เกาหลี ซูวอน โซล [เลสโก ว้าวสุดมันส์] 6 วัน 3 คืน เกาหลี ซูวอน โซล [เลสโก ว้าวสุดมันส์] 6 วัน 3 คืน เกาหลี ซูวอน โซล [เลสโก ว้าวสุดมันส์] 6 วัน 3 คืน เกาหลี ซูวอน โซล [เลสโก ว้าวสุดมันส์] 6 วัน 3 คืน

เกาหลี ซูวอน โซล [เลสโก ว้าวสุดมันส์] 6 วัน 3 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ (สนามบินนานาชาติดอนเมือง)

18.00 น.   คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 4 เคาน์เตอร์ 4 สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการขึ้นเครื่อง (หัวหน้าทัวร์แนะนำการเดินทาง) สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน (หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย) **หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 40 นาที (**ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่อง เนื่องจากต้องเป็นไปตามระบบของสายการบิน**)

21.05 น.   บินลัดฟ้าสู่ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ โดยเที่ยวบินที่ XJ704 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

วันที่ 2

เกาหลีใต้ (สนามบินนานาชาติอินชอน) – สวนสนุก EVERLAND เต็มวัน

04.35 น.   เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอินชอน (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ช.ม. กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว ขอต้อนรับทุกท่านสู่สาธารณะรัฐเกาหลีใต้ รถโค้ชนำทุกท่านข้ามทะเลตะวันตกด้วยสะพานแขวนยองจอง หรือ สะพานเพื่อความหวังในการรวมชาติที่ยาวกว่า 4.42กม. และมียอดโดมสูง 107 เมตร

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร (1) เมนู อูด้ง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ถูกขนานนามว่าเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ประกอบไปด้วยโซนต่างๆ ดังนี้ Global Fair, Magic Land, European Adventure, American Adventure, Zootopia เมื่อท่านก้าวผ่านประตูเข้าไปในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ พบกับอาคารทรงสวยที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียตะวันออก และอินเดีย ซึ่งผสมผสานจนเข้ากันลงตัว แวะถ่ายรูปสวยๆ ที่ Magic Tree ต้นไม้แฟนตาซีขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนธีมไปตามเทศกาลต่างๆ ถือเป็นอีกจุดแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยว

ใครชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!! สนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิดไม่ว่าจะเป็น รถไฟเหาะตีลังกา (Rolling X-Train) ที่เร็วสุดๆ และตีลังกาถึง 2 รอบ เฮอร์ริเคน (Hurricane) เครื่องเล่นที่จะหมุนๆ เหวี่ยงๆ ให้หัวใจเต้นรัวกับความสูงเกือบ 20 เมตรจากพื้นดิน! ดับเบิ้ลร็อกสปิน (Double Rock Spin) ที่จะหมุนๆ ตีลังกา 3 ตลบบนอากาศด้วยความสูงที่แทบกลั้นหายใจ เรือเหาะไวกิ้ง (Columbus Adventure) เตรียมตัวเตรียมใจไปกับเจ้าเรือเหาะยักษ์ที่จะเหวี่ยทุกคนขึ้นไปสูงถึง 30 เมตร ในมุม 75 องศา และไฮไลค์ที่พลาดไม่ได้ของสวนสนุกแห่งนี้ รถไฟเหาะรางไม้ (T-EXPRESS) รถไฟเหาะรางไม้ที่สูงชันเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งมีความชันถึง 77 องศา และวิ่งด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตร/ชั่วโมง

พิเศษ!!! ทางเลือกใหม่สำหรับท่านที่ไม่ชอบการรอคิวนานๆ สามารถซื้อบัตร Q-Pass เพื่อขึ้นไปรอเล่นได้เลย โดยซื้อแพคเกจเฉพาะ T-Xpress จ่ายเพิ่มเพียง 30,000 วอน (ราคาสำหรับ 2 ท่าน) จะได้รับตั๋ว Q-Pass และ SD Card ขนาด 16 GB ใส่กล้อง Action Camera มาให้ เมื่อถึงด้านบนให้นำกล้องส่งให้เจ้าหน้าที่เพื่อติดตั้ง ซึ่งจะเป็นโบกี้สุดท้ายของขบวนรถไฟ 1 รอบจะนั่งได้เพียง 2 ท่าน เพราะจุดติดตั้งกล้องมีเพียง 1 ชุด จากนั้นก็ลุย!! และหลังจากลงจากรถไฟแล้ว ท่านสามารถนำ SD Card มาตรวจสอบการบันทึกวีดีโอ หากวีดีโอเสียจะสามารถขึ้นไปเล่นใหม่ได้อีก 1 รอบ

พักเหนื่อยจากเครื่องเล่น หลุดเข้ามาในโลกของเหล่าสัตว์มากมาย!! ในโลกของ Zootopia หนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี มีสัตว์มากกว่า 2,000 ตัว จาก 200 กว่าสายพันธุ์ พาทุกท่านท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ขึ้นไปบนรถบัสซาฟารีเพื่อใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์ป่ายิ่งขึ้นอย่างโซน Safari World พบกับสัตว์ที่น่าเกรงขามอย่างสิงโตเจ้าป่า เสืออันดุร้าย และหมีตัวใหญ่ที่อาจจะโผล่มาทักทายคุณได้ทุกเมื่อ

