อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน

อเมริกาตะวันตก ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ซานฟรานซิสโก [เลสโก เฮสเทีย] 9 วัน 5 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

22.00 น.  ขอเชิญคณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 9 เคาน์เตอร์ T สายการบิน Philippine Airlines โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง

วันที่ 2

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย - ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ - ท่าอากาศยานนานาชาติลอส แอนเจอลิส เมืองลอส แอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา - เมืองลอสแอนเจลิส - กริฟฟิธ พาร์ค - ป้ายฮอลลีวูด หรือ ฮอลลีวูดไซน์ - อัล เพอร์โบล เดอ ลอสแอนเจลิส - มิวสิค เซ็นเตอร์ - ไชน่า ทาวน์ แอลเอ

01.30 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยสายการบิน Philippine Airlines เที่ยวบินที่ PR741 ** ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **** ใช้เครื่องบิน Airbus A321-231 ชั้นประหยัด 169 ที่นั่ง ชั้นพรีเมี่ยม 18 ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 12 ที่นั่ง **

05.45 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

11.25 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติลอส แอนเจอลิส เมืองลอส แอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสายการบิน Philippine Airlines เที่ยวบินที่ PR112 ** ใช้เวลาบินประมาณ 13 ชั่วโมง 35 นาที บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ** ** ใช้เครื่องบิน Boeing 777-300ER ชั้นประหยัด 328 ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 42 ที่นั่ง **

10.00 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติลอส แอนเจอลิส เมืองลอส แอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกานำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ** เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 5 ชั่วโมง **

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลอสแอนเจลิส (Los Angeles) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือที่รู้จักในชื่อ แอลเอ (L.A.) เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ในประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการบันเทิง และเริ่มตั้งเป็นเมืองเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2393 (ค.ศ. 1850) ลอสแอนเจลิสได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการปะปนของวัฒนธรรมมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เนื่องจากการอพยพของคนหลายเชื่อชาติโดยเฉพาะชาวเอเชีย และ อเมริกาใต้ เนื่องจากลักษณะของอากาศที่อบอุ่นสบาย และลักษณะการเป็นอยู่ต่างๆ ชื่อเมืองลอสแอนเจลิส (Los Angeles) มาจากคำว่า โลสอังเคเลส ในภาษาสเปน หมายถึง ทูตสวรรค์หลายองค์ เป็นรูปพหูพจน์ของคำว่า el ángel ซึ่งเป็นเพศชาย ชื่อเมืองจึงมีความหมายว่า "เมืองแห่งทูตสวรรค์" ลอสแอนเจลิสได้เป็นที่รู้จักในฐานะเป็นที่ตั้งของฮอลลีวูด และปลายทางของถนนสายประวัติศาสตร์ คือทางหลวงสหรัฐหมายเลข 66 (Route 66)

** อิสระอาหารกลางวัน เพื่อสะดวกแก่การเดินทางท่องเที่ยว **

นำท่านเดินทางสู่ กริฟฟิธ พาร์ค (Griffith Park) ด้วยพื้นที่มากกว่า 4,000 เอเคอร์ ของภูมิประเทศอันเขียวขจี อีกทั้งยังเป็นสวนสาธารณะเทศบาลที่ใหญ่เป็นอันดับ 10 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ กริฟฟิธ พาร์ค ได้ชื่อว่าเป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ จากจุดนี้ท่านสามารถ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ป้ายฮอลลีวูด หรือ ฮอลลีวูดไซน์ (Hollywood Sign) ตั้งอยู่บนภูเขาลีในฮอลลีวูด ฮิลล์บนเขตพื้นที่ของเทือกเขาซานตาโมนิก้า ซึ่งเป็นหนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตสำหรับผู้คนที่แวะเวียนมายังเมืองนี้ ป้ายฮอลลีวูดสามารถมองเห็นได้จากทุกมุมในตัวเมืองลอสแอนเจลิส

นำท่าน ผ่านชม อัล เพอร์โบล เดอ ลอสแอนเจลิส (El Pueblo de Los Angeles) เป็นย่านเก่าแก่ของเมืองลอสแอนเจลิส เคยเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของสเปน และ เม็กซิโก นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมที่เล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันสวยงามอยู่มากมาย ที่จะพาคุณย้อนกลับไปสัมผัสเรื่องราวในอดีต

