TOKYO STRONG PINKMOSS  5 D 3 N (BY XJ) TOKYO STRONG PINKMOSS  5 D 3 N (BY XJ) TOKYO STRONG PINKMOSS  5 D 3 N (BY XJ) TOKYO STRONG PINKMOSS  5 D 3 N (BY XJ) TOKYO STRONG PINKMOSS  5 D 3 N (BY XJ)

TOKYO STRONG PINKMOSS 5 D 3 N (BY XJ)

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – สนามบินดอนเมือง

20.30 น.    พร้อมกันที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง  จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 มีบริการอาหารร้อนเสิร์ฟทั้งขาไปและขากลับ (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)

23.45 น.    เหิรฟ้าสู่เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ600 บริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่ 2

นาริตะ-วัดอาซากุสะ–ถ่ายรูปกับโตเกียวสกายทรี–โอวาคุดานิ–ช้อปปิ้งโกเทมบะเอ้าท์เล็ท อาบน้ำแร่ธรรมชาติ + ทานขาปูยักษ์

08.00 น.    ถึง เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่โตเกียว นำท่าน เก็บภาพประทับใจกับคู่กับแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว ณ ริมแม่น้ำสุมิดะ หอคอยโตเกียวสกายทรี” (Tokyo Sky tree) หอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก ... เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2555 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สร้างด้วยเทคนิคทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอันทันสมัย ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หอคอยแห่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่แข็งแรงทนทาน เพราะไม่เกิดความเสียหายแม้แต่น้อย

ชม วัดอาซากุสะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว เข้านมัสการขอพรจากพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ  นอกจากนั้นท่านยังจะได้พบเก็บภาพประทับใจกับโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตรซึ่งแขวนอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด และยังสามารถเลือกซื้อเครื่องรางของขลังได้ภายในวัด ฯลฯ

หรือเพลิดเพลินกับ ถนนนาคามิเซ ถนนช้อปปิ้งที่มี ชื่อเสียงของวัด มีร้านขายของที่ระลึกมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลัง ของเล่นโบราณ และตบท้ายด้วยร้านขายขนมที่คนญี่ปุ่น มายังวัดแห่งนี้ต้องมาต่อคิวกันเพื่อลิ้มลองกับรสชาดสุดแสนอร่อย

นอกจากวัดอาสากุซะจะเป็นวัดที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นแล้ว ถนนช้อปปิ้งนาคามิเซก็ยังเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของวัดอีกด้วยแล้วจะไม่ให้มีขนมขึ้นชื่อของวัดได้อย่างไร ขนาดองค์จักรพรรดิ์ยังรับสั่งคนสนิทให้มาซื้อที่นี่!!! เมนูนั้นก็คือ “เมล่อนปัง” เป็นขนมปังแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นขนมปังสอดไส้เมล่อน แต่จริงๆแล้วคือขนมปังอบแล้วยด้านบนมีลายแตกๆ ซึ่งเหมือนผิวเมล่อนของญี่ปุ่น เป็นที่มาของชื่อ “เมล่อนปัง” นั่นเอง ซึ่งปกติก็จะหาทานได้ทั่วไปแม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อต่างๆ แต่ที่ขึ้นชื่อก็ต้องยกให้ร้าน Asakusa Kagetsu-do ที่ขายเมล่อนปังรสดั้งเดิมและซอฟครีมหลากรส ที่ร้านนี้จะทำใหม่ๆอบเสร็จจากเตาร้อนๆ ขนมเมล่อนปังจะกรอบนอกนุ่มใน หวานกำลังดีซึ่งเป็นเมนูแนะนำที่มาถึงวัดอาซากุสะแล้วต้องลอง ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ หุบเขาโอวาคุดานิ ที่ยังครุกรุ่นด้วยควันจากบ่อกำมะถันเดือดอยู่ตลอดเวลา ชมบ่อน้ำแร่กำมะถันซึ่งสามารถต้มไข่ให้สุกได้ โดยชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้ทานไข่ดำหนึ่งฟองจะสามารถทำให้อายุยืนยาวขึ้นอีกประมาณ 7 ปี

หลังจากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ โกเทมบะ แฟคทอรี่ เอ้าท์เล็ต แหล่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังไปทั่วโลก พบกับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ล่าสุด อาทิ MK MICHEL KLEIN, MORGAN, ELLE, CYNTHIA ROWLEY ฯลฯ เลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังได้ที่ร้าน BALLY, PRADA, GUCCI, DIESEL, TUMOI, GAP, ARMANI ฯลฯ เลือกดูเครื่องประดับ และนาฬิกาหรูอย่าง TAG HEURE, AGETE, S.T.DUPONT, TASAKI, LONGINES ฯลฯรองเท้าแฟชั่น HUSH PUPPIES, SCOTCH GRAIN, SKECHERS, HOGAN ฯลฯ

