มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน

มหัศจรรย์.... SWITZERLAND พิชิต 2 ยอดเขา ยุงฟราว แมทเทอฮอร์น 8 วัน 5 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

สนามบินสุวรรณภูมิ

22.00 น.  พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 Row D เคาท์เตอร์สายการบินไทย Thai Airways (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

วันที่ 2

ซูริค • ซุก • เบิร์น • บ่อหมี • ย่าน Oldtown • หอนาฬิกาดาราศาสตร์ • บ้านไอน์สไตน์ • อาสนวิหารแห่งกรุงเบิร์น • เบียล

00.35 น.  ออกเดินทางสู่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งขุนเขา และทะเลสาบ โดยเที่ยวบิน TG970 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง 45 นาที)

**เดือนมีนาคมเป็นต้นไปเวลาเดินทางจะเปลี่ยนเป็น 01.05 น.**

06.55 น.   ถึงถึงสนามบิน ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค (Flughafen Zürich)  สมาพันธรัฐสวิส ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน)

**เดือนมีนาคมเป็นต้นไปเวลาถึงจะเปลี่ยนเป็น 07.50 น.**

มุ่งหน้าสู่ เมืองซุก (Zug) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบซุก เป็นเมืองเล็กๆ ที่หลายๆท่านให้เป็นเมืองผ่าน แต่ที่นี้นั้น อัดแน่นไปด้วยมนต์เสน่ห์ พาท่านเดินเล่นที่เขตเมือง ที่มีหอนาฬิกาความสูง 52 เมตร ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เช่นเดียวกับตึกรามบ้านช่องในเขตนี้ นอกจากนั้นยังมีโบสถ์โกธิคที่ตั้งอยู่ในเมืองอย่างกลมกลืนมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นของดั้งเดิม ปัจจุบันซุก ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่รวยและสะอาดที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 1)

เดินทางสู่ เมืองเบิร์น (BERN) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) นครหลวงของประเทศ เมืองแห่งนี้นอกเหนือจากศูนย์กลางทางการปกครองแล้ว ยังเป็นจุดรวมของวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของดินแดนแห่งขุนเขาจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมืองปี 1983 อีกด้วย

พาท่านชมความงามของ ย่าน Old town ซึ่งเป็นย่านจุดศูนย์หลางของเมือง ไฮไลท์อยู่ที่ หอนาฬิกานาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) ที่นอกเหนือจากความเที่ยงตรงแล้ว ในทุกๆ ต้นชั่วโมงยังมีกลไกแสดงรูปปั้นสัตว์แสนน่ารักให้ได้ชมกันอีกด้วย ให้ท่านได้ซึมซับกับบรรยากาศอย่างไม่รีบเร่ง

ถัดไปไม่ไกลจะพบกับ บ้านเลขที่ 49 ซึ่งเป็นบ้านที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ชื่อดังของโลก เคยมาใช้ชีวิตอยู่ในช่วงสั้นๆ ระหว่างปีค.ศ. 1903-1905 ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายและผลงานบางส่วนของไอน์สไตน์ จากนั้นพาท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับความตระการตาของ อาสนวิหารแห่งกรุงเบิร์น (Bern Minster) ที่คงความงามมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1573

ตบท้ายด้วยสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น กับ บ่อหมี (Bärengraben) ริมแม่น้ำอาเร โดย คำว่า Bern ที่เป็นชื่อเมืองนั้นมาจากคำว่า "Baren" ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า "หมี" หรือ "Bear" ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเกิดมาจากในสมัยก่อนนั้น ผู้ครองเมืองเบิร์นได้ไปออกล่าสัตว์ และสัตว์ที่ได้กลับมานั้นก็คือหมีนั่นเอง จนทำให้เบิร์นนั้นกลายเป็นชื่อของเมือง และมีสัญลักษณ์ของเมืองเป็นรูปหมีไปด้วย

เดินทางไปยัง เมืองเบียล (Biel) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) อีก 1 เมืองแสนน่ารัก เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ทั้งยังเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเลสาบเบียลอีกด้วย

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 2)

ที่พัก  Mercure Hotel Plaza Biel หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น   ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย  5-7  วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่ 3

