ท่านสามารถเห็นกรุง Zagreb ที่หลังคาอาคารเป็นสีแดงอิฐทั้งเมือง จากนั้นนำท่านนั่งรถราง (Uspinjaca) ลงสู่ Lower Town เชิญท่านเที่ยวชมย่านธุรกิจการค้าที่ทันสมัยที่ถนนลิกา (Lica Street) แวะชมจัตุรัส Trg Ban Jelacic Square จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย แหล่งชุมชนของชาว Zagreb ชมอนุสาวรีย์ ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848 

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

พักที่: Hotel Dubrovnik Zagrab / เทียบเท่าระดับใกล้เคียง

วันที่ 5

อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ – ซิบินิค

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ได้เวลาพอสมควร นำท่านออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ  Plitvice Lakes National Park ระยะทาง 166  กม. ระหว่างทางผ่านเมือง Karlovac และ Slunj ชมธรรมชาติและความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับทุ่งหญ้าฟาร์มเกษตรที่อุดมสมบูรณ์

นำท่านเข้าชมอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ เป็นอุทยานแห่งชาติหนึ่งในแปดของโครเอเชียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 3,000 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบน้อยใหญ่ 16 แห่ง เชื่อมต่อด้วยสะพานไม้ ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา นำท่านเพลิดเพลินกับความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ท่านจะสังเกตเห็นหญ้ามอสที่ชุ่มฉ่ำชั่วนิรันดร์กาล ชมฝูงปลาแหวกว่ายในน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น ชมน้ำตก The Plitvice Water Fall ที่ใหญ่ที่สุดในอุทยาน จากนั้นนำท่านเดินลัดเลาะสู่ Donja Jezira เพื่อล่องเรือในทะเลสาบ Jezero Kozjak เต็มอิ่มกับความงามของทะเลสาบและหุบเขา

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำท่านออกเดินทางสู่เมืองซิบินิค (ระยะทาง 180 กม.) นำชมตัวเมืองชิบินิค เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอะเดรียติคที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากเวนิส  และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของ Dalmatia เป็นที่รวมศิลปะโบราณยุคก่อน  ประวัติศาสตร์ มากมาย ชมโบสถ์เซนต์จาคอบ (เซนต์เจมส์) อันงดงาม ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยเรอเนสซองต์ในปี ค.ศ.1431 ในสถาปัตยกรรมแบบเวนิส-โกธิค ผสมศิลปะทอสคาโนเรเนสซองส์ โดยศิลปิน Jura Dolmatinae โบสถ์นี้มีเอกลักษณ์ด้วยโคมหลังคาของมหาวิหารตลอดจนรูปสลักศีรษะคนประดับโดดเด่นรอบมหาวิหาร

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

พักที่: Punta Hotel / เทียบเท่าระดับใกล้เคียง

วันที่ 6

ซิบินิค – วอดิเซ่ – ทรอเกียร์ – สปลิท

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่เมืองทรอเกียร์ / เมืองทรอเกียร์(Trogir) เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคอารยธรรมกรีกโรมัน เมื่อ 380 ปีก่อนคริสตกาล ตัวเมืองเก่าเป็นเกาะเล็กๆเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานหินอันเก่าแก่ บริเวณเกาะมีแนวกำแพงป้อมปราการโบราณ ชมวิหารเซนต์ลอเรนซ์หอนาฬิกาเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 15 ชมจัตุรัสภายในบริเวณเมืองเก่า เมืองนี้องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1997 ได้เวลาพอสมควร

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร  

บ่าย    นำท่านออกเดินทางสู่เมืองสปลิท (ระยะทาง 27 กม.) นำชมมืองสปลิท ชมศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนซองส์ที่สร้างในศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่  นำท่านชมย่าน People Square ศูนย์กลางทางธุรกิจ และการบริหาร เมื่อสมัยศตวรรษที่ 15 แวะชมสิ่งก่อสร้างที่มี ชื่อเสียง เช่น รูปภาพแกะสลักสมัย Venetian-Gothic Cambi Palace และ Renaissance  Town Hall ที่สร้างขึ้นในช่วงแรกของศตวรรษที่ 15

