ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL

ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ นาริตะ นิกโก้ 5 D 3 N [เลสโก เพลินใบไม้เปลี่ยนสี] BY SL

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – สนามบินดอนเมือง

22.00 น.   พร้อมกันที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน THAI LION AIR หมายเลข 8 เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

วันที่ 2

นาริตะ – วัดอาซากุสะ - ถนนนาคามิเซ - ถ่ายรูปโตเกียวสกายทรี – สวนโชวะคะแนน - หมู่บ้านโอชิโนะ ฮัคไค อาบน้ำแร่ธรรมชาติ + ทานขาปูยักษ์

01.00 น.    เหิรฟ้าสู่เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน THAI LION AIR เที่ยวบินที่ SL300 (บริการอาหารว่างบนเครื่อง) สายการบิน THAI LION AIR ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 392 ที่นั่ง เครื่องใหม่ ลำใหญ่ มีจอทีวี การบริการทุกที่นั่ง 
** ไม่รวมค่าหูฟังบนเครื่องท่านละ  100 บาท โดยสามารถเก็บไว้ใช้ขากลับได้ ** จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 มีบริการอาหารว่างเสิร์ฟทั้งขาไปและขากลับ (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
**หมายเหตุ : ประเภทของเครื่องบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศของทางสายการบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า**

09.10 น.  เดินทางถึง เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรแล้ว นำท่าน เก็บภาพประทับใจกับคู่กับแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว ณ ริมแม่น้ำสุมิดะ หอคอยโตเกียวสกายทรี” (Tokyo Sky tree) หอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก  เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2555 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สร้างด้วยเทคนิคทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอันทันสมัย ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หอคอยแห่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่แข็งแรงทนทาน เพราะไม่เกิดความเสียหายแม้แต่น้อย 

นำท่านเดินทางสู่โตเกียว นำท่านชม วัดอาซากุสะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว เข้านมัสการขอพรจากพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ  นอกจากนั้นท่านยังจะได้พบเก็บภาพประทับใจกับโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตรซึ่งแขวนอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด และยังสามารถเลือกซื้อเครื่องรางของขลังได้ภายในวัด ฯลฯ หรือเพลิดเพลินกับ ถนนนาคามิเซ ถนนช้อปปิ้งที่มี ชื่อเสียงของวัด มีร้านขายของที่ระลึกมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลัง ของเล่นโบราณ และตบท้ายด้วยร้านขายขนมที่คนญี่ปุ่น มายังวัดแห่งนี้ต้องมาต่อคิวกันเพื่อลิ้มลองกับรสชาดสุดแสนอร่อย นอกจากวัดอาสากุซะจะเป็นวัดที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นแล้ว ถนนช้อปปิ้งนาคามิเซก็ยังเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของวัดอีกด้วยแล้วจะไม่ให้มีขนมขึ้นชื่อของวัดได้อย่างไร ขนาดองค์จักรพรรดิ์ยังรับสั่งคนสนิทให้มาซื้อที่นี่!!! เมนูนั้นก็คือ “เมล่อนปัง” เป็นขนมปังแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นขนมปังสอดไส้เมล่อน แต่จริงๆแล้วคือขนมปังอบแล้วยด้านบนมีลายแตกๆ ซึ่งเหมือนผิวเมล่อนของญี่ปุ่น เป็นที่มาของชื่อ “เมล่อนปัง” นั่นเอง ซึ่งปกติก็จะหาทานได้ทั่วไปแม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อต่างๆ แต่ที่ขึ้นชื่อก็ต้องยกให้ร้าน Asakusa Kagetsu-do ที่ขายเมล่อนปังรสดั้งเดิมและซอฟครีมหลากรส ที่ร้านนี้จะทำใหม่ๆอบเสร็จจากเตาร้อนๆ ขนมเมล่อนปังจะกรอบนอกนุ่มใน หวานกำลังดีซึ่งเป็นเมนูแนะนำที่มาถึงวัดอาซากุสะแล้วต้องลอง ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนโชวะคิเนน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของจักรพรรดิโชวะ มีขนาดใหญ่ถึง 16,300 เอเคอร์ ภายในแบ่งโซนออกเป็น 2-3 สวน โดยเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางสำหรับเดินเท้าและจักรยาน โดยทุกท่านจะได้ชมต้นกิงโกะและต้นเมเปิ้ลล้อมรอบสวนญี่ปุ่น ที่มีสีเหลืองอร่ามและแดงอวดโฉมทั่วทั้งพื้นที่ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