พักที่    FUJI LAND SCOLE PLAZA HOTEL หรือระดับเดียวกัน

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม *** ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับมื้อพิเศษที่มีขาปูยักษ์ให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติปูพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นอย่างจุใจ หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น

วันที่ 3

ภูเขาไฟฟูจิ – พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว - ทุ่งดอกพิงค์มอส - ดิวตี้ฟรี - ช้อปปิ้งชินจูกุ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟฟูจิ ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง3,776เมตร จากระดับน้ำทะเล นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิด ยังบริเวณ “ชั้น 5” ของภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟที่ สามารถมอง เห็นทะเลสาบทั้งห้ากระจายอยู่โดยรอบ ให้ท่านได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์บนยอดเขาฟูจิ ถ่ายภาพที่ระลึก กับภูเขาไฟที่ได้ชื่อว่ามีสัดส่วนสวยงามที่สุดในโลก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท และมีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ด้านหลังยังมี ศาลเจ้าโคมิตาเคะ ของศาสนาลัทธิชินโต เป็นที่สัการะบูชาและอธิฐานขอพร อีกทั้งยังเป็นที่สำหรับบวงสรวงท่านเทนกุ โดยมีความเชื่อว่าที่บริเวณโดยรอบของฟูจิซังชั้น 5 นี้ ถูกเรียกว่า “สวนของท่านเทนกุโดยมีความเชื่อว่าที่นี่มีท่านเทนกุปกครองอยู่นั่นเอง และยังว่ากันว่า ศาลเจ้าแห่งนี้มีสมบัติของท่านเทนกุหลงเหลืออยู่มากมาย อย่างเช่น ขวานขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักกว่า 375 กิโลกรัมตกอยู่ที่พื้นในสวน ซึ่งในสมัยก่อนมีผู้คนนิยมมาทดลองยกขวานนี้กันมากมาย เป็นต้น

สำหรับท่านที่หลงใหลในกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟนั้น บริเวณด้านหน้าภูเขาไฟฟูจิมีคาเฟ่กาแฟไว้บริการทุกๆท่านให้ใช้บริการไว้ดื่มด่ำรสชาติกาแฟพร้อมชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะเลือกช้อปปิ้งของฝากผลิตภัณฑ์ของภูเขาไฟฟูจิซึ่งมีบริการอยู่ที่ภูเขาไฟฟูจิที่เดียวหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว อาทิเช่น โคคา โคล่า ลายภูเขาไฟฟูจิ อันลิมิเต็ด , น้ำแร่ธรรมชาติภูเขาไฟฟูจิ เป็นต้น

นำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว ที่จำลองเรื่องราวของภูเขาไฟฟูจิ และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านชมดอกชิบะซากุระ หรือที่รู้จักกันในนามนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่อ”ทุ่งพิงค์มอส”ที่พร้อมเพรียงกันเบ่งบานอวดสีสันฉูดฉาดงดงาม (โดยปกติ ดอกชิบะซากุระ หรือ พิงค์มอส จะบานช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย พร้อมกับทัศนียภาพที่โดดเด่น เบื้องหลังเป็นฉากของภูเขาไฟฟูจิที่งามสง่า ท่านจะได้ชมสีสันที่เต็มทั่วทั้งภูเขา และส่งกลิ่นหอมอบอวลของดอกไม้นี้จะทำให้ทั้งเมืองหอมกรุ่นไปทั่วอาณาบริเวณ ให้ท่านได้เก็บบันทึกภาพแห่งความทรงจำแห่งความสดงามไว้รำลึก และทุกครั้งที่นำภาพถ่ายกลับมาดูอีกครั้งท่านจะรำลึกถึงบรรยากาศนี้ไปตราบนานแสนนาน

***ในกรณีที่ทุ่งดอกพิงค์มอสปิด ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค นำท่านเจาะลึกตามหาแหล่งนํ้าบริสุทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นแหล่งนํ้าตามธรรมชาติตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอชิโนะ จ.ยามานชิ หรือพูดในทางกลับกันคือกลุ่มนํ้าผุดโอชิโนะฮัคไค เพียงก้าวแรกที่ย่างเท้าเข้าไปในหมู่บ้าน ก็สัมผัสได้ถึงอากาศบริสุทธิ์ และไอเย็นจากแหล่งนํ้าธรรมชาติที่มีให้เห็นอยู่ทุกมุม โดยในบ่อนํ้าใสแจ๋วมีปลาหลากหลายพันธุ์แหวกว่ายสบายอารมณ์  แต่ขอบอกเลยว่านํ้าแต่ละบ่อนั้นเย็นเจี๊ยบถึงใจจนแอบสังสัยว่าน้องปลาไม่หนาวสะท้านกันบ้างรึ เพราะอุณหภูมิในนํ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 องศาฯนอกจากชมแล้วก็ยังมีนํ้าผุดจากธรรมชาติให้ตักดื่มตามอัธยาศัย และที่สำคัญ หมู่บ้านโอชิโนะยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าโอทอปชั้นเยี่ยม