นำท่านชม พระราชวัง ดิโอคลีเธี่ยน (Diocletian Palace)ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ในปี 295 ซึ่งใช้เวลาในการ   ก่อสร้างถึง 10 ปี พระราชวังแห่งนี้ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

นำท่านชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้าง (Peristyle) ซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม ชมยอดระฆังแห่งวิหาร The Cathedral Belfry แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาซิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหารชมจัตุรัสประชาชน (People’s Square) ชมรูปปั้นของ Gregory Of Nin ผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชีย

ค่ำ    บริการอาคารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก

พักที่: Grand Hotel Park / เทียบเท่าระดับใกล้เคียง

วันที่ 7

สปลิท – มาลี สตอน – นีอุม – ดูบรอฟนิค – ชมเมือง

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นําท่านเดินทางสู่ ท่าเรือมาลี สตอน (Mali Ston) ก่อนเดินทางถึงเมืองมาลี สตอน ท่านจะได้ข้ามพรมแดน เข้าสู่ประเทศบอสเนีย (แวะถ่ายรูป) บริเวณเมืองที่มีชื่อว่า เมืองนีอุม เป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชากรส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย ต่อด้วยนําท่านเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ประเทศโครเอเชีย เมื่อถึงเมืองมาลี สตอน นําท่านล่องเรือเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงหอย ให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก พร้อมด้วยเครื่องเคียง พร้อมจิบไวน์ ช่วยเพิ่มรสชาติ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวมาลี สตอน

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร เมนูปลาทะเลรสเลิศ

บ่าย    นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองดูบรอฟนิค เมืองมรดกโลกที่ แขวนตัวอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ที่พรหมแดนติดต่อกับประเทศบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า นำท่านลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอเดรียติคซึ่งท่านจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเล ที่มีบ้าน เรือนหลังคากระเบื้องสีแสด สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ ชมเมืองดูบรอฟนิค เมืองหลวงของมณฑล Dubrovnik-Neretva อยู่ทางตอนใต้ของแคว้น Dalmatia ที่องค์การ UNESCO ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1995 นับเป็นเมืองสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งที่สวยงามติดอันดับต้น ของโลก  ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟบ้านเรือนกว่าครึ่งและอนุสาวรีย์ต่างๆ ทรุดโทรมเสียหาย หลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญา Erdut สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะซ่อมแซมเมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิคกลับมาสวยงามอีกครั้ง ชมทัศนียภาพของเมืองดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามริมฝั่งทะเล อะเดรียติค ตัวเมืองเก่ามีป้อมปราการโบราณความยาว 190 เมตรล้อมรอบ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ความโด่งดังเทียบได้กับ แกรนด์แคนนหรือแกรนด์คาแนลแห่งเวนิส อิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก

พักที่:  Neptun Hotel / หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 8

ดูบรอฟนิค – นั่งกระเช้าชมวิว – ล่องเรือชมอ่าว – ชมเมือง

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นําท่านเดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์เพื่อขึ้นกระเช้าไฟฟ้า สู่ Srd Hill เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีและความงดงามทะเลอาเดรียติกยามสีนํ้าเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคําบรรยายใดๆ

จากนั้นนําท่านล่องเรือพาโนราม่า ชมความสวยงามของเมืองเก่าดูบรอฟนิคให้ครบทุกมุมมอง โดยเรือพาโนราม่าจะล่องเลียบกําแพงเมืองเก่ามุ่งหน้าสู่ “เกาะล็อกครุม” (Lokrum) ในอดีตสมัยสงครามครูเสด กษัตริย์ริชาร์ดใจสิงห์แห่ง อังกฤษเคยมาแวะพัก ณ เกาะล็อกครุมแห่งนี้ แล่นชมเกาะโดยรอบ ได้เวลาสมควรนำท่านกลับสู่ท่าเรือดูบรอฟนิค