หมายเหตุ : กรณีใบแป๊ะก๊วยไม่เปลี่ยนสีหรือล่วงหล่นหมดแล้ว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ โดยนำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าหลวงในศาสนาชินโต ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศและเป็นที่สถิตวิญญาณขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ซึ่งเป็นจักรพรรดิที่มีความสำคัญกับประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง และได้รับความเคารพจากชาวญี่ปุ่นยุคปัจจุบันมากที่สุด

จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค ให้ท่านเจาะลึกตามหาแหล่งนํ้าบริสุทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นแหล่งนํ้าตามธรรมชาติตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอชิโนะ จ.ยามานชิ หรือพูดในทางกลับกันคือกลุ่มนํ้าผุดโอชิโนะฮัคไค เพียงก้าวแรกที่ย่างเท้าเข้าไปในหมู่บ้านก็สัมผัสได้ถึงอากาศบริสุทธิ์ และไอเย็นจากแหล่งนํ้าธรรมชาติที่มีให้เห็นอยู่ทุกมุม โดยในบ่อนํ้าใสแจ๋วมีปลาหลากหลายพันธุ์แหวกว่ายอย่างสบายอารมณ์  แต่ขอบอกเลยว่านํ้าแต่ละบ่อนั้นเย็นจับใจจนแอบสังสัยว่าน้องปลาไม่หนาวสะท้านกันบ้างหรือ เพราะอุณหภูมิในนํ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 องศาเซลเซียสนอกจากชมแล้วก็ยังมีนํ้าผุดจากธรรมชาติให้ตักดื่มตามอัธยาศัย และที่สำคัญ หมู่บ้านโอชิโนะยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าโอทอปชั้นเยี่ยมอีกด้วย ขึ้นชื่อว่ามาหมู่บ้านแหล่งน้ำบริสุทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิทั้งที จะไม่มีเมนูทานเล่นรสเลิศได้อย่างไรกัน เมื่อท่านมาถึงหมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอากาศบริสุทธิ์แล้ว ภายในหมู่บ้านยังมีร้านค้าขายของที่ระลึกซึ่งเป็นสินค้าโอท็อปของหมู่บ้านและบริเวณหมู่บ้านยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารทานเล่นต่างๆมากมาย สำหรับเมนูที่แนะนำนี้มีชื่อเรียกว่า “ยากิคุซะโมจิ” เป็นแป้งเนื้อนุ่มสีเขียว ซึ่งทำมาจากใบโยะโมะงิ เป็นพืชสมุนไพรของญี่ปุ่น สอดด้วยไส้ถั่วแดงบด ย่างบนเตาถ่าน หอมกรุ่น ทานร้อนๆกับอากาศหนาวๆ รับรองว่าฟินสุด

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม *** ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับมื้อพิเศษที่มีขาปูยักษ์ให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติปูพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นอย่างจุใจ หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น

พักที่ โรงแรม FUJI SCHOLE LAND HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

