จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน  7 วัน 5 คืน

จอร์แดน เพตราและวาดิรัม พักโดมแคมป์ สไตล์ชาวเบดูอิน 7 วัน 5 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – คูเวต – อัมมาน

09.00 น.  นัดหมายคณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 เคาเตอร์ S  สายการบินคูเวตแอร์เวย์ เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ และบริการเรื่องกระเป๋าเดินทาง เช็คอิน และรับเอกสารประกอบการเดินทาง

11.45 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินคูเวต, โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU412 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง พร้อมจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง, กระเป๋าจะทำการเช็คทรูจากสนามบินสุวรรณภูมิ จนถึงสนามบินอัมมานควีนอเลีย (AMM) ประเทศจอร์แดน น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องสูงสุด ท่านละ 2 ใบ น้ำหนักต่อใบไม่เกิน 23 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม )

15.10 น.  เดินทางถึง สนามบินคูเวต (KWI) เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางสู่กรุงอัมมาน

17.10 น.  นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงอัมมาน โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU563

18.45 น.  ถึง ท่าอากาศยานอัมมานควีนอเลีย (AMM) ประเทศจอร์แดน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง โดยจะมีเจ้าหน้ามาคอยช่วยอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าให้แก่คณะ ทำการรับกระเป๋าสัมภาระ และการตรวจศุลกากร (เวลาท้องถิ่นที่ประเทศจอร์แดนช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) จากนั้นมีเวลาให้ท่านได้ทำการแลกเงินสกุลท้องถิ่น และเลือกซื้อซิมโทรศัพท์ ได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ค่ำ   บริการอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก SULAF LUXURY HOTEL, AMMAN ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

วันที่ 2

อัมมาน – มานาบา – เมาท์เนโบ – ปราสาทเครัค – เพตรา

เช้า    บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เขาเนโบ “Mount Nebo” (ระยะทาง 39 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขา สถานที่ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิต และฝังศพ ของโมเสส (ศัพท์ในศาสนายูดาห์ และศาสนาคริสต์) หรือ นบีมูซา (ศัพท์ในศาสนาอิสลาม )ผู้นำชาวยิวเดินทางจากอียิปต์ ไปยังเมืองคานาอัน และเป็นผู้นำคำสอนบัญญัติสิบประการของ พระยะโฮวาห์ลงมาเผยแผ่สู่มนุษย์

ชม โบสถอ์นุสรณ์โมเสส ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงโมเสส อนุสรณ์แห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 300-400 ในยุคไบเซนไทน์  ตอนต้นคริสต์ศักราช ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่าย ให้ท่าน ชมวิว และเก็บภาพที่จะมองเห็นทัศนียภาพทั้งแม่น้ำจอร์แดน ทะเลเดดซี นครเจริโค เมืองเบธเลแฮม และเมืองเยรูซาเล็ม หรือดินแดนศักดิ์สิทธิ์

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาดาบา (MADABA) (ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หรือเมืองแห่งโมเสก ว่ากันว่าที่นี่มีงานศิลปะโมเสกที่สวยงามมาก เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของประเทศจอร์แดน ผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่มานานกว่า4,500 ปี ชมโบสถ์กรีกออโธ ดอกซ์ แห่งเซนต์จอร์จ บนพื้นโบสถ์มีแผนที่ทำด้วยกระเบื้องโมเสกสีสวยงามจำนวนกว่า 2 ล้านชิ้น ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก สร้างขึ้นในสมัย ศตวรรษที่ 6 หรือราว ๆ ปี ค.ศ.600  (พ.ศ.1143) ในยุคไบเซนไทน์ แผนที่นี่แสดงให้เห็นพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในอดีต เนินเขา หุบเขา หมู่บ้าน ตัวเมือง ครอบคลุม ไปจนถึงปากแม่น้ำไนล์ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เยรูซาเลม จอร์แดน ทะเลเดดซี และอียิปต์

เที่ยง    บริการอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัล-คารัค (AL-KARAK) (ระยะทาง 155 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองคารัค ตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ เพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพอันงดงามระหว่างทางขึ้นเขา โดยเฉพาะบริเวณ “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” ชม ปราสาทเครัค (KERAK CASTLE) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1142 โดยในอดีตเคยเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางของนักรบครูเสด เพื่อควบคุมเส้นทางสำหรับต่อสู้ในสงครามครูเสด ทั้งจากทางเหนือและใต้ กับกองทัพมุสลิมจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1187 ได้ถูกนักรบมุสลิมเข้าทำลายโดยภายใต้การนำทัพของซาลาดิน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา (ระยะทาง 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) 