นำท่าน ผ่านชม มิวสิค เซ็นเตอร์ (Music Center for the Performing Arts) ศูนย์รวมแรงบันดาลใจและความบันเทิงที่สำคัญของเมืองลอส แอนเจลิส ซึ่งทุกๆปีนั้นมิวสิค เซ็นเตอร์ แห่งนี้จะเป็นสถานที่ๆ จะถูกนำมาใช้จัดงานศิลปะ บันเทิงต่างๆ และจะมีคนมากกว่า 2 ล้านคนมาเข้าชม โดยจะมีงานใหญ่ๆ 4 งาน ได้แก่ Disney Concert Hall , Dorothy Chandler Pavilion , Ahmanson Theater and Mark Taper Forum ทั้งนี้ ที่นี่ยังเป็นผู้บริจาคสำคัญให้กับสถานที่จัดงานทางด้านวัฒนธรรมของลอส แอนเจลิส เพื่อเป็นการแสดงความชื่นชมและอุทิศให้กับศิลปินผู้มากความสามารถ

นำท่านเดินทางสู่ ไชน่า ทาวน์ แอลเอ (China Town L.A.) ที่มีกระจายไปทั่วทุกมุมโลกสำหรับไชน่า ทาวน์ แหล่งชุมชนชาวจีนที่ดูแสนจะธรรมดาและเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ซึ่งสิ่งที่ทำให้ไชน่า ทาวน์ดูน่าสนใจนั้น ก็คงเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ การค้า ร้านอาหาร ยาสมุนไพร และการรักษาโรคแบบดั้งเดิม เรื่อยไปจนถึงเรื่องการเป็นผู้ผลิตที่สำคัญ และสิ่งที่ทำให้ไชน่า ทาวน์ แอลเอ เป็นที่รู้จักอีกเหตุผลหนึ่งคือ เป็นฉากในหนังดังหลายเรื่อง เช่น Rush Hour , Lethal Weapon 4 นั่นเอง

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)

นำคณะเข้าสู่ที่พัก Howard Johnson Fullerton, Los Angeles หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

เมืองลอสแอนเจลิส - เมืองลอสแอนเจลิส - ซานตา โมนิก้า - ท่าเรือซานตา โมนิก้า - ป้ายสุดเขตปลายทางของถนนสายประวัติศาสตร์ รูท ซิกส์ตี้ ซิกส์ - สวนสนุกแปร์ซิฟิค พาร์ค - ฮอลลีวูด บูเลอวาร์ด - ถนนซันเซ็ท - ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม - ถนนเมลโรส - เบเวอร์รี่ฮิลส์ - ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ฮอลลีวูด

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ซานตา โมนิก้า (Santa Monica) สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศชื่อดัง ชายหาดในฝันของชาวแอลเอฯ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ๆ น่าค้นหาที่สุดหนึ่ง เพราะที่นี่เป็นสวรรค์ย่อมๆ ของผู้ที่ชอบนอนอาบแดดท่ามกลางสายลมและหาดทรายสีขาวนวลสวยงาม รวมถึงเหล่าบรรดานักโต้คลื่นที่หลงรักท้องทะเลอีกด้วย

ผ่านชม ท่าเรือซานตา โมนิก้า (Santa Monica Pier) เป็นท่าเรือเก่า สีสันสวยงาม ศูนย์รวมร้านอาหาร นั่งเล่น คาเฟ่ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบสถานที่ ที่น่าท่องเที่ยวพักผ่อนแบบสบายๆ บริเวณเดียวกัน ผ่านชม ป้ายสุดเขตปลายทางของถนนสายประวัติศาสตร์ รูท ซิกส์ตี้ ซิกส์ (Route 66 End of the Trail) คือทางหลวงสหรัฐหมายเลข 66 เส้นหนึ่งในอดีตของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นทางหลวงสายแรกๆ ของรัฐบาลกลาง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1926 (พ.ศ. 2469) แต่การติดตั้งป้ายทางหลวงได้ทำในปีถัดมา เส้นทางในสมัยเริ่มแรก ตั้งต้นที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ผ่านรัฐมิสซูรี แคนซัส โอคลาโฮมา เทกซัส นิวเม็กซิโก แอริโซนา และ มาจบลงที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นระยะทางทั้งสิ้น 3,940 กิโลเมตร หรือ 2,448 ไมล์ แห่งนี้