เจนีวา • น้ำพุแห่งเจนีวา • ที่ทำการองค์การสหประชาชาติแห่งเจนีวา • นาฬิกาดอกไม้ • มองเทรอซ์ • ปราสาทชิลยอง • โลซานน์ • ศาลาไทยแห่งโลซาน • อาสนวิหารโลซาน • ลูลี่

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 3)

เดินทางไปยัง เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองปลายตะวันตกเฉียงใต้สุดอันมีพรมแดนติดกับฝรั่งเศส พาท่านชม นาฬิกาดอกไม้ (L’horloge fleurie) ที่สวน Jardin Anglais โดยสวนแห่งนี้นั้น นับว่าเป็นจุดพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าทั้งคนท้องถิ่นหรือแม้กระทั้งนักท่องเที่ยว ความพิเศษคือดอกไม้ที่นำมาประดับจะขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล ในบรรยากาศก็แตกต่างกันออกไป ผ่านชม Monument National อนุเสาวรีย์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการรวมชาติระหว่างเจนีวาและประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในปี 1814

ก่อนแวะถ่ายรูปด้านหน้าของที่ทำการองค์การสหประชาชาติแห่งเจนีวา (United Nations Office at Geneva) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองนี้ ซึ่งเจนีวานั้นถือเป็นเมืองที่มีองค์กรระหว่างประเทศตั้งอยู่มากที่สุดในโลก และประเทศไทยนั้นก็ถือเป็น 1 ใน 193 รัฐสมาชิกสหประชาชาติ โดยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2489

และพลาดไม่ได้กับการชม น้ำพุแห่งเจนีวา (Jet d’Eau) น้ำพุสูง 140 เมตร ที่พวงพุ่งออกมาท้องทะเลสาบ ถึงแม้จะเป็นเพียงน้ำพุสายเดียวและอาจจะดูไม่ได้อลังการเหมือนน้ำพุอื่นๆ แต่น้ำพุแห่งนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจาก สร้างขึ้นมาเพื่อลดแรงดันน้ำหลังจากการกั้นเขื่อนของทะเลสาบเจนีวา ซึ่งการสร้างน้ำพุในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของทางสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (มื้อที่ 4)

จากนั้น  เดินทางต่อไปยัง เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) โดยระหว่างนั้นจะเลียบทะเลสาบเจนีวาตลอดทาง แวะถ่ายรูปด้านหน้าของ ปราสาทชิลยอง (Château de Chillon) ปราสาทอายุกว่า 1,000 ปี ที่ยังคงความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งขอยุโรปก็ว่าได้ และเป็นอีก 1 จุดที่ท่านต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนเมืองมองเทรอซ์ ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ SAVOY มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดควบคุมและเก็บค่าผ่านทางของผู้เดินทาง รวมไปถึงขบวนสินค้าต่างๆที่สัญจรไปมา ตัวปราสาทมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ และสิ่งที่ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีความพิเศษคือทัศนียภาพที่อยู่บริเวณริมทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 2 ของยุโรปที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

มุ่งหน้าสู่ เมืองโลซาน (Lausanne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ) เมืองหลวงแห่งโอลิมปิก และยังเป็นเมืองที่มีความสัมพันธ์กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรครั้งที่ยังทรงพระเยาว์ พร้อมกับ พระชนก พระชนนี พระเชษฐา พระเชษฐภคินี รวม 5 พระองค์

พาท่านถ่ายรูปกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le Pavillon Thailandais) ศาลาทรงจัตุรมุขแบบไทยสร้างด้วยไม้สักและไม้เนื้อแข็งตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะเดอนองตู (Le Denantou) ซึ่งสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยในวันที่ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังเมืองโลซานน์เป็นการส่วนพระองค์เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดศาลาไทยอย่างเป็นทางการ

ศาลาไทยแห่งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ผู้ออกแบบคือพลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น ท่านเดียวกับที่บูรณะโลหะปราสาทในวัดราชนัดดารามวรวิหาร

จากนั้น   พาท่านถ่ายรูปด้านหน้า อาสนวิหารโลซาน (Lausanne Cathedral) หรือชื่อเต็มคือ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งโลซานเป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ระดับอาสนวิหารประจำเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาสนวิหารแห่งนี้เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1170 และแล้วเสร็จในปี 1235 ต่อมาอาสนวิหารแห่งนี้ถูกประกาศอุทิศให้แก่พระแม่มารีย์โดยคำประกาศของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10ในปี 1275 และเนื่องจากอาสนวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้ท่านจะสามารถเก็บบรรยากาศวิวมุมสูงของเมืองโลซานได้ยังเต็มที่ ก่อนเดินทางสู่ เมืองลูลี่ (Lully)

