มหัศจรรย์...EGYPT พักดี 5 ดาว  6 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...EGYPT พักดี 5 ดาว  6 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...EGYPT พักดี 5 ดาว  6 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...EGYPT พักดี 5 ดาว  6 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...EGYPT พักดี 5 ดาว  6 วัน 3 คืน

มหัศจรรย์...EGYPT พักดี 5 ดาว 6 วัน 3 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

สนามบินสุวรรณภูมิ

21.30   พร้อมกันที่ อาคารผุ้โดยสารขาออก สนามบินสุวรรณภูมิช้ัน 4 เคาน์เตอร์สายการบิน EGYPT AIR ประตู 8 เคาน์เตอร์ Q โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

วันที่ 2

สนามบินนานาชาติไคโร • อเล็กซานเดรีย • โรงละครโรมัน • ป้อมปราการเคตเบย์ • หอสมุดแห่งอเล็กซาน เดรีย • สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย • เสาปอมเปย์

00.50    ลัดฟ้าไปยังทวีปแอฟริกา ด้วยเที่ยวบิน MS961 จุดกำเนิดแห่งอารยธรรมของโลก สู่ประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ที่สุด และยังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้ในหลายเรื่องที่ ประเทศอียิปต์

05.50    ถึง สนามบินนานาชาติไคโร เมืองหลวงของประเทศ ผ่านที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม.)  มุ่งหน้าสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย(Alexandria) เมืองท่าสำคัญของอียิปต์ตั้งแต่ในยุคโบราณ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศในปัจจุบัน โดยตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศริมกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งถือเป็นจุดที่แม่น้ำไนล์สิ้นสุด โดยอเล็กซานเดรียนั้นมีชื่อในประวัติศาสตร์ในช่วงประมาณ 332 ปี ก่อนศริสตกาล ซึ่งตรงกับสมัยมหาราชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของกรีก นั่นคือกษัตริย์มาซิโดเนีย อเล็กซานเดอร์ที่ 3 และยังเคยเป็นสถานที่ตั้งของประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณอีกด้วย

ชม โรงละครโรมัน (Roman Amphitheatre) 1 ในสิ่งปลูกสร้างที่จักรวรรดิโรมันทิ้งไว้ในช่วงศตวรรษที่ 2 และได้มีการปรับปรุงแก้ไขจากความทรุดโทรมมาโดยตลอด จนที่ท่านจะได้เห็นในปัจจุบันนั้น จะเป็นรูปแบบที่สร้างขึ้นมาใหม่ในสมัยศตวรรษที่ 4  ซึ่งถือว่ามีเพียงแห่งเดียวในอียิปต์เท่านั้น ประกอบไปด้วยอัฒจันทน์หินอ่อนสีขาวและสีเทาจำนวน 13 ชั้น เว้ยแต่ชั้นแรกที่ทำจากหินแกรนิตเพื่อสร้างความแข็งแรงของโครงสร้าง เรียงตัวในลักษณะของเกือกม้า สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 700 – 800 คน แม้จะผ่านกาลเวลาและภัยธรรมชาติมานานับการแต่โรงละครแห่งนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีความสมบูรณ์อยู่พอสมควร

จากนั้น  ให้ท่านได้ ถ่ายรูปกับ ป้อมปราการเคตเบย์ (Qaitbay's Citadel) สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 15 ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยสุลต่านเคตเบย์แห่งอาณาจักรออตโตมัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการเผยแพร่ศาสนาอิสลามในดินแดนแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ บนพื้นที่เดิมของประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรีย แต่ในวันที่ 11 ก.ค. 1882 นั้นป้อมปราการหลังนี้ถูกทิ้งระเบิดจากกองทัพของสหราชอาณาจักรและถูกทิ้งไว้จนรัฐบาลมีคำสั่งให้บูรณะในปี 1952 และเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเลและนาวิกโยธิน

เข้าชม หอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Library of Alexandria) ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งวิทยาการแห่งแรกของโลก เนื่องจากเป็นที่เก็บตำราเรียน วรรณกรรม จดหมายเหตุ และบันทึกต่างๆ บนกระดาษปาปิรุสเมืองกว่า 2,000 ปีมาแล้ว นอกจากนั้น นักโบราณคดียังค้นพบว่ามีห้องที่มีเวทีขนาดใหญ่ถึง 13 ห้อง สามารถจุผู้คนได้มากถึง 5,000 คน จึงสันนิษฐานว่าจะเป็นแหล่งการเรียนการสอนที่มีแบบแผนแห่งแรกๆ ของโลก ว่ากันว่าในสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชนั้น อเล็กซานเดรียเป็นศูนย์รวมของปัญญาชนชาวกรีกจากการที่มีตำราต่างๆ มากมายในการค้นคว้าหาความรู้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หอสมุดแห่งนี้ถูกเผาทำลายในยุคของพระนางคลีโอพัตรา เอกสารส่วนมากถูกทำลายไปจนหมดสิ้น สำหรับอาคารในปัจจุบันนั้นได้รับการสร้างขึ้นใหม่ด้วยแรงสมัยสนุนจากหลายส่วนจนสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งในปี 2002 โดยมีหนังสือกว่า 8 ล้านเล่ม 

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เสิร์ฟด้วนเมนูซีฟู้ดริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

พาท่านชม สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs Of Alexandria) คำว่าคาตาโกมบ์นั้น หมายถึงสุสานใต้ดินที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยเป็นคำที่มีในสมัยจักรวรรดิโรมัน ประกอบกับเป็นสุสานแบบที่โรมันนิยม จึงสันนิษฐานว่าคาตาโกมบ์แห่งอเล็กซานเดรียสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 1 – 2 ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นอีก 1 รูปแบบของสุสานของกษัตริย์อียิปต์ นอกเหนือจากรูปแบบพีรมิด และแบบวิหารที่เจาะเข้าไปในเขา สุสานแห่งนี้นั้นถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 1900 หลังจากลาลากเกวียนหล่นลงไปในสุสานแห่งนี้ โดยภายในนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น เป้นชั้นปลงศพ ชั้นฝังศพ และชั้นสำหรับเป็นที่รวมญาติของผู้เสียชีวิต คาดว่าในยุคหลังใช้เป็นที่ฝังศพของชาวโรมันด้วย เนื่องจากมีการขุดค้นพบศพเป็นจำนวนมากกว่า 50,000 ศพ ถัดไปไม่ไกลนั้นจะมี เสาปอมเปย์ (Pompey's Pillar) เสาต้นนี้ตั้งตามชื่อสหายคนสนิทของจูเลียส ซีซาร์ ผู้นำของสาธารณรัฐโรมัน และเป็น 1 ใน 3 กงสุลใหญ่ของสาธารณรัฐ ที่ในตอนหลังนั้นเป็นศัตรูกันและได้หลบหนีมาที่นี่ก่อนถูกชาวเมืองสังหาร ตัวเสาสร้างด้วยหินแกรนิตแดงเพียงก้อนเดียวจากเมืองอัสวานทางตอนใต้ของอียิปต์สูงประมาณ 20.46 เมตร รวมฐานแล้วประมาณ 26.85 เมตร หนักราว 285 ตัน หัวเสาโรมันแบบคอรินเทียสนั้นสร้างต่อเติมเข้ามาในปี 297 เพื่อรำลึกถึงชัยชนะที่จักรพรรดิไดโอคลีเชียนมีต่อสงครามจลาจลในอเล็กซานเดรีย

ที่พัก Le Meridien Pyramids หรือเทียบเท่า 5 ดาว พร้อมรับประทานอาหารเย็นในโรงแรม
 

วันที่ 3

มหาพีระมิดแห่งกีซ่า • จุชมวิวพาโนราม่า • มหาสฟิงซ์ ศูนย์สาธิตทำกระดาษปาปิรุส และน้ำหอม • พีระมิดแห่งซัคคาร่า