จะมีอะไรตื่นเต้นไปกว่าการนั่งรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก!! ตะลุยเข้าไปในโซน Lost Valley พร้อมเพลิดเพลินกับการชมสัตว์ต่างๆ ที่เดินเล่นอย่างอิสระ ถ้าโชคดีอาจจะได้พบกับสัตว์เหล่านี้มาขอขนมกินถึงหน้าต่างรถเลยทีเดียว

กลางวัน    อิสระอาหารกลางวัน (ให้ทุกท่านได้อิสระตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการเล่นเครื่องเล่น)

เปลี่ยนบรรยากาศจากเหล่าสัตว์โลกมาเจอความสวยงามของหมู่พฤกษา!! เดินชมสวนดอกไม้ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งอวดสีสัน ณ สวนดอกไม้สี่ฤดู (Four Season Garden) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงพันธุ์ดอกไม้ไปตามฤดูกาลในรูปแบบที่หลากหลายตลอดทั้งปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ด้วยสีสันที่สดของดอกไม้แต่ละชนิดจึงได้รับความนิยมอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่มาสวนสนุกจึงไม่พลาดที่จะมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความสดชื่นกลับไปเป็นที่ระลึก รวมทั้งยังมีการจัดเทศกาลในแต่ละเดือน อาทิเช่น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนเมษายน – มิถุนายน เป็นสวนดอกทิวลิป และดอกกุหลาบ ในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายน - สิงหาคม เป็นสวนดอกลิลลี่หลากสีสัน ยังไม่หมดแค่นั้น ในช่วงเดือนนี้จะมีเทศกาลคลายร้อนไปกับสายน้ำ (Summer Splash) ในฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน เป็นสวนดอกเบญจมาศ พร้อมกับมีจัดตกแต่งสวนสนุกให้เข้ากับเทศกาลฮัลโลวีน (Happy Halloween) มีการจัดขบวนรถแฟนซีแห่รอบสวนสนุก และมีเจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นผีมาเดินแกล้งนักท่องเที่ยวด้วย ในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม มีการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ทุกเทศกาลจะตกแต่งด้วย แสง สี เสียง สุดอลังการ พร้อมทั้งมีขบวนพาเหรดมาสร้างความบันเทิงให้กับเด็กๆ เช่น White Christmas Parade, Moonlight Parade

การแสดขบวนพาเหรดอันน่าตื่นตาตื่นใจ! ชมขบวนพาเหรดสุดยิ่งใหญ่อย่าง คานิวัล แฟนตาซี พาเหรด (Carnival Fantasy Parade) พบกับโชว์ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก มีทั้งธีมสไตล์บราซิลอย่างแซมบาเฟสติวัล (Samba festival) ไปจนถึงธีมเวนิสคานิวัล (Venice Carnival) จากอิตาลีก็ตบเท้าเข้าร่วมขบวนด้วย สนุกสนานกับการเต้นรำไปพร้อมๆกัน ช่วงหัวค่ำเป็นอีกหนึ่งการแสดงที่พลาดไม่ได้เช่นกัน อย่าเพิ่งรีบกลับ! หากท่านยังไม่ได้ชมการแสดงพลุสุดอลังการหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน และยังมีขบวนพาเหรดที่จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง อย่างมูนไลท์พาเหรด (Moonlight parade) ให้ท่านได้ชมอีกด้วย ขบวนพาเหรดจะมีรอบ 14.30 18.30 และ 19.30 น.

เย็น   บริการอาหารเย็น (2) เมนู บุฟเฟต์บาบีคิวปิ้งย่างสไตล์เกาหลี เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาหมึก อาหารเกาหลี เติมไม่อั้น

พักที่  JM HOTEL / NEW M SUWON หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 3

เรียนรู้วิธีการทำคิมบับข้าวห่อสาหร่าย – โซลทาวเวอร์ – ผลิตภัณฑ์น้ำมันสน – คอสเมติค หมู่บ้านโบราณอิกซอนดง – พระราชวังเคียงบกกุง+ชุดฮันบก – ดิวตี้ฟรี – ตลาดเมียงดง

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)

พาไปเรียนรู้ การทำข้าวห่อสาหร่าย (คิมบับ) อาหารง่ายๆ ที่คนเกาหลีนิยมรับประทาน โดยการนำข้าวสุก และส่วนผสมอื่นๆหลากชนิด เช่น แตงกวา แครอท ผักโขม ไข่เจียว ปูอัด แฮม เป็นต้น วางแผ่บนแผ่นสาหร่าย ม้วนเป็นแท่งยาวๆ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟพร้อมหัวไชเท้าดอง และกิมจิ ชาวเกาหลีนิยมรับประทานคิมบับระหว่างการปิกนิก หรืองานกิจกรรมกลางแจ้ง