ภูเขาไฟฟูจิ (ชั้นที่ 5) - ศาลเจ้าโคมิตาเคะ - พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว - อุโมงค์เมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร - ดิวตี้ฟรี ช้อปปิ้งชินจูกุ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟฟูจิ ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเกาะญี่ปุ่นด้วยความสูง3,776เมตร จากระดับน้ำทะเล นำท่านขึ้นชมความงามกันแบบใกล้ชิด ยังบริเวณ “ชั้น 5” ของภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) เพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของภูเขาไฟที่ สามารถมอง เห็นทะเลสาบทั้งห้ากระจายอยู่โดยรอบ ให้ท่านได้สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์บนยอดเขาฟูจิ ถ่ายภาพที่ระลึก กับภูเขาไฟที่ได้ชื่อว่ามีสัดส่วนสวยงามที่สุดในโลก ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท และมีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ด้านหลังยังมี ศาลเจ้าโคมิตาเคะ ของศาสนาลัทธิชินโต เป็นที่สัการะบูชาและอธิฐานขอพร อีกทั้งยังเป็นที่สำหรับบวงสรวงท่านเทนกุ โดยมีความเชื่อว่าที่บริเวณโดยรอบของฟูจิซังชั้น 5 นี้ ถูกเรียกว่า “สวนของท่านเทนกุโดยมีความเชื่อว่าที่นี่มีท่านเทนกุปกครองอยู่นั่นเอง และยังว่ากันว่า ศาลเจ้าแห่งนี้มีสมบัติของท่านเทนกุหลงเหลืออยู่มากมาย อย่างเช่น ขวานขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักกว่า 375 กิโลกรัมตกอยู่ที่พื้นในสวน ซึ่งในสมัยก่อนมีผู้คนนิยมมาทดลองยกขวานนี้กันมากมาย เป็นต้น

สำหรับท่านที่หลงใหลในกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟนั้น บริเวณด้านหน้าภูเขาไฟฟูจิมีคาเฟ่กาแฟไว้บริการทุกๆท่านให้ใช้บริการไว้ดื่มด่ำรสชาติกาแฟพร้อมชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะเลือกช้อปปิ้งของฝากผลิตภัณฑ์ของภูเขาไฟฟูจิซึ่งมีบริการอยู่ที่ภูเขาไฟฟูจิที่เดียวหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว อาทิเช่น โคคา โคล่า ลายภูเขาไฟฟูจิ อันลิมิเต็ด , น้ำแร่ธรรมชาติภูเขาไฟฟูจิ เป็นต้น

นำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว ที่จำลองเรื่องราวของภูเขาไฟฟูจิ และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำท่านเดินทางชม อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนที่สวยงามบริเวณทะเลสาบคาวากูชิโกะ ซึ่งมีต้นเมเปิ้ลอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของคลองน้ำที่เปลี่ยนสีทั้งสีส้มและสีแดง ใบที่แห้งแล้วก็จะร่วงหล่นลงที่คลองน้ำ ทำให้ทั้งด้านบนและด้านล่างเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ล จึงดูเหมือนกับเป็นอุโมงค์ใบเมเปิ้ลที่สวยงามมาก** ซึ่งโดยปกติอุโมงค์ใบเมเปิ้ลจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ปลายพฤศจิกายนของทุกปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)**

หมายเหตุ: หากอุโมงค์เมเปิ้ล ใบไม้เปลี่ยนสีไม่มีแล้ว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ปรับโปรแกรมเที่ยว โดยนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ ชิซุย เอ้าท์เล็ต แหล่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังไปทั่วโลก พบกับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าใหม่ล่าสุด อาทิ MK MICHEL KLEIN, MORGAN, ELLE, CYNTHIA ROWLEY ฯลฯ เลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังได้ที่ร้าน BALLY, PRADA, GUCCI, DIESEL, TUMOI, GAP, ARMANI ฯลฯ เลือกดูเครื่องประดับ และนาฬิกาหรูอย่าง TAG HEURE, AGETE, S.T.DUPONT, TASAKI, LONGINES ฯลฯรองเท้าแฟชั่น HUSH PUPPIES, SCOTCH GRAIN, SKECHERS, HOGAN ฯลฯ