ผ่านชม สวนสนุกแปร์ซิฟิค พาร์ค (Pacific Park) เป็นสวนสนุกชื่อดังอยู่ติดริมทะเล หนึ่งในฉากสำคัญในภาพยนต์ฮอลลีวูด หรือ เอ็มวีของศิลปินอเมริกัน จะต้องเห็นสวนสนุกนี้บ่อยครั้งเพราะความสวยงามของพื้นที่ทำให้ถูกเอามาเป็นฉากอยู่บ่อยๆ 
นำท่านเดินทางสู่ ฮอลลีวูด บูเลอวาร์ด (Hollywood Boulevard) ไม่มีใครไม่รู้จักฮอลลีวูดแห่งนี้ สถานที่อันมีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และแหล่งบันเทิงเป็นจำนวนมาก มีถนนสายหลัก 3 แห่ง ที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาที่นี้ ได้แก่ ถนนซันเซ็ท (Sun Set Street) ที่คลาคล่ำไปด้วยคลับ และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน ถนนฮอลลีวูด มี ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟม (Hollywood Walk of Fame) ซึ่งเป็นถนนที่ดาราระดับฮอลลีวูดเป็นจำนวนมาก ได้ประทับรอยมือและรอยเท้าไว้ตามท้อง ถนนแห่งนี้และ ถนนเมลโรส (Melrose Avenue) สวรรค์ของนักช้อปปิ้งทั้งหลาย นอกจากนี้ ก็ไม่ควรพลาดกับ โกดัก เธียร์เตอร์ สถานที่จัดการประกาศรางวัลออสการ์ทุกปี

นำท่านเดินทางสู่ เบเวอรี่ฮิลส์ (Beverly Hills) หากพูดถึงย่านเบเวอรี่ฮิลส์ หลายคนคงจินตนาการภาพบรรยากาศอันหรูหราไฮโซ ไลฟ์สไตล์ของสังคมชั้นสูงขึ้นมาเป็นลำดับแรก แม้กระทั่งเจ้ารหัสไปรษณีย์ของที่นี่คือ "90210" ยังถูกนำเอาไปใช้เป็นชื่อซีรี่ย์ยอดฮิตของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดย่านนี้ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เหล่าดาราชื่อดังมักมาเป็นประจำ แทบจะเดินกระทบไหล่กันได้เลยทีเดียว

นำท่าน เข้าชม ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ฮอลลีวูด (Universal Studios Hollywood) ในเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ ท่านจะได้ชมเบื้องหลังเทคนิคและขั้นตอนของการถ่ายทำภาพยนตร์อย่างละเอียด สัมผัสกับฉากใหญ่โตมโหฬาร ที่ใช้ในการถ่ายทำจริงของภาพยนตร์ที่โด่งดังเรื่องต่างๆ เช่น คิงคอง จอวส์ ฯลฯ ชมอาคารบ้านเรือนที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังของฮอลลีวูด ตื่นเต้นและสนุกสนานผจญภัยเครื่องเล่นทันสมัยในโซนต่างๆมากมาย เช่น Back to the Future , Jurassic Park , Terminator เป็นต้น สนุกกับเครื่องเล่น และ โซนใหม่ ที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ เดอะ วิซซาร์ดดิ้ง เวิร์ล ออฟ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (The Wizarding World of Harry Potter) ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนต์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่ควรพลาด ที่จะทำให้ท่านรู้สึกเหมือนอยู่ในดินแดนแห่งเวทมนต์จริงๆ

** อิสระอาหารกลางวัน และ ค่ำ เพื่อสะดวกแก่การเดินทางท่องเที่ยว **

นำคณะเข้าสู่ที่พัก Howard Johnson Fullerton, Los Angeles หรือเทียบเท่า

วันที่ 4

เมืองลอสแอนเจลิส - เมืองลาสเวกัส - ลาสเวกัส นอร์ท พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท - ป้ายยินดีต้อนรับ สู่เมืองลาสเวกัส - ถนนสตริป

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลาสเวกัส (Las Vegas) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองในรัฐเนวาด้า (Nevada) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ที่ชาวอเมริกันและคนทั่วโลกให้ฉายาว่าเมืองแห่งบาป (Sin City) ลาสเวกัสเป็นสถานที่ที่มีลักษณะพิเศษ เพราะเมืองทั้งเมือง เจริญเติบโตขึ้นมาจากความก้าวหน้าของกิจการ ธุรกิจการพนัน เป็นแรงดึงดูดหลักให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา ต่อมาก็ได้พัฒนาไปสู่บริการ ธุรกิจ ใกล้เคียง ได้แก่ โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าต่างๆมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหรูหราอลังการและขนาดใหญ่มากกว่าที่ใดในโลก จะหาได้ค่อนข้างยากที่จะมีบ่อนคาสิโนและโรงแรมมารวมตัวกันอย่างแน่นหนาท่ามกลางภูเขาและทะเลทราย