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชม มหาพีระมิดแห่งกีซ่า (3 Great Pyramids of Giza) ด้านนอก อันประกอบไปด้วย มหาพีระมิดคูฟู มหาพีระมิดคาเฟร และมหาพีระมิดเมนคู ถือเป็นกลุ่มพีมิดที่ใหญ่ที่สุดในอียิปต์ และถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเพียงหนึ่งเดียวที่ยังสามารถข้ามกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน โดยพีระมิดนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บรรจุพระบรมศพของ 3 กษัตริย์ ได้แก่  คีออปส์(CHEOPS) หรือ คูฟู  , พีระมิดแห่งที่สอง คือ พีระมิดของคาเฟร (โอรสของคูฟู) และแห่งที่สาม พีระมิดของเมนเคอเร (โอรสของคาเฟร) มีขนาดลดหลั่นกันไป องค์พีระมิดที่สูงสุดนั้นเคยมีความสูงถึง 147 เมตร แต่พังทลายลงมีเหลือ 134 เมตร สร้างขึ้นเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 2,500 ปี นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 4,500 ปี ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งนับว่าสร้างเสร็จเร็วมากถ้าเทียบกับขนาดและการเคลื่อนย้ายหินที่เป็นส่วนประกอบของมหาพีระมิด โดยก้อนหินที่ใช้นำมาสร้างนั้น พบว่ามีลักษณะและองค์ประกอบใกล้เคียงกับก้อนหินของเมืองอัสวาน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของของไคโรกว่า 860 กิโลเมตร วิศวกรและนักโบราณคดีคำนวณด้วยวิธีปกติ พบว่าต้องใช้เวลาถึง 65 ปี ในการย้ายก้อนหินไปยังจุดที่ตั้งของมหาพีระมิดทั้ง 3 นี้  ถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในอียิปต์ การสร้างพีระมิดขึ้นมาเป็นยอดแหลมนั้น  ซึ่งชี้ไปที่ดวงดาวต่างๆ นั้นก็เพราะว่าชาวอียิปต์เชื่อว่า ดวงวิญญาณของฟาโรห์จะใช้ยอดนี้เป็นเส้นทางเชื่อมเสด็จระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า เพราะชาวไอยคุปต์เชื่อว่าพีระมิดคือสิ่งเชื่อมโยงระหว่างฟาโรห์ที่สิ้นพระชนม์ไปแล้วกับอาณาจักรของพระองค์ และจะกลับมายังร่างเดิมของพระองค์ จึงได้มีการนำทรัพย์สมบัติมากมายเหลือคณาพร้อมข้าราชบริพาล ฝังไปพร้อมกับร่างของพระองค์ เพื่อให้พระองค์ได้ใช้ในวันที่กลับคือสู่ร่าง นอกจากมหาพีระมิดทั้ง 3 แล้ว แต่ละพีระมิดยังมีพิระมิดบริวาร อีกพีระมิดละ 3 องค์ บ้างก็สันนิษฐานกันว่าเป็นพีระมิดของพระมเหสีของแต่ละพระองค์

จากนั้น  พาท่านสู่ จุดชมวิวพาโนรามา ให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นับเป็นจุดที่ท่านจะได้เห็นพีระมิดทั้ง 3 เรียงรายกันอย่างสวยงาม ให้ท่านได้เห็นความยิ่งใหญ่และสง่างามของสุสานที่ยังหาหลักฐานที่แน่ชัดในการสร้างไม่ได้ และยังมีเรื่องลี้ลับอีกมากมายให้ท่านได้ศึกษา จากนั้นให้ท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx) ผู้พิทักษ์ครึ่งสิงโต ครึ่งมนุษย์ สฟิงซ์ยักษ์แห่งกีซ่า ถือเป็นสฟิงซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แกะสลักจากหินภูเขาก้อนขนาดใหญ่ สันนิฐานว่าซึ่งใบหน้าของสฟิงซ์อาจจะเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์คาเฟรก็ได้ สฟิงซ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ หรือเป็นสัตว์ที่มีชาญฉลาดและมีพลังเพื่อปกป้องพระศพและทรัพย์สมบัติภายในพีรามิดแต่เป็นที่น่าเสียดายที่ส่วนจมูกของสฟิงซ์นั้นได้ถูกทำลายเนื่องจากถูกใช้เป็นเป้าซ้อมยิงปืนของทหารในเวลานั้น

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น   พาท่านชม การสาธิตและผลิตกระดาษปาปีรุส กระดาษแบบแรกของโลกโดยเรียกชื่อตามวัตถุดิบของการดาษนั่นคือต้นปารีรุส หรือต้นกก ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอียิปต์ในสมัยนั้นคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้แทนการบันทึกผ่านหิน ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในสมัยอียิปต์โบราณ พร้อมแวะชม โรงงานผลิตหัวน้ำหอม ซึ่งมีกระบวนการการผลิตตามต้นตำหรับ สมัยพระนางคลีโอพัตรา ว่ากันว่ากลิ่นน้ำหอมของพระนางคลีโอพัตรานั้น ทำให้บุรุษที่แข็งแกร่งอย่างจูเลียส ซีซาร์ยังต้องสยบ ให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย

จากนั้น   พาท่านสู่ เมืองซัคคาร่า (Saqqara) ทางตอนใต้ของกรุงไคโร บริเวณอันเป็นที่ตั้งของเมืองเมมฟิส เมืองหลวงเดิมในสมัยอียิปต์โบราณ โดยมีสิ่งสำคัญคือ พีระมิดแห่งแรกของโลกนั่นเอง นำท่านชม พีระมิดขั้นบันไดซัคคารา (Step Pyramid of Saqqara) เป็นพีระมิดที่อายุเก่าแก่มาก เป็นพีระมิด 4 ชั้น ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของ กษัตริย์ ซอเซอร์ ในราชวงศ์ที่ 3 ราว 2600 ปีก่อนศริสตกาล เพื่อใช้เป็นทางเสด็จสู่สรวงสวรรค์เดินทางไปกับเทพเจ้ารา พีระมิดขั้นบันไดยังเป็นต้นแบบของปีรามิดในยุคต่อมา รอบๆ องค์พีรามิดยังประกอบไปด้วยวิหาร แท่นบูชา ห้องเก็บของและห้องโถง ซึ่งสอดรับและเอื้อประโยชน์หน้าที่ซึ่งกันและกันอย่างลงตัว โดยอิมโฮเทปเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ ใกล้ๆกันยังมี พีระมิดโค้ง (Bent Pyramid) เป็นต้นแบบของพีระมิดแห่งกีซ่าที่คุ้นตากัน โดยแรกเริ่มนั้นสร้างโดยตั้งองศาไว้ที่ 54 องศา แต่หลังจากการสร้างไปได้ระยะหนึ่งแล้วจึงทราบว่าจุดบรรจบของพีระมิดจะสูงกว่าที่จะมีความมั่นคง จึงได้เปลี่ยนเป็น 43 องศา จึงทำให้ตัวพีระมิดโค้งลง แล้วถือว่าเป็นองศาที่ทำมาใช้สร้างพีระมิดในยุคหลังทั้งหมด

ที่พัก Le Meridien Pyramids หรือเทียบเท่า 5 ดาว พร้อมรับประทานอาหารเย็นในโรงแรม

วันที่ 4

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอียิปต์ • สุเหร่าโมฮัมเม็ด อาลี • ตลาดผ้าฝ้ายอียิปต์ • ดินเนอร์ล่องแม่น้ำไนล์ พร้อมโชว์ระบำหน้าท้องและระบำพื้นเมือง

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางไปยัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอียิปต์ (Egyptian Museum) พิพิธภัณฑ์ไคโร เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของประเทศอียิปต์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งสะสมและโบราณวัตถุอียิปต์โบราณ กว่า 120,000 ชิ้น  พร้อมชมโลงศพทองคำแท้หนัก 110 ก.ก. พร้อมหน้ากากทองคำ ของฟาโรห์ตุตันคาเมน หนัก 11 ก.ก. และสมบัติส่วนตัวอีกมากมาย ของพระองค์ เช่น เตียง บรรทม, รถศึก และสมบัติสำคัญอีกชิ้นที่จัดแสดงคือ บัลลังก์ทองที่มีชื่อเสียงของตุตันคามุน พนักพิงบัลลังก์เป็นภาพสลัก ที่มเหสี อเคเซนามุน เจิมน้ำหอมให้ตุตันคามุน

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม  ป้อมซาลาดีนหรือป้อมซิทาเดล (Citadel)  ป้อมปราการ สมัยอิสลามรุ่งเรืองในอียิปต์ ป้อมนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี 1176 โดย กษัตริย์ซาลามดิน โดยใช้หินจากปิรามิด แห่ง กีซ่า มาสร้างกำแพงเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันประเทศจากสงครามครูเสด ป้อมซิทาเดลเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะ ภายนอกป้อมสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงไคโร ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของ สุเหร่าโมฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali Mosque)  ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีก ใช้เวลาในการสร้างนานกว่า 18 ปี นับเป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ตัวอาคารสร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) ผู้สร้างต้องการให้มีรูปแบบเหมือน Blue Mosque ที่อิสตันบูล แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในสุเหร่า ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลามอย่างสวยงาม

จากนั้นพาท่านชมและเลือกซื้อสินค้า ณ ตลาดผ้าฝ้าย ที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพ สามารถระบายเหงื่อได้ดี มีความเบา สวมใส่สบาย โดยในสมัยก่อนนั้นมักถัดและทอเพื่อถวยแก่ฟาโรห์และพระราชวงศ์ อีกทั้งยังนิยมนำมาเป็นผ้าปูที่นอน ด้วยสภาพภูมิอากาศและทางธรณี ทำให้เอื้อต่อคุณภาพของฝ้ายในอียิปต์นั่นเอง