จากนั้นนำท่านไปยังหนึ่งในทาวเวอร์ที่มีวิวที่สวยที่สุดในเอเชีย โซลทาวเวอร์ ตั้งอยู่บนภูเขานัมซานใจกลางกรุงโซล มีความสูงจากฐานหอคอยประมาณ 236.7 เมตร และมีความสูง 479 เมตรจากพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืน หรือฤดูกาลไหนๆ ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา ทั้งจากนักท่องเที่ยวและคู่รักชาวเกาหลี เพราะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวทั่วทั้งกรุงโซล และบริเวณรอบๆ แบบพาโนราม่า นับเป็นอีกสถานที่สุดแสนโรแมนติกแห่งหนึ่งที่คู่รักทุกคู่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญของกรุงโซลที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาแวะเช็คอินคือ สถานที่คล้องกุญแจชื่อดัง Love Key Ceremony ที่มีความเชื่อว่า คู่รักที่มาคล้องกุญแจที่นี่จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล ** ราคาทัวร์นี้ไม่รวมกุญแจและค่าขึ้นลิฟท์ 10,000 วอน**

จากนั้นนำท่านเรียนรู้การทำ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสน ที่สกัดจากน้ำมันสนเข็มแดง มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ลดไขมัน ช่วยควบคุมอาหาร และรักษาสมดุลในร่างกาย

จากนั้นนำท่านแวะช้อปที่ร้านเครื่องสำอางค์ยอดนิยม COSMETIC OUTLET สวรรค์ของนักช้อปชาวไทย เพื่อเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบนด์ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์บำรุงผิวแบรนด์อย่าง DEWINS และแบรนด์ JSM ที่เป็นสินค้าหลักของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นครีมหอยทาก ครีมน้ำแตก ครีมขัดขี้ไคล สแตมเซลล์ โบท็อกซ์ เป็นต้น และยังมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ครีมว่านหางจระเข้ แป้งม้าโยก ยาย้อมผม แฮนด์ครีม ยาสระผม ฯ

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน (4) เมนู คัมจาทัง เเกงมันฝรั่งกระดูกหมู ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนผสมที่สำคัญคือ กระดูกหมูส่วนซี่โครง สันหลัง มันฝรั่ง ต้นหอม พริกแกง งาดำป่า ใบงาเขียว และเห็ด 

จากนั้นนำท่านไป หมู่บ้านโบราณอิกซอนดง หมู่บ้านฮันอกเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโซล มีกลิ่นอายความเป็นเกาหลีโบราณ และเป็นย่านเก่าแก่ที่อาจจะใหม่สำหรับใครหลายๆคน แหล่งรวมคาเฟ่เก๋ๆ ร้านอาหารชิคๆ ใจกลางกรุงที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกซอกซอยเล็กๆ สามารถเดินลัดเลาะจากแถวย่านอินซาดงมาได้ มีทั้งร้านอาหารเกาหลี ร้านบิงซู ร้านนั่งชิล ร้านพิซซ่า ที่ตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ เหมาะสำหรับชาวโซเชียลที่ชอบอัพรูปสวยๆ ไฮไลท์ของย่านนี้จะเป็นคาเฟ่ดอกไม้ชื่อร้าน มาดัง หน้าร้านจะเป็นมุมยอดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูป เพราะสีสันสดใสสวยงามของดอกไม้นอกจากสายฮิปเตอร์แล้วสายกินก็ห้ามพลาด!! ที่นี่มีร้านขายมันดูชื่อดัง (เกี๊ยวนึ่งเกาหลี) ชื่อร้าน ชางฮวาดัง ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน ซึ่งจะมีคนต่อคิวรอเยอะมากๆ

จากนั้นนำท่านชมความยิ่งใหญ่ของ พระราชวังเคียงบกกุง พระราชวังแห่งแรกของราชวงศ์โชซอนที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครมาเกาหลีเป็นครั้งแรกต้องไม่พลาดที่จะแวะมาเยือน ด้วยฉากหลังของพระราชวังนั้เป็นภูเขาพูกักซาน ทำให้ดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็น The Grand Palace ของเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจคือ พระที่นั่งคึนจองวอง เป็นพระที่นั่งที่กษัตริย์ใช้ออกว่าราชการ และเป็นที่ทรงงาน ภายในพระที่นั่งไม่สามารถเข้าไปชมได้ แต่สามารถถ่ายภาพจากด้านนอกได้ พิเศษสุดๆ !!! ใส่ชุดฮันบกเดินชม และถ่ายรูปสวยๆ ในพระราชวัง เพื่อเก็บภาพไว้เป็นความทรงจำดีๆ สำหรับทริปเกาหลีของทุกท่าน **อัตราค่าบริการนี้ รวมค่าเช่าชุดฮันบกแล้ว **