นำท่านเดินทางสู่ ลาสเวกัส พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท นอร์ท (Las Vegas Premium Outlets North) เป็นเอาท์เล็ทขนาดใหญ่ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ ในราคาตรงจากโรงงาน อาทิเช่น Polo Ralph Lauren, Coach, Ray Ban, Tommy Hilfiger, GAP, Guess, American Eagle Outfitters, Timberland, Banana Republic, Calvin Klein, Samsonite, Kipling, Michael Kors และอื่นๆอีกมากมาย

นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ป้ายยินดีต้อนรับ สู่เมืองลาสเวกัส (Welcome to Las Vegas – Drive Carefully Come Back Soon Sign) ป้ายที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองลาสเวกัสที่แท้จริง ประตูสู่ความบันเทิงแห่งเมืองที่ไม่เคยหลับใหล สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1959 จุดที่ตั้งนี้อยู่ช่วงต้นของลาสเวกัส บูเลอวาร์ด

** อิสระอาหารกลางวัน เพื่อสะดวกแก่การเดินทางท่องเที่ยว **

นำท่าน ผ่านชม ความสวยงามตระการตา การประชันป้ายไฟ ป้ายโฆษณา ร้านค้าแบรนด์เนมและห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆมากมายเรียงรายกัน รวมไปถึงโรงแรมและคาสิโน โดยรอบของ เมืองลาสเวกัสบน ถนนสตริป (Strip Road) ยามค่ำคืน อิสระให้ท่านเลือกชม น้ำพุเต้นระบำประกอบดนตรีที่ด้านหน้าของโรงแรมเบลลาจิโอ (Bellagio) , โชว์โจรสลัด (Treasure Island) , เวนิสจำลองและน้ำพุเทียมแห่งโรงแรมเวเนเชี่ยน (Venetian Hotel) ที่ภายในโรงแรมตกแต่งเพดานโดยการวาดเป็นลายท้องฟ้าคล้ายการเนรมิตและมีลำคลองแบบเวนิสอยู่กลางโรงแรม ชมความสวยงามของโรงแรมและคาสิโนระดับห้าดาวแห่งเมืองลาส เวกัส ที่โรงแรมเดอะ พาลาสโซ (The Palazzo Hotel) หรือ ศึกษากลยุทธ์พร้อมลองเสี่ยงโชคกับเกมส์พนันในรูปแบบต่างๆ ตามสไตล์ที่คุณถนัด เช่น แบล็คแจ็ค สล็อตแมชชีน รูเล็ต เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้ สามารถเดินถึงกันได้เพราะตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกันทั้งหมด คือ ถนนสตริป (Strip Road) ที่เป็นถนนสายหลักของเมืองลาส เวกัสแห่งนี้ ** กฏหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นการพนัน หรือ คาสิโนโดยเด็ดขาด กรุณาปฏิบัติตามกฎโดยเคร่งครัด **

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำคณะเข้าสู่ที่พัก Excalibur Hotel and Casino, Las Vegas หรือเทียบเท่า

วันที่ 5

เมืองลาสเวกัส - อิสระท่องเที่ยว หรือ พักผ่อน ที่เมืองลาสเวกัส ตามอัธยาศัย แบบเต็มวัน

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระท่องเที่ยว หรือ พักผ่อน ที่เมืองลาสเวกัส ตามอัธยาศัย แบบเต็มวัน (ไม่มีบริการรถโค้ช)