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี ณ ดิวตีฟรี  อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งย่านดัง ย่านชินจุกุ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อสินค้านานาชนิด ได้จากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านซานริโอะ ร้านขายเครื่องอิเลคทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องสำอาง ต่างๆ กันที่ร้าน MATSUMOTO แหล่งรวมเหล่าบรรดาเครื่องสำอางมากมาย อาทิ มาร์คเต้าหู้, โฟมล้างหน้า WHIP FOAM ที่ราคาถูกกว่าบ้านเรา 3 เท่า, ครีมกันแดดชิเซโด้ แอนเนสซ่าที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี  และสินค้าอื่น ๆ  หรือให้ท่านได้สนุกกับการเลือกซื้อสินค้า แบรนด์ดังอาทิ LOUIS VULTTON, UNIQLO, กระเป๋าสุดฮิต BAO BAO ISSEY MIYAKE, เสื้อ COMME DES GARCONS, H&M หรือเลือกซื้อรองเท้าหลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ NIKE, CONVERSE, NEW BALANCE, REEBOK ฯลฯ ได้ที่ร้าน ABC MART

ค่ำ    อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย

พักที่  โรงแรม  HEDISTAR HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 4

นิกโก้ - ศาลเจ้าโทโชกุ - สะพานชินเคียว - ทะเลสาบชูเซนจิ - น้ำตกเคง่อน - อิออน

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านชม ศาลเจ้าโทโชกุ เป็นศาลเจ้าประจำตระกูลโทกุงาวะที่โด่งดังในอดีตและยังเป็นสุสานของ “โทกุงาวะ อิเอยะสุ” โชกุนผู้พลิกชะตาชีวิตของชาวญี่ปุ่น พร้อมสักการะเทพเจ้าคุ้มครองและปกป้องลูกหลานของตระกูลและบรรดาผู้เลื่อมใส ชมเจดีย์ 5 ชั้น สถานที่รวบรวมพระธรรมคำสอน บทสวดมนต์ และสิ่งของมีค่า แล้วชมงานแกะสลัก อันเป็นโบราณวัตถุล้ำค่าที่มีมากกว่า 5,000 ชิ้น แล้วตื่นตากับซุ้ม ประตูโยเมมง อันเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ศิลป์ของญี่ปุ่นและยังเป็นศิลปะชิ้นเอกและมีชื่อเสียงของประทศญี่ปุ่น

ศาลเจ้าโทโชกุ เป็นที่ที่มีสถาปัตยกรรมวิจิตรงดงามมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งซุ้มโยเมมง ที่ประดับประดาด้วยสิงห์และมังกรในท่วงท่าและลีลาที่ต่างกันอย่างมากมาย  ตัวเสาทำจากไม้เคยากิรองรับน้ำหนัก 12 ต้น โดยในอดีตจะมีเพียงซามูไรชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถผ่านเข้าออกประตูนี้ได้แต่ต้องทิ้งดาบไว้ด้านนอกเสียก่อนตามธรรมเนียมด้านความปลอดภัยสำหรับงานไม้แกะสลักที่มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ ของศาลเจ้าโทโชกุ คือ งานแกะสลักปริศนาธรรม รูปลิงปิดหู ปิดตา และปิดปาก เป็นการสอนให้ผู้คนละเว้นการดู การฟัง และการพูดในสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งปริศนาาธรรมนี้ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นการผสมผสานที่เข้ากันอย่างลงตัวของลัทธิเต๋า และศาสนาชินโต