หมายเหตุ : กรณีที่พระราชวังเคียงบกกุงไม่เปิดทำการ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับรายการทดแทนเป็น พระราชวังชางด็อกกุง พระราชวังลำดับที่สองที่ถูกสร้างต่อจากพระราชวังเคียงบกกุง ในปี ค.ศ. 1405 และยังเป็น 1 ใน 5 ของพระราชวังสำคัญที่ยังคงรักษาไว้ ซึ่งมีต้นไม้ขนาดยักษ์มีอายุกว่า 300 ปี บ่อน้ำ และศาลาริมน้ำ พระราชวังแห่งนี้เป็นที่พำนักของพระมหากษัตริย์ถึง 9 พระองค์ ปัจจุบันยังคงเหลือความงดงามบางส่วนของพระราชวัง ได้แก่ พระตำหนักอินจองจอน พระตำหนักแดโจจอน พระตำหนักซอนจองจอน และพระตำหนักนักซองแจ

จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ดิวตี้ฟรี ที่ร้านค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในโซล แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับหลากหลายแบรนด์ดัง และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย โดยชั้นใต้ดินจะเป็นสินค้าแบรนด์หรู และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิเช่น PRADA, DIOR, LOUIS VUITTON, BULGARI, LONGCHAMP, COACH, GUCCI, MICHEL KORS, LOEWE, MIU MIU เป็นต้น ในส่วนของชั้นที่ 1 เป็นช็อป CHANNEL และนาฬิกาดังหลากหลายแบรนด์ อาทิเช่น ROLEX, HERMES, OMEGA, TISSOT เป็นต้น ชั้น 2 เป็นช็อป MCM ชั้นที่ 3 เป็นโซนเครื่องสำอางค์หลากหลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ SULWHASOO, HERA, LANEIGE, L'Oréal, SU:M37, ESTEE LAUDER, LANCOME, CHRISTIAN DIOR, BIOTHERM, MAC เป็นต้น ชั้น 4 จะเป็นสินค้าแบรนด์เนมอื่นๆ และชั้นที่ 5 จะเป็นแบรนด์ของเกาหลี และโซนร้านอาหาร

จากนั้นนำท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ย่านเมียงดง แหล่งละลายทรัพย์ในดวงใจของสาวๆหลายคน หรือสยามสแควร์เกาหลี ตลาดแห่งนี้จะมีเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องสำอางค์ทั้งแบรนด์เนมชื่อดัง และโลคอลแบรนด์ รวมถึงซีดีเพลง รูปดารา และศิลปินเกาหลี หรืออะไรที่วัยรุ่นต้องการก็สามารถหาได้จากที่ตลาดนี้ อาทิเช่น ร้านเครื่องสำอางค์ค์ที่คุ้นหูคนไทยที่ไม่ว่าจะเป็น ETUDE, SKIN FOOD, THE FACE SHOP, NATURAL REPUBLIC, INNISFREE ราคาเครื่องสำอางค์ค์จะถูกกว่าประเทศไทยประมาณ 2 ถึง 3 เท่า และบางรุ่นไม่มีขายในประเทศไทย หรือจะเป็นร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังอย่างร้าน MBC MART ก็มีรองเท้าหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือกมากมาย อาทิเช่น ADIDAS, NIKE, NEW BALANCE, VANS, CONVERSE, FILA เป็นต้น

ในส่วนของอาหารบริเวณข้างทางที่ฮอทฮิตไม่แพ้กันอย่างโซน เมียงดงสตรีทฟู้ด มีอาหารหรือของทานเล่นให้ได้ลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ย่างตัวใหญ่อบน่ากิน ขนมไข่หรือเครันปัง ขนมยอดฮิตตลอดกาลของเมียงดง กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ย่างชีสมีรสหวาน ชีสย่าง โดยการเอามอสซาเรลล่าชีสเสียบไม้แล้วเอาไปย่าง ต๊อกโบกี เค้กข้าวที่ขึ้นชื่อของเกาหลี ปรุงรสด้วยซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี เมนูนี้มีอยู่เกือบทุกซอกทุกมุมที่ในตลาดเมียงดง บะหมี่ดำจาจังมยอน หนึ่งในเมนูสุดฮิตที่เห็นกันบ่อยในซีรี่ส์เกาหลี มันฝรั่งเกลียวทอดกรอบเสียบไม้ พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองไทย แต่ของที่นี่จะมีไส้กรอกเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งชั้น ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ เสียบไม้แบบอลังการโรยด้วยเกลือ เป็นต้น แต่หากคนที่ชอบของหวานก็จะมีไอติมโคนเจ้าดัง ซึ่งไอติมที่กดมาใส่โคนนั้นสูงถึง 2 ฟุต

เย็น    อิสระอาหารเย็น (ให้ทุกท่านได้อิสระตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช็อปปิ้ง)

พักที่  BENIKIA M HOTEL / HAEDAMCHAE HOTEL / INTERCITY HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 4

อิสระท่องเที่ยว และช็อปปิ้งเต็มวัน

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

อิสระเต็มวันให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง หรือเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยมีไกด์คอยให้คำแนะนำในการเดินทาง อาทิ