ท่านสามารถเลือกซื้อแพ็คเกจทัวร์เสริม เพื่อท่องเที่ยวภายในเมืองลาสเวกัส

- อุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน (Grand Canyon National Park) ** แพ็คเกจโดยรถโค้ช ราคาประมาณ 180 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ต่อท่าน แพ็คเกจโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมแกรนด์ แคนยอน จากมุมสูง ราคาประมาณ 400 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (USD.) ต่อท่าน กรุณาแจ้งกับหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนถึงวันเดินทางไปแกรนด์ แคนยอน และจำเป็นจะต้องมีผู้เดินทางร่วมเฮลิคอปเตอร์ลำเดียวกัน 6-8 ท่าน ขึ้นอยู่กับเฮลิคอปเตอร์ลำที่ว่างอยู่ และ หัวหน้าทัวร์อาจไม่สามารถร่วมเดินทางเพื่อดูแลคณะได้ โดยหัวหน้าทัวร์จะต้องดูแลคณะส่วนมากก่อน (คณะใหญ่) จะรวมบริการรถรับส่งไปยังจุดเข้าอุทยานฯ ราคา และ รายละเอียด เงื่อนไข อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับประเภทของแพ็คเกจที่ท่านเลือก กรุณาตรวจสอบก่อนทุกครั้ง สำหรับท่านที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์เสริมนี้ ** เพื่อชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1979 อุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1776 เป็นปีเดียวกับที่อเมริกาประกาศเอกราชจากอังกฤษ เกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโดไหลผ่านที่ราบสูง ทำให้เกิดการสึกกร่อนพังทลายของหินเป็นระยะเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาลภายใต้พื้นโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวเทือกเขากว้างใหญ่ไพศาล การยกตัวของแผ่นดินทำให้ทางที่ลำธารไหลผ่านมีความลาดชันและน้ำไหลแรงมากขึ้น พัดเอาทรายและตะกอนไปตามน้ำเกิดการกัดเซาะลึกลงไปทีละน้อยๆในเปลือกโลก วัดจากขอบลงไปถึงก้นหุบเหวกว่า 1 ไมล์ ประมาณ 1,600 เมตร และอาจลึกกว่าสองเท่าของความหนาของเปลือกโลก ก่อให้เกิดหินแกรนิตและหินชั้นแบบต่างๆ พื้นดินที่เป็นหินทรายถูกน้ำและลมกัดเซาะจนเป็นร่องลึก สลับซับซ้อน สูง ต่ำ นานนับล้านปี เหล่านี้ก่อให้เกิดความงดงาม และ ความน่าอัศจรรย์ ทางธรรมชาติขึ้นที่นี่ ** กรณีที่ท่านซื้อแพ็คเกจทัวร์เสริม เพื่อท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน ** เดินบน สกาย วอล์ค (Sky Walk) ** บริเวณนี้ท่านจำเป็นต้องฝากของไว้ที่ช่องบริการ (ล็อคเกอร์) ที่ทางอุทยานฯเตรียมไว้รองรับ รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ และ กล้องถ่ายภาพ กรณีที่ต้องการถ่ายภาพ จะมีบริการของอุทยานฯโดยสามารถเลือกซื้อเฉพาะภาพที่ท่านชื่นชอบได้ ** ซึ่งเป็นกระจกแก้วรูปตัวยู ยื่นออกมาจากหน้าผา เหมือนท่านได้เดินอยู่บนอากาศซึ่งบริเวณนี้จะสูงจากพื้นแม่น้ำประมาณ 1,200 เมตร

** กรณีที่ท่านซื้อแพ็คเกจทัวร์เสริม เพื่อท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน ** นำท่าน ผ่านชม เขื่อนฮูเวอร์ หรือ ฮูเวอร์ แดม (Hoover Dam) และรู้จักในชื่อ โบลเดอร์ แดม (Boulder Dam) หรือเขื่อนหินยักษ์ เป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งกึ่งถ่วงน้ำหนัก (Arch-Gravity Dam) ในบริเวณแบล็ก แคนยอนของแม่น้ำโคโลราโด บนชายแดนของรัฐแอริโซนาและรัฐเนวาดา เขื่อนสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1931-1936 ระหว่างช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และเปิดใช้งานวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1935 โดยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ การก่อสร้างเกิดจากความพยายามของคนงานมากกว่า 1,000 คน และคร่าชีวิตคนไปมากกว่า 100 คน มีข้อถกเถียงว่าชื่อเขื่อนตั้งตามประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ตั้งแต่ราว ค.ศ. 1900 มีการสำรวจความเป็นไปได้ที่จะรองรับเขื่อนที่ควบคุมอุทกภัย ทำการชลประทาน และผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่แบล็ก แคนยอนและบริเวณรอบๆ โบลเดอร์ แคนยอน ใน ค.ศ. 1928 คองเกรสอนุมัติโครงการ การประมูลเพื่อสร้างเขื่อนได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทเรียกว่า ซิกซ์ คอมพานีส์ (Six Companies, Inc.) เริ่มสร้างเขื่อนในต้นปี ค.ศ. 1931 โครงสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่นี้ยังไม่เคยมีการสร้างมาก่อน และเทคนิคการสร้างบางเทคนิคยังไม่ได้รับการพิสูจน์ อากาศร้อนจัดช่วงฤดูร้อนและสาธารณูปโภคที่ขาดแคลนบริเวณก่อสร้างทำให้เกิดความยากลำบาก แม้กระนั้น กลุ่มบริษัทซิกซ์ คอมพานีส์ส่งมอบเขื่อนให้รัฐบาลในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1936 เกินกำหนดเดิมถึง 2 ปี เขื่อนฮูเวอร์ฯ กักน้ำจากทะเลสาบมี้ด ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่มีปริมาตรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา เขื่อนตั้งอยู่บริเวณใกล้เมืองโบลเดอร์ ซิตี รัฐเนวาดา เมืองที่เดิมสร้างเพื่อให้คนงานก่อสร้างเขื่อนอาศัยราวๆ 30 ไมล์ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของลาส เวกัส เครื่อง จ่ายกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนนี้สามารถสร้างพลังงานให้สาธารณูปโภคทั้งสาธารณะและส่วนตัวในรัฐเนวาดา แอริโซนา และแคลิฟอร์เนีย ทั้งหมด