เที่ยง     บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าย่านดัง ย่านชินจุกุ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อสินค้านานาชนิด ได้จากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านซานริโอะ ร้านขายเครื่องอิเลคทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องสำอาง ต่างๆ กันที่ร้าน MATSUMOTO แหล่งรวมเหล่าบรรดาเครื่องสำอางมากมาย อาทิ มาร์คเต้าหู้, โฟมล้างหน้า WHIP FOAM ที่ราคาถูกกว่าบ้านเรา 3 เท่า, ครีมกันแดดชิเซโด้ แอนเนสซ่าที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี  และสินค้าอื่น ๆ  หรือให้ท่านได้สนุกกับการเลือกซื้อสินค้า แบรนด์ดังอาทิ LOUIS VULTTON, UNIQLO, กระเป๋าสุดฮิต BAO BAO ISSEY MIYAKE, เสื้อ COMME DES GARCONS, H&M หรือเลือกซื้อรองเท้าหลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ NIKE, CONVERSE, NEW BALANCE, REEBOK ฯลฯ ได้ที่ร้าน ABC MART **อิสระอาหารเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง**

พักที่  MARROAD INTERNATIONAL NARITA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่ 4

อิสระเลือกช้อปปิ้งเต็มวัน หรือเลือกซื้อทัวร์ ดิสนีย์แลนด์ (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง)

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม     

อิสระเต็มวัน ให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง หรือเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยมีไกด์คอยให้คำแนะนำในการเดินทาง อาทิ

⦁   ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าหลวงในศาสนาชินโต ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศและเป็นที่สถิตย์วิญญาณขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ซึ่งเป็นจักรพรรดิที่มีความสำคัญกับประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง และได้รับความเคารพจากชาวญี่ปุ่นยุคปัจจุบันมากที่สุด  

⦁   ย่านฮาราจูกุ แหล่งรวมเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ของวัยรุ่นญี่ปุ่น หากคุณคือคนที่กำลังมองหาซื้อเสื้อผ้าแบบแปลกๆ หรือต้องการหาซื้อเสื้อผ้าแนว Cost Play ท่านยังสามารถหาได้จากที่นี่อีกด้วย หรือ ถ้าต้องการเห็นวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวแบบแปลกๆ ก็สามารถมาดูได้ที่นี่ได้ จะมีวัยรุ่นญี่ปุ่นน่ารักๆ เดินกันเต็มถนนเหมือนกับถนนสายแบรนด์เนมโอโมโตะซานโดะ นอกจากนั้นแล้ว ท่านยังได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ CHANNEL, Dior, LOUIS VULTTON, ZARA, GAP หรือสาวก ONITSUKA TIGER ที่ต้องการหารองเท้าแบบต้นฉบับ MADE IN JAPAN ที่ SHOP นี้มีแบบให้เลือกสรรมากมาย อีกทั้งยังมีร้านขายตุ๊กตา KITTY DORAENMON หรือตุ๊กตา LINE สุดแสนน่ารักไว้คอยเอาใจคุณหนู อีกทั้งยังมี SHOP ใหญ่ของ กระเป๋าสุดฮิต BAO BAO ISSEY MIYAKE, เสื้อ COMME DES GARCONS อีกด้วย 