ค่ำ   บริการอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก THE OLD VILLAGE HOTEL RESORT & SPA, PETRA ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 3

เพตรา – วาดิรัม

เช้า    บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพูที่แกะสลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซี กับอ่าวอะกาบะ ซึ่งซ่อนตัวซ่อนตัวอยู่ภายใต้อ้อมกอดของหุบเขาวาดี มูซา ที่สูงชันประดุจเป็นปราการอันยิ่งใหญ่ถูกลืมเลือนไป จากความทรงจำของผู้คนและสูญหายไปจากแผนที่นานนับพันปี จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1812 (พ.ศ. 2355) เมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท

เดินทางผ่านมาพบเห็นและออกมาเขียนหนังสือ เล่าขานถึงความสวยงามและความมหัศจรรย์ของนครแห่งนี้ เพตราแห่งนี้จึงเริ่มปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งและในปี ค.ศ.1985 (พ.ศ. 2528) องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เพตรา เป็นเมืองมรดกโลก โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า"เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" (one of the most precious cultural properties of man's cultural heritage) และยังได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย ให้ท่านนั่งม้าลัดเลาะไปตามพื้นหินและทรายกว่า 600 เมตร (ค่านั่งม้ารวมอยู่ในค่าบริการแล้ว ทั้งนี้โปรดเตรียมค่าทิปสำหรับคนจูงม้าตามธรรมเนียม ท่านละ 5 JOD(ดีน่า จอร์แดน) ต่อเที่ยว และแนะนำให้เตรียมผ้าปิดจมูกติดตัวไปด้วย ราคาทัวร์ไม่รวมรวมค่าขี่อูฐ    ขี่ลา รถม้าลาก สนใจกรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์)

มุ่งหน้าไปในเส้นทางมหัศจรรย์ที่ทางเข้าออกของเมืองเพตรา พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่เมืองบริเวณซอกเขาเรียกว่าซิค SIQ เป็นหุบเขาสูงกว่า 250 ฟุต ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อนจนเกิดเป็นช่องทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างหุบเขา ชมสีสันความสวยงามของหินสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และยังมีภาพศิลปะแกะสลักจากภูเขา อาทิ รูปปั้นแกะสลักต่าง ๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ อีกมากมาย เข้าเขตหน้าผาสูงชั้นสองข้างทางสู่มหานครแห่งศิลาทรายสีชมพู ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-Khazneh / Treasury) สถานที่แห่งนี้ถูกสันนิษฐานว่า  สร้างในราวศตวรรษที่ 1 - 2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้นมหาวิหารถูกแกะสลักจากภูเขาสีชมพู ทั้งลูก อย่างกลมกลืนได้สัดส่วนและสวยงามน่าอัศจรรย์ เป็นอาคารสองชั้น อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานว่าเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเธียน อิสระในการเดินชมและเก็บภาพบรรยากาศ

เที่ยง    บริการอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม MOVENPICK RESORT (5*)

จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ เขตอุทยานวาดิรัม (WADI RUM) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวาน จากประเทศซาอุฯเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียน ก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตรา) นำคณะเข้าที่แคมป์ที่พักเพื่อทำการเช็คอิน

จากนั้นนำท่าน ขี่อูฐ ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ ตกดินที่ทะเลทรายวาริดัม

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ แบบบาบีคิวบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของแคมป์ที่พัก

ที่พัก  SUN CITY CAMP – MARTIAN TENT, WADI RUM หรือเทียบเท่า 

วันที่ 4

วาดิรัม - เดดซี

เช้า   บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ณ ที่ห้องอาหารของแคมป์ที่พัก

นำคณะนั่งรถกระบะเปิดหลังคา รับบรรยากาศท่องทะเลทรายที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดง ปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์ในสงครามอาหรับ ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบขับไล่กองทัพออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” (และในปี ค.ศ.1963 สามารถกวาดรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ อีกกว่า 30 รางวัล นำแสดงโดย PETER O'TOOLE, OMAR SHARIF  นําคณะท่องทะเลทรายต่อไปยัง ภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนแกะสลักก่อนประวัติศาสตร์ที่ เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่ แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจําวันต่างๆ และรูปภาพต่างๆ ผ่านชมเต็นท์ชาว เบดูอิน ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) (ระยะทางประมาณ 314 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) ทะเล ที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และมีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้