- อิสระช้อปปิ้ง ณ ศูนย์การค้า เอาท์เล็ท ภายในเมืองมากมาย หรือ เลือกเสี่ยงโชคตามอัธยาศัย และในยามค่ำคืน ท่านสามารถท่องราตรีเมืองลาสเวกัส โดยการเดินเล่นที่ถนนสตริป (Strip) หรือพบกับการแสดงโชว์ของโรงแรมต่างๆ ซึ่งแต่ละโรงแรม ก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปท์ของโรงแรม

** อิสระอาหารกลางวัน และ ค่ำ เพื่อสะดวกแก่การเดินทางท่องเที่ยว **

นำคณะเข้าสู่ที่พัก Excalibur Hotel and Casino, Las Vegas หรือเทียบเท่า

วันที่ 6

เมืองลาสเวกัส - เมืองบาร์สโตว์ - บาร์สโตว์ แทงเจอร์ เอาท์เล็ท - เมืองเฟรนโน

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาร์สโตว์ (Barstow) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญ มีทางหลวงหลายสายรวมถึง Interstate 15, Interstate 40 , California State Route 58 และ U.S. Route 66 รวมตัวอยู่ในเมือง เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟขนาดใหญ่ที่เป็นของ 

นำท่านเดินทางสู่ บาร์สโตว์ แทงเจอร์ เอาท์เล็ท (Barstow Tanger Outlets) เป็นเอาท์เล็ทขนาดใหญ่ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ ในราคาตรงจากโรงงาน อาทิเช่น Polo Ralph Lauren, Coach, Ray Ban, Tommy Hilfiger, GAP, Guess, American Eagle Outfitters, Timberland, Banana Republic, Calvin Klein, Samsonite, Kipling และอื่นๆอีกมากมาย

** อิสระอาหารกลางวัน เพื่อสะดวกแก่การเดินทางท่องเที่ยว **

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเฟรสโน (Fresno) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 50 นาที) เมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์กลางการธนาคาร ถนนทุกสายดูเหมือนใหม่หมด รถเมล์จอดป้ายตรงเวลา อาคารสูงสุดไม่เกิน 20 ชั้น จึงไม่บดบังทิวทัศน์ที่นี่ ในฐานะเมืองใหม่จึงมีความเป็นเมืองสำหรับมนุษย์เดินดินมากกว่าหุ่นยนต์ ในขณะที่ชาวลอส แองเจลิส และชาวซาน ฟรานซิสโก ซึ่งมองชาวเมืองเฟรสโน ที่อยู่ระหว่างเมืองทั้งสองนี้เป็นเรื่องตลก และ ค่อนข้างดูแคลนชาวเมืองเฟรสโนว่าร้อนเหมือนนรกไม่มีอารยธรรมไม่มีชีวิตกลางคืน ท่านจะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งบรรยากาศของชาวพื้นเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำคณะเข้าสู่ที่พัก Holiday Inn Express Fresno South, Fresno หรือเทียบเท่า

วันที่ 7

เมืองเฟรนโน - เมืองซานฟรานซิสโก - ยอดเขาทวินพีค - เซเว่น ซิสเตอร์ - พาเลซ ออฟ ไฟน์ อาร์ท - สะพานโกลเดน เกต - ถนนลอมบาร์ด - ท่าเรือเพียร์ 39 - ล่องเรือชมอ่าวซานฟรานซิสโก - เกาะอัลคาทรัส - ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ - ท่าอากาศยานนานาชาติซาน ฟรานซิสโก เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา - ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซานฟรานซิสโก (San Francisco) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประชากรประมาณ 808,976 คน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรเป็นอันดับสองของประเทศ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากในซานฟรานฯ คือชาวสเปน โดยในปี ค.ศ. 1776 เมืองมีชื่อว่า เซนต์ฟรานซิส (St. Francis) ภายหลังจากช่วงยุคตื่นทองในปี ค.ศ. 1848 ทำให้ประชากรในซานฟรานฯเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมืองเติบโตอย่างมาก ถึงแม้ว่าซานฟรานฯจะประสบปัญหาแผ่นดินไหวและไฟไหม้ขนาดใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1906 ซานฟรานฯกลับฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และได้ชื่อว่าเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในแถบชายฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา ซานฟรานฯมีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเขา และมีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และมีชาวเอเชียอาศัยที่อ่าวซานฟรานฯเป็นจำนวนมาก

นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาทวินพีค (Twin Peak) จุดชมวิวใจกลางเมืองซาน ฟรานซิสโก จากจุดนี้ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองซานฟรานฯแบบ 360 องศา ผ่านชม เซเว่น ซิสเตอร์ (Seven Sisters) หรือ Painted Ladies มีลักษณะเป็นบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์วิคตอเรียน ตั้งเรียงรายกัน 7 หลัง อยู่ริมถนน Steiner Street ซึ่งเป็นแนวชัน อยู่ระหว่างบ้านเลขที่ 710–720 บ้านเรือนเหล่านี้โดดเด่นด้วยสีสันแบบพาสเทลสวยงามสะดุดทุกสายตาเมื่อแรกพบ ด้านหน้าจะมีสนามเด็กเล่น ซึ่งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมานั่งพักผ่อนกันบริเวณนี้ในวันช่วงวันหยุด
นำท่าน ผ่านชม พาเลซ ออฟ ไฟน์ อาร์ท (Palace of Fine Art) สถาปัตยกรรมแบบโดมโค้งสไตล์วิคตอเรียน ผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรมแบบอเมริกา หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตที่ Hollywood นิยมมาถ่ายทำภาพยนตร์ และเป็นสถานที่ ที่ชาวอเมริกันนิยมมาถ่าย Pre Wedding กันมากที่สุด

นำท่านเดินทางสู่ สะพานโกลเดน เกต (Golden Gate Bridge) ความหมายคือ "ประตูทอง" ต้อนรับทุกท่านที่มีจุดมุ่งหมายมายังเมืองซานฟรานซิสโก ทำสถิติเป็นสะพานแขวนแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเส้นทางสู่อ่าวซานฟรานซิสโกและเชื่อมระหว่างซานฟรานฯ กับ มาริน เคาท์ตี ใช้งบประมาณในการสร้าง 35 ล้านดอลลาร์สหัฐ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 มกราคม 1933 อันเป็นช่วงสมัยของประธานาธิบดีแฟรงกิน ดี. รูสเวลต์ มี โจเซฟ สเตราส์ เป็นวิศวกร ฝากฝีมือบันทึกไว้บนสะพานโกลเดนเกต สะพานทาสีแดงอมส้มตามสีสัญลักษณ์สีของเมืองซานฟรานฯ ที่จะเปล่งแสงสะท้อนเมื่อยามแสงอาทิตย์ตกกระทบ ความงามทางด้านวิศวกรรมได้รับการยกย่องจากสมาคมวิศวกรพลเรือนอเมริกันให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจนทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซานฟรานซิสโกแห่งนี้

นำท่าน ผ่านชม ถนนลอมบาร์ด (Lombard Street) เป็นถนนที่ได้ชื่อว่าคดเคี้ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ระหว่าง Jones Street และ Hyde Street มีลักษณะเป็นถนนที่คดเคี้ยวแบบโค้งหักศอกอยู่บนเนินชัน มีทั้งหมด 8 โค้ง เป็นโค้งช่วงสั้นๆ และแคบมาก การเดินรถจะเดินรถทางเดียว จากบนเนินเขาลงสู่ด้านล่าง รอบข้างของถนนเส้นนี้จะเป็นบ้านเรือนอันสวยหรูสไตล์วิคตอเรียน มีการประดับประดาถนนด้วยต้นไม้และดอกไม้สวยงามตามฤดูกาล โดยด้านบนสุดของถนนเส้นนี้จะสามารถมองเห็นวิวของอ่าวซาน ฟรานซิสโก สะพานเบย์ และ คอย์น ทาวเวอร์ ได้อย่างสวยงาม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเพียร์ 39 (Pier 39) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซานฟรานฯ อยู่ตรงกลางระหว่าง สะพานโกลเดน เกต (Golden Gate Bridge) และ สะพานเบย์ (Bay Bridge) เนื่องด้วยเมืองซานฟรานฯเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ในอดีตจึงมีท่าเรือเพื่อขนส่งสินค้ามากมายโดยมีตัวเลขกำกับตั้งแต่ Pier 1 ไปเรื่อยๆ แต่ด้วยเหตุผลที่ท่าเรือเพียร์ 39 แห่งนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุด อาจเป็นเพราะอยู่ในทำเลที่ตั้งที่สวยงามเหมาะสม ทำให้ปัจจุบันเป็นย่านช้อปปิ้ง และ ร้านอาหารต่างๆมากมาย 