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำท่านเที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิค ซงถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรมโดยมีการบูรณะเมืองสวนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง ชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิคมีที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

ชมแนวกําแพงป้อมปราการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ที่ท่านสามารถขึ้นไปชมความงดงามของตัวเมืองได้อย่างดีจากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทําผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน, หอนาฬิกาที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลักสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทําด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรม ในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจําเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง

จากนั้นนําท่านเดินขึ้น “ชมกําแพงเมืองโบราณ” ชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กําแพงแห่งนี้ มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงาม โดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกําแพงเมืองโบราณแห่งนี้ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค

นำท่านเดินชมแนวกำแพงป้อมปราการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ที่ท่านสามารถขึ้นไปเดินชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองได้ นำชม The Cathedral Treasury หนึ่งในโบสถ์เก่าแก่ที่สะสมโบราณวัตถุของพ่อค้าวาณิช ที่ได้ทำการค้าขายกับชาวเวนิซในอดีต ชมหอนาฬิกาโบราณ (Bell Tower Clock) ชม Rector’s Palace ศูนย์กลางการบริหารเมืองดูบรอฟนิคในอดีต ที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมัน

นำท่าน เข้าชม Sponza Palace ที่สร้างขึ้นในคริตศตวรรษที่  14  ปัจจุบันเป็นที่เก็บรักษาเอกสารโบราณที่สำคัญๆ รวมถึงจารึกภาษาละตินโบราณ ที่ใช้เตือนใจพ่อค้าวาณิชทางทะเลให้มีความซื่อสัตย์ไม่คดโกง  นำท่านลัดเลาะตามซอกซอยระหว่างอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ภายในป้อมปราการ ชม Dominican Monastery Church Of St.Blaise ในสไตล์บาร็อค, Fort Of  St.John, ประตู Pile Gate,Ploce Gate เป็นต้น

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูสเต๊กเนื้อรสเลิศ พร้อมไวน์แดง หรือเครื่องดื่มอื่นๆ

*** หมายเหตุ ท่านใดไม่ทานเนื้อกรุณาแจ้งแผนกเซลล์ ทางบริษัท จะเปลี่ยนเป็นสเต๊กหมูแทน ***

พักที่: Neptun Hotel / หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 9

ดูบรอฟนิค – ชาฟตัท – สนามบิน – เวียนนา (เปลี่ยนเครื่อง)

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นําท่านช้อปปิ้งละลายเงินคูน่า ก่อนเดินทางออกจากประเทศโครเอเชีย ซื้อของฝากจาก “Konzum” ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่มีสนค้าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “KRAS” ช๊อคโกแลตท้องถิ่น ยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก, ไวน์ จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น “Plavac Mali” คุณภาพระดับเดียวกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาเลี่ยน และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้ เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

13.00 น.     นําท่านออกเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิค (หากมีการทําการคืนภาษีกรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ให้ทราบด้วย)

14.55 น.     ออกเดินทางกลับสู่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 732 

16.25 น.    เดินทางถึงกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

20.15 น.    ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่  OS015 

วันที่ 10

กรุงเทพฯ

11.25 น.    ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ…

หมายเหตุ...โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ  จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เวียนนา  //  ดูบรอฟนิค-กรุงเทพฯ (หรือสลับประเทศลงก่อน-หลัง)
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12ช.ม./วัน 
  • โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก 
  • ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม
  • ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ 
  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้  และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท
  • ค่ายกกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กก. /กระเป๋าใบเล็กอยู่ในความดูแลของท่านเองไม่เกิน 7 กก.
  • ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น ระหว่างการท่องเที่ยวในยุโรป 

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % 
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด , ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ 
  • ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พัก และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ตามวัฒนธรรมการบริการแบบสากลโลก ท่านละ 100 บาทต่อวัน 

ราคา

THB 10,000,000

20 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more