- หมู่บ้านบุคชอนฮันอก เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงโซล หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ล้อมรอบไปด้วยพระราชวัง ทั้งเคียงบกกุง และชางด็อกกุง รวมถึงศาลเจ้าจงมโยด้วย มีบ้านเรือนนับร้อยหลังที่เป็นบ้านแบบดั้งเดิม ที่เรียกว่า ฮันอก (Hanok) ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนอดีตไปในสมัยราชวงศ์โชซอน ที่นี่มีมุมเด็ดๆ ที่ไม่ความพลาดถึง 8 จุดให้ถ่ายรูปด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีร้านชาชื่อดัง Tea Garden ตัวร้านเป็นบ้านสไตลืฮันอกอายุกว่า 100 ปี ภายในร้านมีโต๊ะที่ใช้นั่งกับพื้นที่เรียกว่า อนดล (Ondol) ซึ่งถูกจัดวางไว้กลางสวนตรงตามกับคอนเซปชื่อร้าน โดยพนักงานก็จะใส่ชุดฮันบกมาเสิร์ฟ ทำให้ได้ความรู้สึกย้อนยุคเข้าไปอีก

- คลองชองเกชอน คลองที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามที่สุดในเกาหลี แหล่งเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางเมืองหลวงที่  วุ่นวาย มีสะพานทั้งหมด 20 สะพานที่ออกแบบมาด้วยคอนเซ็บที่แตกต่างกัน บริเวณกำแพงทั้งสองข้างริมคลองประดับด้วยหินอ่อน และประติมากรรมที่สวยงาม 

- สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ สำหรับคนรักความสนุกที่ยังไม่จุใจ สามารถไปตามเก็บเครื่องเล่นในสวนสนุกแห่งที่ 2 ของเกาหลี ซึ่งมีชื่อเสียงไม้แพ้สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ได้ โดยวิธีเดินทางก็ง่ายแสนง่ายเพราะตั้งอยู่ในกรุงโซล ที่นี่รวบรวมเครื่องเล่นสนุกๆ ไว้มากมาย ถูกแบ่งออกเป็นโซน Indoor จะถูกจัดอยู่ในธีมผจญภัย (Adventure) และ Outdoor จะถูกจัดในธีมเกาะเวทมนต์ (Magic Island) สามารถเที่ยวได้ตลอดเวลาแม้ว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นใจ **หมายเหตุ อัตราค่าบริการนี้ ไม่รวมค่าบัตรเข้าสวนสนุก**

สายช็อปห้ามพลาด!

- ย่านเมียงดง หรือสยามสแควร์เกาหลี ตลาดแห่งนี้จะมีเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องสำอางค์ ทั้งแบรนด์เนมชื่อดัง และโลคอลแบรนด์ รวมถึงซีดีเพลง รูปดารา และศิลปินเกาหลี หรืออะไรที่วัยรุ่นต้องการก็สามารถหาได้จากที่ตลาดนี้ อาทิเช่น ร้านเครื่องสำอางค์ที่คุ้นหูคนไทยที่ไม่ว่าจะเป็น ETUDE, SKIN FOOD, THE FACE SHOP ในส่วนของอาหารข้างทางที่ฮอทฮิตไม่แพ้กันอย่างโซนสตรีทฟู้ด มีอาหารหรือของทานเล่นให้ได้ลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ย่างตัวใหญ่อบน่ากิน ขนมไข่หรือเครันปัง ขนมยอดฮิตตลอดกาลของเมียงดง กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ย่างชีส มีรสหวาน ชีสย่าง ต๊อกโบกี เค้กข้าวที่ขึ้นชื่อของเกาหลี ปรุงรสด้วยซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี เป็นต้น

- ย่านฮงแด เป็นย่านที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยฮงอิก มีร้านช็อปมากมายทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ รองเท้า ยิ่งช่วงกลางคืนจะคึกคักเป็นพิเศษ มีผับ บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหารมากมายตามตรอกซอกซอยแทบทุกแห่ง ถือเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นทั้งวันมัธยม และวัยมหา’ลัย โดยในช่วงเย็นๆ จะมีกลุ่มวัยรุ่นมาเต้นโชว์ความสามารถ บนถนนจะกลายเป็นลานการแสดงความสามารถด้านต่างๆ ทั้งเล่นดนตรี ร้อง เต้น แบบจัดเต็ม! ทำให้ถนนแห่งนี้คึกคัก และเป็นสีสันของกรุงโซลทั้งกลางวันและกลางคืน

- ย่านอีแด เป็นย่านที่อยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา นอกจากจะเป็นมหาลัยที่สวยที่สุดแล้ว ยังมีจุดถ่ายรูปฮิปๆ มากมาย ทีนี่ยังเป็นย่านช้อปปิ้งสินค้าแนววัยรุ่นแฟชั่นวัยใสสไตล์เกาหลี มีทั้งของจุกจิก กิ๊ฟช้อป เครื่องประดับ เสื้อผ้า แว่นตา กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์ เครื่องสำอางต่างๆ เป็นร้านเล็กๆ ที่แฝงตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ยาวเหยียดสองข้างทาง 

- ย่านชินซาดง แห่งรวมโลคอลแบรนด์ดัง ถนนกาโรซูกิล หรือเรียกกันว่า Artists’ Street เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดีไซเนอร์ แบรนด์หรู ร้านกาแฟที่ตกแต่งแบบชิคๆ ถนสายนี้จะทำให้คุณได้เพลินเพลินเจริญใจ เเละเงินในกระเป๋าเป็นอย่างยิ่ง 