นำท่าน ล่องเรือชมอ่าวซานฟรานซิสโก (San Francisco Cruise) ผ่านชม ความยิ่งใหญ่และสวยงามของ สะพานโกลเดน เกต (Golden Gate Bridge) จากมุมใกล้ และ มุมไกล ผ่านชม เกาะอัลคาทรัส (Alcatraz Island) เกาะที่เคยเป็นที่คุมขังนักโทษอเมริกาในอดีต ตั้งอยู่กลางทะเลบริเวณริมอ่าวซานฟรานฯ ใกล้กันจะเป็น ฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ (Fisherman’s Wharf) หรือรู้จักกันในลักษณะของสะพานปลา สามารถมองเห็นอ่าวซานฟรานซิสโก และ สะพานโกลเดน เกต (Golden Gate Bridge) ที่นี่จึงมีร้านอาหารทะเลสดๆไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย ** รอบของการเรืออาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม กรณีไม่สามารถล่องเรือได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งให้กับท่านได้ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด **

** อิสระอาหารกลางวัน และ ค่ำ เพื่อสะดวกแก่การเดินทางท่องเที่ยว **

นำท่านเดินสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

23.00 น.   นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยสายการบิน Philippine Airlines เที่ยวบินที่ PR105 ** ใช้เวลาบินประมาณ 14 ชั่วโมง บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **

วันที่ 8

ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

** เดินทางข้ามผ่านเส้นแบ่งเวลาสากลโลก บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **

วันที่ 9

ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ - ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

04.00 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

09.45 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน Philippine Airlines เที่ยวบินที่ PR730 ** ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน **

12.05 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าบัตรโดยสารโดยเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ ชั้นประหยัด (Economy Class) กรณีต้องการ Upgrade เป็น ที่นั่งพิเศษ (Premium Economy) หรือ ชั้นธุรกิจ (Business Class) จำเป็นออกบัตรโดยสารใบใหม่แยกจากคณะ และ จองเป็นราคาทัวร์ ไม่รวมตั๋ว (Join Land) ตั้งแต่ขั้นตอนการจอง สิ่งสำคัญก่อนออกบัตรโดยสาร กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งว่าคณะคอนเฟิร์มออกเดินทางหรือไม่
  • ค่าภาษีน้ำมัน และ ภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าธรรมเนียมการโหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบิน โดยสายการบิน Philippine Airlines อนุญาตให้โหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องบินได้ ท่านละ 2 ชิ้น โดยมีน้ำหนักแต่ละชิ้นไม่เกิน 23 กก.    
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศตลอดเส้นทาง ตามรายการระบุ (ยังไม่รวมทิปคนขับรถ)
  • ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตราฐาน ตามรายการระบุ (พักห้องละ 2 ท่าน หรือ 3 ท่าน ต่อห้อง กรณีที่โรงแรมมีห้องพัก 3 ท่าน Triple ว่าง) กรณีมีงานเทรดแฟร์ การแข่งขันกีฬา หรือ กิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้โรงแรมตามรายการที่ระบุเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พักไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทนโดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการระบุ กรณีไม่รวมจะชี้แจงไว้ในโปรแกรมชัดเจน    
  • ค่าอาหาร ตามรายการระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการ และ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) กรณีต้องการซื้อประกันเพิ่มเพื่อคุ้มครองสุขภาพกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหาร เครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการระบุ และ ค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ (กรุณาสอบถามอัตราค่าบริการจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการทุกครั้ง)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการออกใบเสร็จรับเงินในนามบริษัท
  • ค่าทิปรวมตลอดการเดินทางทั้งหมด ตามธรรมเนียม 50 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา (USD) หรือ คำนวนเป็นเงินไทยประมาณ 1,750 บาท (THB) รวมไปถึงเด็กอายุมากกว่า 2 ปี ยกเว้น เด็กอายุไม่ถึง 2 ปี ณ วันเดินทางกลับ (Infant) ทั้งนี้ท่านสามารถให้มากกว่านี้ได้ตามความเหมาะสมและความพึงพอใจของท่าน
  • ค่าธรรมเนียมและค่าบริการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกา ท่านละ 8,000 บาท (ชำระพร้อมเงินมัดจำ)

ราคา

THB 10,000,000

25 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more