แกรนด์ตุรกี 10 วัน 7 คืน แกรนด์ตุรกี 10 วัน 7 คืน แกรนด์ตุรกี 10 วัน 7 คืน แกรนด์ตุรกี 10 วัน 7 คืน แกรนด์ตุรกี 10 วัน 7 คืน

แกรนด์ตุรกี 10 วัน 7 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

23.30 น.   สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

วันที่ 2

โดฮา – อาดานา – คัปปาโดเกีย

02.35 น.    ออกเดินทางสู่ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS เที่ยวบินที่ QR837

05.30 น.    เดินทางถึงประเทศกาตาร์ ให้ท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง (ในเวลาเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)

07.25 น.    ออกเดินทางสู่ เมืองอาดานา โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS เที่ยวบินที่ QR438

11.25 น.    เดินทางถึงท่าอากาศยานอาดานา ซากีร์ปาซา ประเทศตุรกี หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้า เมือง และด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำคณะท่านเดินทางสู่ “เมืองคัปปาโดเกีย”(Cappadocia) เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามมาก ซึ่งองค์การยูเนสโก้ ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก นำท่านเก็บภาพ “มัสยิดซันเกอ เบย์” (Sungurbey Mosque)

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” (Belly Dance) อันเลื่องชื่อ ณ เมืองคัปปาโดเกีย ระบำหน้าท้องเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง)

พักที่ : AVRASYA HOTEL  หรือที่พักระดับใกล้เคียง                                          

วันที่ 3

คัปปาโดเกีย – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ – นครใต้ดิน – อุชิซาร์ – กรุงอังการา

05.00    สำหรับท่านที่สนใจ ขึ้นบอลลูน เพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้น ท่านสามารถเลือกซื้อ Optional Hot Air Balloon Tour ได้ ราคาประมาณ 230 USD ต่อท่าน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional tour ขึ้นกับดุลยพินิจของท่าน)

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านชม “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่” (Goreme Open Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ นำคณะท่านชม “เมืองคัปปาโดเกีย” (Cappadocia) ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย  เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์(ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในรูปภาพดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดีตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีเป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็น แผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปีจนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้ นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปีค.ศ. 1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี

ชม “นครใต้ดิน” (Underground City) เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้ 

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    จากนั้นนำท่านแวะ “ชมโรงงานทอพรม” (Carpet Factory)  “โรงงานเซรามิค” (Pottery) และ “ร้านจิวเวอร์รี่”(Jewellery) สินค้าคุณภาพดี และขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัยอิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก นำคณะท่านเดินทางสู่ “กรุงอังการา” (Ankara) เมืองหลวง ของประเทศตุรกี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล ตั้งอยู่กึ่งกลางของประเทศและพัฒนาเติบโตขึ้นมา โดยได้รับอิทธิพลจากทั้งฝั่งยุโรปและตะวันออกกลาง จึงทำให้เป็นอีกเมืองที่มีความผสมผสานที่เเสนจะลงตัวเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การมาสัมผัส

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่ : ATALAY HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง                                          

วันที่ 4

อังการา – อิสตันบูล – สุเหร่าสีน้ำเงิน – พระราชวังทอปคาปี – สุเหร่าเซนต์โซเฟีย

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำคณะท่านเดินทางสู่ “เมืองอิสตันบูล” (Istanbul) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล อิสตันบูล ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้อิสตันบูลมีเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำชม “สุเหร่าสีน้ำเงิน” (Blue Mosque) หรือชื่อเดิม คือ สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 (Sultan Ahmed Mosque) **การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่งจะต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม**  สุเหร่านี้สร้างในปี 2152 เสร็จปี 2159 (1 ปีก่อนสุลต่านอาห์เหม็ดสิ้นพระชนม์ด้วยอายุเพียง 27 พรรษา) มีหอเรียกสวด อยู่ 6 หอ เป็นหอคอยสูงให้ผู้นำศาสนาขึ้นไปตะโกนร้องเรียกจากยอด เพื่อให้ผู้คนเข้ามาสวดมนต์ตามเวลาในสุเหร่า  ชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิคลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่น กุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ มีหน้าต่าง 260 บาน สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป เช่น ห้องสมุด โรงพยาบาล โรงอาบน้ำ ที่พักกองคาราวาน โรงครัวสาธารณะคุลีเรีย (Kulliye)  *** หมายเหตุ สุเหร่าสีน้ำเงินปิดบูรณะซ่อมแซมตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม – เดือนมิถุนายน 2561 ***

นำท่านเข้าชม “พระราชวังทอปคาปี” (Topkapi Palace) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปคาปี สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส โกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคน

นำท่านเข้าชม “สุเหร่าเซนต์โซเฟีย” (Saint Sophia) หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ก่อนจะได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายให้เป็น 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบเซนไทน์ (Byzantine) ทั้งนิกายออร์โธดอกซ์ และคาทอลิกกรีก ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่ : RAMADA ENCORE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง  