- ย่านอัพกูจอง เป็นย่านที่น่าไปเดินเที่ยวมากๆ ของกรุงโซล ย่านนี้เป็นย่านไฮโซของเกาหลีนั่นเอง แน่นอนว่าห้างร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ในย่านนี้จึงเป็นแบรนด์ดังหรูหราระดับโลก โดยไฮไลท์ของย่านอัพกูจองจะอยู่บริเวณ ถนนโรดิโอ มีห้างที่สำคัญก็คือ Galleria Department Store ห้างหรูหราแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ตลอดทั้งแนวถนนก็ยังมีร้านขายสินค้าแฟชั่นจากดีไซเนอร์แนวหน้าของเกาหลีให้ได้เดินเลือกช้อปปิ้งอย่างจุใจ

สายฮิปเตอร์ต้องไปเช็คอิน!

- ย่านซองซูดง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจจะยังไม่คุ้นหูกับย่านนี้ แต่สำหรับคนเกาหลีแล้ว ย่านซองซูดงกำลังมาแรงกว่าที่ไหนๆ ได้รับฉายาว่าเป็น บรูคลินแห่งกรุงโซล เพราะเคยเป็นที่ตั้งของโรงงานเก่าๆ ในยุค 1960 ปัจจุบันถูกแปลงโฉมเป็นแกลอรี่ สตูดิโอ และคาเฟ่ที่มีสไตล์มากๆ จนกลายมาเป็นย่านฮิปสเตอร์ แหล่งรวมวัยรุ่นแนวอาร์ตๆ  นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีคาเฟ่ชื่อดังอย่าง ร้าน Café Onion ร้านคาเฟ่บรรยากาศดีที่ดังในเรื่องเมนูขนมปังอบอีกด้วย

- ย่านฮงแด นอกจากจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมสุดยอดร้านอาหารชื่อดังมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน อาหารว่าง อาทิ ร้านวันดังคัมจาทัง ร้านคัมจาทังที่ที่สุดในฮงแด ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 3, ร้าน Peony ร้านเค้กโฮมเมดเจ้าดัง เมนูที่ห้ามพลาดคือ Strawberry Short Cake และ Strawberry Bingsu ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 9, ร้าน 50pick ร้านนั่งชิลที่มีค็อกเทลให้เลือกทั้งหมด 50 แบบ ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 8, ร้านฮงงิกเกจาง กับเมนูสุดแซ่บอย่างปูสดดองซีอิ๊วม บุฟเฟ่ต์ปูดอง กุ้งดอง แบบครบเซ็ทเติมไม่อั้น ราคาแรงแต่รับรองความอร่อย ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 2, ร้านเซมาอึลชิกดัง ร้านหมูย่างชื่อดัง กันสาดสีเหลือง กับเมนูที่ต้องสั่งคือ ซุปกิมจิ 7 นาที ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 9, ร้านพิพิรี ร้านบิบิมบับแบบรีฟิล 5000 วอน เป็นร้านยอดนิยมของวัยรุ่นและวัยทำงานเพราะราคาถูกมาก ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 9 และร้านคาเฟ่ King ‘s Cross คาเฟ่นี้สาวกแฮร์รี่ห้ามพลาด! จำลองฉากในหนัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาไว้ที่ฮงแด พาท่านเดินทางไปโลกเวทมนต์ด้วยรถไฟ ชานชาลา 9 3/4 ร้านตั้งอยู่ตรงทางสถานีฮงอิกทางออก 9 เป็นต้น

การเดินทางในกรุงโซล

- รถประจำทาง รถบัสที่วิ่งในตัวเมืองเป็นการเดินทางที่สะดวก ถูกจำแนกตามสีเพื่อกำหนดชนิดของรถบัส รถบัสสีน้ำเงิน วิ่งตามถนนสายหลัก และวิ่งระยะทางไกลรอบกรุงโซล รถบัสสีเขียว วิ่งระยะสั้น และรับส่งผู้โดยสารจากจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ เช่น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัสสีเหลือง วิ่งวนภายในเขตกรุงโซล และรถบัสระยะทางไกล รถบัสสีแดง เป็นรถบัสด่วนที่วิ่งจากกรุงโซลไปยังชานเมือง 

- รถแท็กซี่ แท็กซี่เกาหลีส่วนใหญ่สามารถขึ้นแล้วบอกปลายทางที่จะลงได้เลย เพราะรถแท็กซี่เกาหลีจะไม่ปฏิเสธผู้โดยสารเหมือนที่เมืองไทย ยกเว้นแท็กซี่ตามแหล่งท่องเที่ยวบางแห่ง แท็กซี่บางประเภทอาจจะมีการเรียกราคาแบบเหมา โดยมีแท็กซี่ทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่