นำท่านกลับเขาโรงแรมที่พัก เพื่อเตรียมตัวสำหรับมื้อค่ำสุดพิเศษ กับ การรับประทานอาหารมื้อค่ำท่ามกลางบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลกอย่างแม่น้ำไนล์ ท่านจะได้ลิ้มรสอาหารพร้อมชมการแสดงโชว์ต่างๆ อาทิเช่น ระบำหน้าท้อง Belly dance  และการแสดงพื้นบ้านต่างๆเช่น  Egypt tanoura dance

ที่พัก  Le Meridien Pyramids หรือเทียบเท่า 5 ดาว

วันที่ 5

หมู่บ้านคริสเตียน คอร์ปติก ไคโร • Ben Ezra Synagogue • ตลาดข่าน • ถนนมุยส์ • สนามบินนานาชาติไคโร

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

เยี่ยมชมหมู่บ้านคริสเตียน คอร์ปติก ไคโร (Coptic Cairo) เป็นศูนย์รวมชุมชนคริสเตียนในอียิปต์แห่งเดียวของอียิปต์ซึ่งมีอายุยาวนานนับตั้งแต่โรมันเข้ามามีบทบาทในการจัดการอียิปต์ และถึงแม้ชาวเปอร์เซียจะสามารถยึดครองอียิปต์ต่อจากที่กรุงคอนสแตนตินล่มสลายแล้ว แต่ชุมชมแห่งนี้ก็ยังคงอยู่จวบจนถึงปัจจุบัน มีลูกปลูกสร้างสำคัญอย่าง โบสถ์คริสต์เก่า โบสถ์ลอย (Hanging Church) โบสถ์ของกรีกออร์ทอดอกซ์ แห่ง St.George  นอกจากนั้นก็ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์คอปติค (Coptic museum) ซึ่งจัดแสดงประวัติของศิลปคอปติคจาก สมัย Greco-Roman ถึง ยุคอิสลาม และ โบสถ์ยิว Ben Ezra ถือเป็นย่านเล็กๆ ที่น่าเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นพาท่านเลือกซื้อของฝากนานาชนิด ณ แหล่งของฝากที่ใหญ่ที่สุดในไคโรที่ ตลาดข่าน เอล คารีรี่ (Khan el-Khalili) ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องทองแดง ทองเหลือง เครื่องเทศ ขวดน้ำหอม ของที่ระลึก ของใช้ ของกิน ร้านกาแฟ มากมาย ซึ่งตลาดแห่งนี้นับเป็นตลาดที่มีความเก่าแก่มาก โดยได้รับการบูรณะในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยอาคารโดยรอบนั้นสร้างและบูรณะในสมัยสุลต่าน Al-Ghuri ต่อเนื่องกับตลาดข่านนั้นคือ ถนนมุยส์ (Muizz Street) 1 ในถนนสายเก่าแก่ของไคโรซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าของโลกอิสลาม บริเวณทางทิศเหนือของถนนนั้นจะมีประตู Bab Zuweila 1 ใน 3 ประตูที่สร้างขึ้นในสมัยออตโตมัน ด้วยความงามโดยรอบของถนนแห่งนี้นั้น ทำให้มีคนกล่าวขนานนามว่า เป็น พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง

ค่ำ    บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอินเดีย

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าสนามบินนานาชาติไคโร

23.30 น.   ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ MS960 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่ 6

สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

12.40 น.   ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยความประทับใจ

อัตราค่าบริการรวม

  • ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด Economy Class ไป-กลับพร้อมกรุ๊ป (BKK-CAI-BKK) สายการบินอียิปต์แอร์ EGYPT AIR (MS) 
  • ภาษีน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่ง
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 23 กก.กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ
  • ค่าที่พักโรงแรมตลอดการเดินทาง ระดับมาตรฐาน (พักห้องละ 2 ท่าน)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ, น้ำดื่มบริการบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวคนไทย
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 3,000,000 บาท  ค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 2,000,000 บาท เงื่อนไขประกันการเดินทาง  ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ หัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าวีซ่าอียิปต์ 3,000 บาท / ท่าน
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 23 กิโลกรัมต่อท่าน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์, ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปคนขับ ไกด์ท้องถิ่น  และหัวหน้าทัวร์ตามระเบียบธรรมเนียม รวมทั้งทริป 100 USD / ท่าน

ราคา

THB 10,000,000

29 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more