ฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์-อิตาลี 9 วัน 6 คืน
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
กรุงเทพฯ–ดูไบ
17.30 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
20.35 น. ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่ 2
ดูไบ-ปารีส-หอไอเฟล-ประตูชัย-พิพิธภัณฑ์ลูฟร์-ร้านค้าปลอดภาษี-ล่องเรือบาโตมูซ
00.50 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.20 น. เดินทางสู่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 71 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
08.00 น. เดินทางถึงเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่น สูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889 นำท่านถ่ายรูปประตูชัย ชมทิวทัศน์ของร้านค้าบูติคชั้นนำระดับโลกที่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนชองเชลิเช ต้นแบบถนนราชดำเนิน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายรูปหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงาน ทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นราคาถูกใน ร้านค้าปลอดภาษี (DutyFreeShop)อาทิ เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม นาฬิกาหรือกระเป๋า นำท่านล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches River Cruise) ไปตามแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่าง ๆ ตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Mercure Paris Velizy หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 3
พระราชวังแวร์ซายส์-นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV-เมืองสตราสบูร์ก
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปารีส ณ เมืองแวร์ซายส์ นับเป็นพระราชวังวังที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามอลังการมากจนติดหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม พระราชวังสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ภายในประกอบด้วยห้องถึง 700 ห้อง รูปภาพทรงคุณค่า 6,123 ภาพ และงานแกะสลักจากศิลปินชั้นเอก 15,034 ชิ้น โดยมีห้องกระจก (Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) อันแสนโด่งดังจากการเป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งถือเป็นห้องแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญทั้งยังมีขนาดใหญ่จำนวน 17 บาน ที่สามารถเป็นจุดชมวิวทัศน์ของสวนแวร์ซายที่สวยงาม ด้วยทุกๆเหตุผลมารวมกันจึงทำให้พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศสไม่แพ้หอไอเฟล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านนั่งรถไฟความเร็วสูง TGV เพื่อเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก TGVเป็นรถไฟที่ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มต้นจากแนวความคิดที่ต้องการจะพัฒนารถไฟซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบการคมนาคมขนส่งสาธารณะที่เป็นที่นิยมสูงที่สุดประเภทหนึ่งของแถบทวีป เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่และอยู่เกือบใจกลางของทวีปยุโรป ดังนั้นการเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศจึงต้องมีระบบการคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวกรวดเร็ว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ 7 Hotel & Fitness Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 4
สตราสบูร์ก-มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก-อินเทอลาเก้น-ช้อปปิ้ง
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม เมืองสตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม นำท่านชม จัตุรัสเกลแบร์ จัตุรัสที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเมืองสตราสบูร์ก โดยภายในจัตุรัสยังเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นช็อง แบ๊บติสต์ เกลแบร์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องสงครามการปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส นอกจากนั้นในบริเวณใกล้เคียงยังมีสิ้นค้าแบรนเนอมอีกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อกัน
นำท่านถ่ายรูปและเข้าชม มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก มหาวิหารประจำเมืองสตราสบูร์ก คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1176 ถึง 1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูงามระหงโดดเด่นเห็นแต่ไกลและถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอลาเก้น เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็ก ๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่น ๆ อีกมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ City Oberland Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 5
แองเกลเบิร์ก-ทิตลิส-ลูเซิร์น-สะพานไม้ชาเปล-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก เพื่อนั่งกระเช้าหมุนแห่งแรกของโลก สู่ ยอดเขาทิตลิส (TITLIS) แหล่งเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ภาคกลาง ที่หิมะคลุมตลอดทั้งปีสูงถึง 10,000 ฟิต หรือ 3,020 เมตร บนยอดเขาแห่งนี้หิมะจะไม่ละลายตลอดทั้งปี * นั่งกระเช้ายักษ์ที่หมุนได้รอบทิศเครื่องแรกของโลกที่ชื่อว่า REVOLVING ROTAIR จนถึงสถานีบนยอดเขาทิทลิสซึ่งเป็นอาคารใหญ่มีทั้งหมด 4 ชั้น และบริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด จะเป็นชั้นที่ท่านสามารถเดินย่ำหิมะออกไปยังลานกว้างซึ่งเป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ท่านสามารถเที่ยวชมส่วนอื่นๆของเยอดเขาได้ไม่ว่าจะเป็นถ้ำน้ำแข็ง ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารอิสระอาหารกลางวัน ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารได้จากห้องอาหารบนยอดเขาทิตลิส ถึงเวลาอันสมควร
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วย ดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม
นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด
นำท่านชมรูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Ibis Style Luzern City หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 6
มิลาน-มหาวิหารเมืองมิลาน-แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน (MILAN) เมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายรูปบริเวณ ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่า ดูโอโม่ (DUOMO) ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัยและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Klima Hotel Milano Fiere หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 7
เวนิส-พระราชวังดอดจ์—จัตุรัสมาร์โค-สะพานถอนหายใจ-เวนิส เมสเตร้
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ซึ่งเกาะเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเดินทางสู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส
จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชม สะพานถอนหายใจ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับ วังดอดจ์ อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือคาสโนว่านั่นเอง
นำท่านถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสซานมาร์โค ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค ที่มีโดมใหญ่ 5 โดมตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, ชมโบสถ์ซานมาร์โค, เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Cafe Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 หลังจากนั้น นำท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
สมควรแก่เวลานำท่านล่องเรือกลับขึ้นสู่ฝั่งเมสเตร
และนำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Bedbank Venice Mestre หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 8
McArthur Glen Outlet-สนามบิน-ดูไบ
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Noventa Di Piave Designer Outlet ให้ท่านได้เลือกเดินซื้อสินค้าตามใจชอบ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน
15.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 136 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่ 9
ดูไบ-กรุงเทพฯ
00.15 น. เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 376 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
12.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
**************************************
ร้านค้าในยุโรปส่วนใหญ่จะปิดทำการในวันอาทิตย์ โปรแกรมการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า
อัตรานี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด (ECONOMY CLASS) โดยสายการบินเอมิเรตส์ (เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ)
- ค่าที่พัก 3-4 ดาว (ห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ (ขอสงวนสิทธิ์ในการย้ายเมืองเข้าพัก ในกรณีที่ไม่ สามารถเข้าพักที่เมืองนั้นๆได้ เช่น ติดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า งานประชุม เหตุสุดวิสัยต่างๆ ฯลฯ)
- ค่ารถปรับอากาศ และบริการนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
- ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในรายการ
- ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
- ค่าประกันภัยในการเดินทาง 2,000,000/500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
- หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง (ไม่รวมค่าทิป)
อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ
- ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก พนักงานยกกระเป๋า
- ค่าวีซ่าเชงเก้น 3,500 บาท (สถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมทุกกรณี)
- ค่าทิปคนขับรถท้องถิ่น (2 ยูโร x 6 วัน = 12 ยูโร)
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย วันละ 100 x 9 วัน = 900 บาท