1. แบบธรรมดา (Standard) มี 3 สี ได้แก่ ขาว เทา ส้ม เป็นแท็กซี่ที่เรียกได้ง่ายที่สุดในบรรดาประเภทอื่นๆ ราคาในตอนกลางวันจะเป็นราคาปกติ ส่วนในตอนกลางคืนจะมีการชาร์ตเพิ่ม 
2. แบบชั้นหนึ่ง (Deluxe) มี 2 สี คือ ดำและเหลือง ด้านข้างกระจกจะมีป้ายคำว่า Deluxe แปะอยู่ ภายในกว้างนั่งสบาย ราคาในตอนกลางวันและกลางคืนจะเท่ากัน แต่จะราคาสูงกว่าแบบธรรมดา หาเรียกได้ตามหน้าโรงแรม หรือสถานีรถไฟต่างๆ 
3. แบบจัมโบ้คันใหญ่ (Jumbo) เป็นรถตู้ เหมาะกับคนที่เดินทางเป็นกลุ่ม ราคาจะพอๆกับแท็กซี่ชั้นหนึ่ง
4. แบบอินเตอร์ (International) เป็นแบบพิเศษ คนขับรถสามารถพูดภาษาอื่นได้ 

- รถไฟใต้ดิน คนเกาหลีในกรุงโซลนิยมรถไฟใต้ดินเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง เพราะสะดวก รวดเร็ว และครอบคลุมทุกพื้นที่ในโซล รถไฟใต้ดินจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของท่าน สายรถไฟสายหลักๆ จะแยกตามหมายเลขและสี บางสายจะมีชื่อเรียกเป็นของตัวเอง เริ่มตั้งแต่ สายที่ 1 ไปจนถึงสายที่ 9 รวมถึงสายอื่นๆ ที่มีชื่อเฉพาะ ดังนี้

➊ สาย 1 เป็นเส้นทางที่เก่าแก่และยาวที่สุด วิ่งผ่านใจกลางกรุงโซลยาวไปถึงต่างจังหวัด ผู้คนหลากหลายวัยเป็นสถานีที่มีปลายทางเยอะ เวลาเดินทางสายนี้ต้องสังเกตให้ดีๆ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ ตลาดปลานอร์ยางจิน, ตลาดนัมแดมุน, ทางเดินลอยฟ้า Seoullo 7071, ประตูดงแดมุน, ตลาดควางจัง, วัดโชกเยซา, คลองชองกเยชอน, พระราชวังถ็อกซูกุง เป็นต้น
➋ สาย 2 เป็นเส้นทางที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยจะวิ่งวนเป็นวงกลมบริเวณใจกลางกรุงโซล เต็มไปด้วยนักเรียน นักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน เพราะวิ่งผ่านมหาวิทยาลัยหลายแห่ง โบกี้จะแน่นบ้างว่างบ้างสลับกันไป ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ หลากหลายเเห่งด้วยกัน สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ วัดพงอึนซา, Coex Aquarium, Coex Mall, สวนสนุกล็อตเต้เวิร์ล, YG Entertainment, Sinchon Station, Hongik Station, ย่านฮงแด, พิพิธภัณฑ์ภาพสามมิติ Trick Eyes & Ice Museum, ย่านอีแด, มหาลัยสตรีอีฮวา เป็นต้น
➌ สาย 3 เป็นเส้นทางที่วิ่งจากทางตะวันตกเฉียงเหนือไปยังทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล เชื่อมระหว่างเมืองโกยางกับกรุงโซล     เป็นอีกหนึ่งสายที่ได้รับความนิยมในการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ พระราชวังเคียงบกกุง, หมู่บ้านนัมซานฮันอกกล, Seoul Museum of History, The National Folk Museum of Korea, SM Entertainment, ถนนกาโรซูกิล, ย่านชินซาดง, Apgujeong Station เป็นต้น
➍ สาย 4 เป็นเส้นทางที่วิ่งจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีการวิ่งผ่านใจกลางกรุงโซล เเละผ่านเเหล่งช็อปปิ้งสำคัญมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ ตลาดทงแดมุน, ตลาดเมียงดง, Dongdaemun History & Culture, Ihwa Mural Village, สวนสาธารณะนักซาน เป็นต้น    
➎ สาย 5 เป็นเส้นทางที่วิ่งจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ถือเป็นเส้นทางหลักที่คนในกรุงโซลใช้โดยสารในชีวิตประจำวันเป็นจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ สวนสาธารณะริมแม่น้ำฮัน, เกาะยออีโด, ตึก 63, จตุรัสควางฮวามุน, อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง, ศาลเจ้าจงมโย, Gimpo International Airport เป็นต้น  
➏ สาย 6 เป็นเส้นทางที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าหลายสาย สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ ย่านซองซูดง, ย่านอีแทวอน, สนาม World Cup Stadium, ฮานึลปาร์ค เป็นต้น 
➐ สาย 7 เป็นเส้นทางที่เริ่มต้นที่สถานี Jangam และสิ้นสุดที่สถานี Bupyeong-gu Office สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสายนี้ ได้แก่ Aiins World, Common Ground เป็นต้น
➑ สาย 8 เป็นเส้นทางที่มีระยะทางสั้นที่สุด
➒ สาย 9 เป็นเส้นทางที่มีจะมีการข้ามสายไปสายที่ไม่มีจุดตัดกับสายอื่นๆ ค่อนข้างรวดเร็วในการเดินทาง 