⦁   ย่านชิบุย่า ศูนย์กลางแฟชั่นวัยรุ่นในโตเกียวหามุมถูกใจถ่ายภาพคู่ไว้เป็นที่ระลึกกับ “ฮาจิโกะ” รูปปั้นสุนัขแสนรู้ที่กลายเป็นจุดนัดพบยอดฮิตสำหรับหนุ่มสาวโตเกียว อัพเดทแฟชั่นสไตล์โตเกียวที่ตึก(109) อิจิมารุคิว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับและแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่นในฤดูต่างๆอื่นๆมากมาย หรือหากท่านใดมีความประสงค์จะเลือกซื้อดิสนีย์แลนด์เพิ่มท่านละ 2,700.- บาท (ไม่รวมค่าเดินทาง) ดีสนีย์แลนด์โลกแห่งจินตนาการของราชาการ์ตูนญี่ปุ่นซึ่งเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2526 จากการถมทะเลและใช้ทุนสร้างกว่า 600 ล้านบาท ให้ท่านสนุกสนานกับเครื่องเล่นนานาชนิด (ไม่จำกัดจำนวนการเล่น ) ผจญภัยในดินแดนต่างๆ ให้ท่านเล่นเครื่องเล่นตัวใหม่จากภาพยนตร์การตูนเรื่องดัง Toy Story ชมฉากรบกลางทะเลคาริเบียนในดินแดนโจรสลัดจากภาพยนตร์ The Pirate of Caribbean เขย่าขวัญกับบ้านผีสิงใน Haunted Mantion สัมผัสความน่ารักของตุ๊กตาเด็กนานาชาติในโลกใบเล็ก Small World ชมภาพยนตร์สามมิติThe Invention of the Year ให้ท่านได้สนุกสนานพร้อมกับการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกน่ารักในดิสนีย์แลนด์อีกทั้งยังจะได้สัมผัสกับตัวการ์ตูนเอกจากวอลดิสนีย์ อย่าง มิกกี้เม้าส์ มินนี่เม้าส์ พร้อมผองเพื่อนการ์ตูนอีกมากมายสนุกกับการจับจ่ายซื้อของที่ระลึกน่ารักในดิสนีย์แลนด์

การเดินทางจากนาริตะสู่โตเกียว

1) จากโรงแรมแถวย่านนาริตะสู่สนามบินนาริตะใช้รถบัสบริการฟรีของทางโรงแรม แต่เนื่องด้วยจะต้องเริ่มตั้ง แต่ 9.00 น.เป็นต้นไปเพราะเนื่องจากในตอนเช้าระหว่าง 6.00 - 9.00 น เป็นช่วงที่มีลูกค้าใช้บริการไปสนามบิน เป็นจำนวนมากซึ่งอาจจะทำให้ขึ้นรถบัสไม่ครบตามจำนวนผู้เดินทางทั้งหมด

2) รถไฟสาย Keisei Skyliner เป็นรถไฟที่วิ่งจากสนามบินนาริตะไปสถาณีอูเอะโนะเพียง 41 นาทีโดยใช้ความ เร็วในการวิ่ง 160 ก.ม./ชม.โดยค่าตั๋วจะอยู่ที่เที่ยวละ 2,470 เยน/ท่าน โดยเวลาที่ให้บริการ 7.28-18.20 น     เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางกลับควรเช็คเที่ยวสุดท้ายว่าหมดตอนกี่โมง

3) รถไฟสาย Narita Express (N'EX) เป็นรถไฟเข้าเมืองจากค่าย JR ถือว่าเป็นรถไฟที่ราคาค่อนข้างสูงนิดนึงแต่ตั๋วรถไฟจะเป็นแบบระบุที่นั่งบนรถไฟได้เลยโดยไม่ต้องกลัวว่าขึ้นไปแล้วเราจะไม่มีที่นั่งเบาะสามารถหมุนเข้า หากันได้มีอาหารขายบนรถไฟโดยค่าตั๋วรถไฟจะอยู่ที่ราคาเที่ยวละ 3,190 เยน/ท่านโดยเวลาที่รถไฟให้บริการตั้งแต่เวลา 7.44-19.42 น เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางกลับควรเช็คเที่ยวสุดท้ายว่าหมดตอนกี่โมง

4) Airport Limousine Bus เป็นอีก 1 ทางเลือกในการเดินทางเข้าโตเกียวแต่รถบัสนี้จะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ต่อรอบโดยต่อรอบจะรับอยู่ 35-40 ท่านต่อเที่ยวโดยจะใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 80-100 นาที ราคา 3,000 เยน/ท่าน/เที่ยว เวลาที่ให้บริการ 5.55-17.30 น ถ้าเด็กอายุตำกว่า 12 จะเสียครึ่งราคา

5) Taxi ในส่วนของรถแท็กซี่นี้ค่าโดยสารจากโตเกียว สู่โรงแรมที่พักย่านนาริตะจะอยู่ที่ราคา 20,000-25,000 เยน (โดยราคานี้จะไม่รวมค่าทางด่วน)

อิสระอาหารกลางวัน และอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย

พักที่  MAAROAD INTERNATIONAL NARITA HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

กรุงเทพฯ-สนามบินดอนเมือง

09.15 น.    เหิรฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินแอร์ เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

13.50 น.    ถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

                **************************************

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ             
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.  
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน  
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ            
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน) **ถ้ากรณีที่ทางรัฐบาลประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเพิ่ม ท่านละ 1,700 บาท**
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3500 เยน /ทริป/ต่อท่าน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน)

ราคา

THB 10,000,000

17 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more