วันที่ 5

อิสตันบูล – ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส – แกรนด์บาซ่าร์ – ไอวาลิค

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำคณะท่าน “ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส” (Bosphorus Cruise) ถือเป็นหนึ่งในช่องแคบเลื่องชื่ออันดับต้นๆของโลก เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แบ่งอิสตันบูลออกจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อกับทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea Of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ ระหว่างการล่องเรือ ผ่านชม “พระราชวังโดลมาบาเชห์” (Dolmabahce Palace) สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมซิด (Abdul Mecit) ในปี 2399 ใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป

จากนั้น นำท่านสู่ “แกรนด์บาซาร์” (Grand Bazaar) ตลาดช้อปปิ้งที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดในตุรกีเป็นตลาดสไตล์เตอร์กิชแท้ ๆ ภายในตลาดตกแต่งไว้อย่างสวยงามและเป็นตลาดเก่าแก่เปิดมานานกว่า 1,500 ปี ซึ่งสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1453 มีเนื้อที่ทั้งหมดเกือบ ๆ 200 ไร่ มีร้านค้าขายของต่าง ๆ มากถึง 5,000 ร้านค้า ที่ตลาดแกรนด์บาซ่าร์มีสินค้าให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นของกินเล่นขนมของตุรกีที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ ของที่ระลึกที่แนะนำก็จะเป็น ลูกปัดตาปีศาจ เครื่องราง  ชา ผลไม้อบแห้ง  ถั่วหลากชนิดเช่น ถั่วแมคคาดาเมีย พิตาชิโอ หรือจะเป็นขนมหวาน เตอร์กิสดีไลต์  เครื่องเทศ  เซรามิก จาน ชาม แจกัน เครื่องดนตรีพื้นเมือง โคมไฟ พวงกุญแจหรือกระเบื้องเพนท์ติดผนัง  และของที่ระลึกอื่น ๆ

เที่ยง     บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ “เมืองไอยวาริค” (Ayvalik)

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่ :  HALIC PARK HOTEL  ที่พักระดับใกล้เคียง      

วันที่ 6

ไอวาริค – เอเฟซุส – ปามุคคาเล่

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ “เซลจุก” ( Selcuk)  เมืองโบราณขนาดเล็กไม่ไกลจากเมืองโบราณในเอเฟซุส จากนั้นนำคณะชม “โรงงานเครื่องหนัง” ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี

จากนั้นนำคณะท่านชม “เมืองโบราณเอเฟซุส” (Ephesus) หรือเอเฟส เมืองโบราณยุคกรีกโรมัน เป็นเมืองเก่ายุคจักรวรรดิโรมันที่ถือว่าเจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปะวิทยาการ มีระบบวางท่อน้ำ หอสมุด และอื่นๆรวมทั้งโรงละครใหญ่ทรงโค้งแบบพิมพ์นิยมของกรีกโบราณ มีลานกว้างตรงกลาง แบ่งที่นั่งคนดูเป็น 3 ชั้นตามระดับความสำคัญไล่ไปจนถึงคนธรรมดาสามัญ ใช้เป็นที่เป็นที่ประชุม จัดแสดงละครและการต่อสู้สิงสาราสัตว์ของเหล่าทาส

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำคณะออกเดินทางสู่ “เมืองปามุคคาเล่” (Pamukkale) คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำ ปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้วเป็นแอ่งเป็นชั้นลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามแปลกตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปีค.ศ. 1988

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ : TRIPOLIS HOTEL ที่พักระดับใกล้เคียง       

วันที่ 7

ปามุคคาเล่ – เฮียราโพลิส – ปราสาทปุยฝ้าย – คอนย่า – พิพิธภัณฑ์เมฟลานา

เช้า    บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำคณะท่านชม “นครโบราณเฮียราโพลิส” หรือนครศักดิ์สิทธิ์ ( Hierapolis) สันนิษฐานกันว่ามีอายุประมาณ 2200 ปี เพราะถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาล ในยุคของกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน โดยสร้างให้อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำแร่ร้อนปามุคคาเล่ แต่หากถอดความคำว่าเฮียราโพลิส หมายถึง เมืองแห่งความศักดิ์สิทธ์ เช่นเดียวกับเมืองทุกเมืองที่มียุครุ่งโรจน์และยุคเสื่อมถอยเฮียราโพลิสเองก็เป็นแบบนั้น หลังจากเมืองนี้ถูกยกให้พวกโรมัน ก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงจนเมืองย่อยยับ ประมาณปลายศตวรรษที่ 2 เฮียราโพลิส ค่อยๆถูกบูรณะฟื้นฟูขึ้นใหม่ จนก้าวสู่ศตวรรษที่ 3 ด้วยความรุ่งโรจน์สุดๆแต่เวลาเคลื่อนไปถึงศตวรรษที่ 7 ก็ถึงยุคเสื่อม เมื่อถูกข้าศึกต่างถิ่นรุกราน นอกจากนี้ยังได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว

จากนั้น นำท่านชม “ปราสาทปุยฝ้าย” (Cotton Castle) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้ มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำคณะท่านออกเดินทางสู่ “เมืองคอนย่า” (Konya) เป็นเมืองที่นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกีหรือที่ยุคนั้นเรียก อนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ นำท่านชม “พิพิธภัณฑ์เมฟลานา” (Mevlana Museum) อาคารหลังใหญ่ที่มีโดมสีเขียวทรงแปลกตาหลังนี้แม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน แต่ในอดีตแล้วที่นี่คือสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามที่สร้างโดย “เมฟลานา เจลาลุดดีน รูมี” ( Mevlana Celaleddin Rumi ) และบรรดานักบวชในศาสนาจะใช้เป็นที่สวดมนต์ทำสมาธิด้วยวิธีการอดอาหารเพื่อทรมานตัวเองแล้วไปเดินหมุนวนเป็นวงกลมพร้อมกับการทำจิตให้สงบด้วยการฟังเสียงขลุ่ยเรียกวิธีนี้ว่า “Whirling Dervishes” ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะมีสวนสวยริมทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหิน ส่วนพิพิธภัณฑ์นั้นก็ยังตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ก็เป็นไปในรูปแบบของมุสลิมด้านหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นสุสานของ เมฟลานา เจลาลุดดีน รูมี ผู้สร้าง ตลอดจนคนในครอบครัวและกลุ่มลูกศิษย์ผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดท่านด้วย อีกทั้งในวันที่ 17 ธันวาคมของทุกปีจะมีการเฉลิมฉลองวันครบรอบการจากไปของเมฟลานาเมื่อปี ค.ศ. 1271

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่ : OZKAYMAK HOTEL  ที่พักระดับใกล้เคียง       

วันที่ 8

คอนย่า – อาดานา – ชมเมือง

เช้า     บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ “เมืองอาดานา”  (Adana) เป็นเมืองทางตอนใต้ของประเทศตุรกี และเป็นศูนย์กลางการค้าและกสิกรรมที่สำคัญ เมืองตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเซย์ฮาน อยู่ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนราว 30 กม. เป็นเมืองหลวงของจังหวัดอาดานา

เที่ยง    บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำคณะท่านชม “หอนาฬิกา” (The Great Clock Tower) เป็นหอนาฬิกาประจำเมือง สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1882 มีความสูง 32 เมตรอีกทั้งเป็นหอนาฬิกาที่สูงที่สุดในประเทศตุรกี จากนั้นชม “สุเหร่าอูลู คามิล” (Great Mosque) สุเหร่าโบราณแห่งศตวรรษที่ 16 ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างในยุคเมดิอิวัลที่มีความสวยงาม ชม “สะพานหิน” (Tas Kopru) เป็นสะพานโรมันทอดแม่น้ำเซย์ฮาน (Seyhan) ในอาดานาที่อาจสร้างขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่สอง สะพานเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในเส้นทางการค้าโบราณจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังอนาโตเลีย (Anatolia) และเปอร์เซีย (Persia) เป็นอีกสะพานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ค่ำ    บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่ : GOLDEN DELUXE HOTELที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 9

สนามบิน – โดฮา

เช้า     บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

สมควรแก่เวลา นำคณะท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานอาดานา ซากีร์ปาซา

12.25    เหินฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS Q เที่ยวบินที่ QR439

16.15    เดินทางถึงประเทศกาตาร์ ให้ท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง 

18.30    เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS Q เที่ยวบินที่ QR826

วันที่ 10

กรุงเทพฯ

05.30    เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

หมายเหตุ    โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ,ฟ้า , อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดย เวิลด์ คอนเน็คชั่นส์  ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ  จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (กรุงเทพฯ-อาดานา-กรุงเทพฯ)
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน 
  • โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาล เทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก 
  • ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ 
  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรรม์)/หากผู้เดินทางอายุเกิน 75ปี หรือไม่ได้เดินทางไปและกลับพร้อมคณะ (ต้องซื้อประกันเพิ่ม) 
  • น้ำดื่มบริการบนรถโค้ช อาหารเสริม และขนมขบเคี้ยว
  • หากท่านลืมสัมภาระไว้ในห้องพัก มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคืน และอาจเกิดความล่าช้าหรือสูญหายได้

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % 
  • น้ำดื่มบนรถ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด , ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ 
  • ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พัก และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น วันละ 5 USD / ท่าน / วัน 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ตามวัฒนธรรมการบริการแบบสากลโลกท่านละ 100 บาทต่อวัน 

ราคา

THB 10,000,000

20 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more