สายสนามบิน (Airport Railroad หรือ AREX) 
สาย Bundang
สาย Shinbundang 
สาย Gyeongui-Jungang
สาย Incheon

อิสระอาหารกลางวันและเย็น (ให้ทุกท่านได้อิสระตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง)

พักที่  BENIKIA M HOTEL / HAEDAMCHAE HOTEL / INTERCITY HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

ศูนย์สมุนไพรโสม - ศูนย์สมุนไพรฮอตเกนามู – พลอยอเมทิส – ถนนฮงแด – ฮุนไดพรีเมี่ยม เอ้าท์เลท – ละลายเงินวอน ซุปเปอร์มาร์เก็ต – สนามบินนานาชาติอินชอน

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง ศูนย์สมุนไพรโสมเกาหลี สมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหาร ปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบ และเพิ่มพละกำลัง มีสรรพคุณทางการแพทย์ช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด เสริมประสิทธิภาพทางเพศ ลดและป้องกันมะเร็ง

นำท่านชม ศูนย์สมุนไพรฮอตเกนามู ต้นไม้ชนิดนี้เจริญเติบโตในป่าลึกบนภูเขาที่ปราศจากมลภาวะ และสูงเหนือระดับน้ำทะเล 50-800 เมตร ช่วยดูแลตับให้สะอาดแข็งแรง ป้องกันโรคตับแข็ง ไม่ถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ บุหรี่ สารตกค้างจากอาหาร และยา

จากนั้นนำท่านชม โรงงานเจียระไนพลอยอเมทิส แดนเกาหลีเป็นแดนของพลอยสีม่วง พลอยแห่งสุขภาพและนำโชค โดยมีตั้งแต่สีม่วงอ่อนเย็นตา จนถึงสีม่วงไวน์ มีเสน่ห์เย้ายวนใจ พลอยนี้จะงามจับตาเมื่อมาทำเป็นแหวน จี้ ต่างหู และสร้อยข้อมือ

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน (7) เมนู ไก่ตุ๋นโสม อาหารบำรุงสุขภาพ ไก่ขนาดกำลังเหมาะ ยัดไส้ด้วยโสม แปะก๊วย และสมุนไพรบำรุงร่างกาย เสิร์ฟในหม้อดินร้อนๆ

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง ย่านฮงแด เป็นย่านที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยฮงอิก มีผลงานศิลปะที่ส่วนใหญ่เป็นศิลปะแนวร่วมสมัยจัดวางแสดงเต็มพื้นที่ของถนนปิกัสโซ่ที่ขึ้นชื่อของย่านนี้ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีผับ บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหารมากมายตามตรอกซอกซอยแทบทุกแห่ง จึงทำให้ที่นี่เป็นสีสันของกรุงโซลที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวไม่ขาดสายทั้งกลางวันและกลางคืน

จากนั้นนำท่านไปยัง ฮุนได พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท แหล่งช๊อบปิ้งขนาดใหญ่มีทั้งหมด 3 ชั้น เต็มไปด้วยร้านแบรนด์แฟชั่นกว่า 230 ร้าน มีร้านสินค้าแบรนด์ต่างประเทศให้เลือกมากมาย อาทิเช่น GUCCI, COACH, GIORDANO, DKNY, CALVIN KLEIN เป็นต้น รวมถึงสินค้าแบรนด์ดังจากเกาหลีที่มีให้ท่านได้เลือกสรรกันอย่างละลานตา

จากนั้นนำท่านเพลินเพลินกับการแวะซื้อของฝากที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต (ละลายเงินวอน ซื้อ 5 แถม 1) สาหร่าย ขนม
ต่างๆ ช็อกโกแล็ตหิน ซีเรียลช็อกโก้ ผลิตภัณฑ์ของใบ และรากฝอยของโสมในรูปแบบขนม ชาโสม โคลนพอกหน้าโสม ครีมล้างหน้าโสม เครื่องสำอางโสม และยังมีกิมจิ เปเปโร (ป๊อกกี้เกาหลี) ชินราเมง (มาม่าเกาหลี) นมกล้วย เป็นต้น

20.00 น.  เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอินชอน

 

วันที่ 6

กรุงเทพฯ (สนามบินนานาชาติดอนเมือง)

00.20 น.  เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ XJ703 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

04.20 น.  ถึงประเทศไทย สนามบินนานาชาติดอนเมือง พร้อมด้วยความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ                 
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.  
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน  
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ                    
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง , ค่าโทรศัพท์ , ค่าโทรศัพท์ทางไกล , ค่าอินเตอร์เน็ต , ค่าซักรีด , มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าวีซ่าสำหรับพาสปอร์ตต่างด้าว 

***ค่าบริการข้างต้น ยังไม่รวมค่าธรรมเนียม ค่าทิป คนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น*** ทางบริษัทขออนุญาตเก็บค่าธรรมเนียม ค่าทิป ท่านละ 1,750 บาท/ทริป/ท่าน**

ราคา

THB 10,000,000

29 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more