นอกจากนี้ที่คานในฉนวนทางเดินจะมีรูปสัตว์อีกหนึ่งรูปที่โด่งดัง ก็คือ รูปแมวหลับ ที่ดูเหมือนแมวนี้กำลังนอนหลับ แต่แท้จริงแล้วแมวตัวที่เห็นนี้ไม่ได้หลับ  แต่จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเดินไปที่ด้านหลังของภาพแมวหลับนี้  แล้วจะได้เห็นรูปนกกระจอกที่กำลังตื่นตระหนกอยู่คู่หนึ่ง แผ่นภาพแกะสลักนี้สื่อถึงว่ารัฐบาลทหารเอโดะที่มองเผินๆเหมือนแมวหลับอยู่นี้  ในความจริงเป็นแมวที่พร้อมจะกระโดดตระครุบนกอยู่  หากแว่นแคว้นใดไม่อยู่ในร่องรอยแล้วรัฐบาลเอโดะก็พร้อมจะบดขยี้ในทันที  ทั้งนี้ยังมีประติมากรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และจินตนาการอย่างมากมาย เช่น มังกร 100 หัว, แมวนอนหลับ, มังกร หัวเราะ เป็นตัน ให้ท่านได้เลือกมุมประทับใจบันทึกภาพความงามตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านผ่านชม  สะพานชินเคียว ซึ่งเป็นของศาลเจ้าฟูทาราซัง เป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นร่วมกับสะพานคินไตเคียว ที่อิวาคูนิกับสะพานซารุฮาชิ ที่ยามานาชิ, โอสึกิ  สะพานชินเคียวเป็นสะพานโค้งสีแดง ทอดข้ามแม่น้ำไดยะ ตรงเชิงปากทางขึ้นสู่แหล่งมรดกโลก ชื่อว่าสะพานชินเคียว หรือ สะพานอสรพิษคู่ มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7 เมตร สูงจากระดับน้ำประมาณ 10 เมตร สร้างจากไม้โดยมีเสาหิน รองรับน้ำหนัก ซึ่งเป็นสะพานที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของบรรดาสะพานไม้ของญี่ปุ่น ทาด้วยสีแดง สมัยก่อนสะพานนี้ใช้เฉพาะเจ้านายชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นในการข้ามแม่น้ำไดยะ

เที่ยง    รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร 

บ่าย     นำท่านเก็บภาพประทับใจกับ ทะเลสาบชูเซ็นจิ เชิงเขานันไต เกิดจากทะเลสาบที่ก่อตัวจากการระเบิดของหินละลายจากภูเขาไฟนันไตในอดีต ซึ่งเป็นทะลสาบที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เหนือระดับน้ำทะเล 1,270 เมตร ทำให้อากาศที่นี่เย็นตลอดปี (โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งอาจจะมีลมพัด ทำให้รู้สึกหนาวมากขึ้น ควรเตรียมเสื้อหนาวและเสื้อกันลมมาให้พร้อม) เพลิดเพลินกับการนั่งชมวิวบนรถบัสที่ขึ้นเขาสูงชันและโค้งหักศอกอันเป็นความมหัศจรรย์ในการสร้างทางโดยแต่ละโค้งจะมีชื่อโค้งเป็นของตัวเอง

จากนั้นนำท่านชม น้ำตกเคง่อน ที่เป็นน้ำตกสูงราว 100 เมตร ที่สายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงกระทบลงในแอ่งน้ำเบื้องล่าง โดยเฉพาะสายน้ำท่ามกลางใบไม้สีแดงยิ่งแปลกตาและน่าดูยิ่งขึ้นไปอีกโดยบริเวณรอบทะเลสาบมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพื่อชมความงามของฤดูกาลที่กำลังผลัดใบ (ไม่รวมค่าขึ้นลิฟท์ท่านละ 550 เยน)

นำท่านอิสระช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของนาริตะ ห้างฯ อิออน จัสโก้  ซื้อของฝากก่อนกลับ อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และ หากท่านใดหลงไหลในรสชาดของคิทแคทชาเขียวสามารถหาซื้อได้ที่นี่ได้เลย

ค่ำ    อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย

พักที่ โรงแรม  HEDISTAR HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

นาริตะ - สนามบินดอนเมือง - กรุงเทพฯ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่ สนามบินนาริตะ เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

11.00 น.  เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน THAI LION AIR เที่ยวบินที่ SL301 (บริการอาหารว่างบนเครื่อง)

16.15 น.   ถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ             
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.  
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน  
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ                
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • R ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน) **ถ้ากรณีที่ทางรัฐบาลประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเพิ่ม ท่านละ 1,700 บาท**
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 1,500 บาท/ทริป/ต่อท่าน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

ราคา

THB 10,000,000

29 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more