เที่ยง    บริการอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เขตทะเลเดดซี เพื่อทำการเข้าเช็คอิน ณ โรงแรมที่พัก ให้ท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเล และพิสูจน์ความจริงว่าท่านสามารถลอยตัวในน้ำทะเลแห่งนี้ได้จริงหรือไม่ และพักผ่อนตามอัธยาศัย (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่าง ๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์)

ค่ำ    บริการอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก RAMADA RESORT, DEAD SEA ระดับ 4 ดาว 
        

วันที่ 5

ทะเลเดดซี – อัมมาน

เช้า    บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระตามอัทยาศัยที่โรงแรม หรือแช่น้ำทะแลเดดซี อีกครั้งยามเช้า จนถึงเวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมือง เจอราช (JERASH) (ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองที่รู้จักกันในนาม “เมืองพันเสา” หรือ นครปอมเปอีแห่งตะวันออก หนึ่งในเมืองโบราณที่มีสถาปัตยกรรมโรมันที่ยิ่งใหญ่ และได้รับการอนุรักษ์อย่างดีที่สุดในโลก (นอกเขตประเทศอิตาลี) ภายในกำแพงเมืองที่เหลืออยู่ นักโบราณคดีได้พบซากปรักหักพัง ของการตั้งถิ่นฐานของอารยธรรมมนุษย์ย้อนหลังไปถึงยุคหินสมัยใหม่ ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 6,500 ปี ระหว่างทางแวะให้ท่านได้ ช็อปปิ้งที่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซี เช่น โคลนพอกตัว พอกหน้า สบู่ และสินค้าอื่นที่ทำจากเดดซีอีกมากมาย จากนั้นเดินทางต่อสู่กรุงอัมมาน

เที่ยง    บริการอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านเข้าชม นครเจราช สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนนครเจราช คือ การเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด (COLLONADED STREET) ถนนสายหลักอันเก่าแก่แห่งเมืองนี้ ซึ่งบนถนนยังคงถูกจารึกไว้ด้วยร่องรอยของรถม้า นอกจากนี้ยังมีน้ำพุใจกลางเมือง(NYMPHAEUM) ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือ  ของชาวเมืองแห่งนี้ โอวัลพลาซ่า (OVAL PLAZA) สถานที่พบปะสังสรรค์ของชาวเมือง เจอราช ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ ล้อมรอบด้วยเสา คอรินเทียม (CORINTHIUM) กว่า 160 ต้น

เสาเหล่านี้ได้กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมาก ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน ถูกสร้างขึ้น 129 ปี หลังคริสตกาล เปรียบเสมือนเครื่องหมายแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน โดยประตูอยู่ทางทิศใต้ของเขตเมืองใหม่ อีกหนึ่งที่เที่ยวชื่อดังแห่งเมืองโรมันโบราณ เจราช คือ โรงละครทางทิศใต้ ซึ่งจุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน อัศจรรย์ตรงเราสามารถทดสอบฟังเสียงสะท้อนของตัวเองจากจุดสะท้อนกลางโรงละคร ด้วยการพูดเบาๆ เท่านั้น เสียงก็จะย้อนกลับมาเข้าหูเราอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นนำคณะเดินทางกลับเข้าสู่กรุงอัมมาน

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

ที่พัก SULAF LUXURY HOTEL, AMMAN ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 
           

วันที่ 6

อัมมาน - สนามบิน

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน และมีความเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก นำท่านชมเมืองหลวง กรุงอัมมาน เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี

ผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่, ย่านธุรกิจ, ตลาดใจกลางเมือง, ย่านคนรวย ฯลฯ ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) บนยอดเขาสูงสุดในกรุงอัมมาน ถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้านการเมืองต่าง ๆ รอบเมือง แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังแต่ยังสวยงาม และมีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยยุคหิน เผยให้เห็นอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมที่มาจากยุคเหล็ก รวมถึงยุคโรมัน ยุคไบแซนไทน์ และยุคอุมัยยะฮ์ ชม วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.162-166 (พ.ศ. 705-709) วิหารแห่งนี้ มีขนาดใหญ่กว่าวิหารที่อยู่ในโรมโบราณเสียอีก เดินผ่านทางเข้าที่เป็นแนวเสาระเบียงไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ข้างใน จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปลายหน้าผา ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิว พาโนรามาอันสวยงามของเมือง ใกล้กันนั้นมีมือรูปกำปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนเผยให้เห็นความขาวโพลนจนแทบไม่มีเลือด

จากนั้นผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์อับดลุลาห์ที่สอง (Raghadan Palace) ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูและตรวจตราอย่างเข้มงวด

ชม โรงละครโรมัน อายุกว่า 2,000 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของนครอัมมาน แต่ปัจจุบันก็ยังทำให้ผู้ที่พบเห็นได้ทึ่งกับการวางแผนทางด้านงานวิศวกรรมของโรมัน อันชาญฉลาดและมีดีไซน์ที่ น่าจดจำ โรงละครโรมัน แห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากที่สุดในอัมมาน โรงละคร มีความลาดเอียงลึกลงไป เอื้อให้เสียงที่ได้ยินรอบตัวนั้นมีคุณภาพเยี่ยม การออกแบบสุดสร้างสรรค์นี้สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 6,000 คน สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 (พ.ศ. 704-723) สมัยการปกครองของ แอนโทนิอุส ปิซุส (Antoninus Pius)

ชม ย่านตลาดเก่า ของเมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า ไม่ไกลจากโรมัน เธียเตอร์ ตลาดจะเริ่มคึกคัก เริ่มเปิดก็หลังเที่ยงวันไปแล้ว ตลาดที่นี่มีทั้งของสด ของแห้งอาหาร เครื่องใช้ไม้สอย เสื้อผ้าเครื่องนุงห่ม ผัก ผลไม้ ถั่วงา ถั่วต่างๆ เครื่องเทศ ขนมปังหลากหลายชนิดมาก ขนมหวานที่ทำจากธัญพืช ร้านน้ำผลไม้จะมีประปรายบางร้านขายชา กาแฟด้วย บางร้านขายเฉพาะน้ำผลไม้ อาหารฟาสฟู๊ดของที่นี่คือร้านขายเคบับหรืออาหารประเภทแป้งห่อเนื้อ อีกร้านที่มีเยอะไม่แพ้กันคือ ร้านขายน้ำหอม ที่มีทั้งแบบปรุงมาสำเร็จ บรรจุขวดแล้ว และแบบที่ให้ลูกค้าเลือกปรุงกลิ่น     เอาเอง และที่นี่จะเห็นแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำงานนอกบ้าน เพราะไม่อนุญาติให้ผู้หญิงทำงานนอกบ้าน และที่สำคัญเวลาเราจะถ่ายภาพบุคคลจะต้องขอเจ้าตัวเขาก่อนทุกครั้ง เพราะที่นี่ไม่ชอบให้ใครถ่ายภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ห้าง CITY MALL อิสระให้ท่านได้ช็อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานควีนอเลีย เพื่อทำการเช็คอินไฟล์ท เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

18.45 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองคูเวต, โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU564 (บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มบนเครื่อง น้ำหนักกระเป๋าสูงสุดท่านละ 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม)

22.00 น.  เดินทางถึงสนามบินคูเวต เปลี่ยนเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

23.25 น.  นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU411 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

 

วันที่ 7

คูเวต – กรงุเทพฯ

10.05 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการรวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด แบบหมู่คณะ (เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ) โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ น้ำหนักกระเป๋าเดินทางสูงสุดท่านละ 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม และกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) ท่านละ1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. 
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง 
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่) ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าวีซ่าประเทศจอร์แดนแบบท่องเที่ยวหมู่คณะ 
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุแบบหมู่คณะวงเงินค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศสูงสุด 5 แสนบาท /และเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 ล้านบาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 80 ปี) 
  • บริการน้ำดื่มระหว่างทัวร์ วันละ 1 ขวด ต่อวัน 
  • ค่าทิปคนขับรถจี๊ปที่ทะเลทรายวาริดัม และ ค่าทิปคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น
  • ค่าไกด์ท้องถิ่น ผู้มีประสบการณ์ คอยดูแลและให้ความรู้ ตลอดการเดินทาง
  • หัวหน้าทัวร์ (ไกด์ไทย) ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ (สำหรับกรุ๊ปส่วนตัวเท่านั้น)
  • ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว และ ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียม
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่ามินิบาร์, ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ, ทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ และ ค่าขี่ลา, ขี่อูฐ และรถม้าลาก ที่เพตรา ฯลฯ 
  • ค่าทิปม้าที่เมืองเพตรา ท่านละ 5 JOD ต่อเที่ยว (เฉพาะกรณีที่ลูกค้าใช้บริการเท่านั้น)
  • ค่าทิปสำหรับหัวหน้าทัวร์ไทย เพื่อเป็นสินน้ำใจ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในการให้บริการ

ราคา

THB 10,000,000

20 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more