ค่ำ   บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน (มื้อที่ 5)

ที่พัก BB LULLY หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย  5-7  วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่ 4

ทาซ • เซอร์แมท • นั่งรถไฟรถไฟกอร์เนอร์กราต • ยอดเขากอร์เนอร์กราต • เมืองอินเทอลาเก้นท์

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6)

มุ่งหน้าสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม. ) โดยพาท่านเปลี่ยนเป็นขึ้นรถไฟที่เมือง ทาซ (Tasch) เนื่องจากเมืองเซอร์แมทนั้นเป็นเมืองปลอดมลพิษ รถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมือง ส่งผลให้เมืองนี้มีอากาศที่บริสุทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 7)

พิเศษสุด !!! พาท่านนั่งรถไฟกอร์เนอร์การ์ท (Gornergrat) รถไฟสุดคลาสสิคที่จะพาท่านขึ้นไปยังยอดเขาอันเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ ภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ภูเขายอดแหลมรูปร่างแปลกตาที่สูงถึง 4,478 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศ และแมทเทอร์ฮอร์นยังได้ปรากฏในสินค้าและบริการต่างๆ มากมาย อาทิ ขนมช็อกโกแลตสัญชาติสวิสอย่าง Toblerone หรือแม้ประทั่งบริษัทบริษัทสร้างหนังฮอลลีวูดอย่าง Paramount Pictures จึงนับเป็นจุดที่วิวที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หากมีเวลาเหลือ พาท่านลงมาแมทเทอร์ฮอร์นสะท้อนน้ำที่บริเวณทะเลสาบริฟเฟิลเซ อีกหนึ่งในมุมมหาชน

หนึ่งในรถไฟไต่เขาสุดคลาสสิกที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองเซอร์แมท ซึ่งเรารวมค่ารถไฟในทัวร์แล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม พร้อมหัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดที่เดินทางพิชิตยอดเขา

จากนั้น    พาท่านเดินชม ความงามของ เมือง Zermatt เมืองเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยความวิเศษเหนือคณานับ ไม่ว่าจะเป็นถนนย่านใจกลางเมืองอย่าง Bahnhofstrasse ที่รวมร้านค้าต่างๆมากมาย ในอาคารสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร Matterhorn Museum อาคารจัดแสดงใต้ดินที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในเมือง และโบสถ์ Pfarrkirche St. Mauritius จุดศูนย์รวมใจของชาวเมือง

หลังจากชมความงามจนเต็มอิ่มแล้ว เดินทางต่อไปยัง เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม. ) จุดศูนย์กลางของประเทศ ที่รายล้อมไปด้วย 4 ขุนเขา และ 2 ทะเลสาบ พาท่านเดินชม ความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง ที่  ถนน Hoheweg จุดที่ครึกครื่นที่สุดในเมืองอินเทอลาเก้น ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสวิสได้อยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาข้อมือไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Omega, Swatch ช็อคโกแลตสวิสที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เครื่องประดับก็ยังมีให้ท่านเลือกสรรได้ตลอดถนนเลยทีเดียว (ร้านค้าที่นี่ปิดทำการดึก ประมาณ 21.00 – 22.00 น.)

ค่ำ    บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษ!! ให้ได้ท่านลิ้มรสเมนู “สวิสชีสฟองดู” เมนูต้นตำหรับที่ต้องลองชิม เมื่อมาเยือนที่สวิสเซอร์แลนด์ (มื้อที่ 8)

ที่พัก City Hotel Oberland หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น   ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย  5-7  วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่ 5

อินเทอลาเก้น • กรินเดลวัลด์ • พิชิตยอดเขายุงฟราว • เลาเทอร์บรุนเนิน • ลูเซิร์น • รูปปั้นสิงโต • สะพานคาเปล ย่าน Old Town

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 9)

นำท่านสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ) ตั้งอยู่ในเขตอินเทอร์ลาเคิน-โอเบอร์ฮาสลีรัฐแบร์นเมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นในการพิชิตยอดเขายุงฟราว Top Of Europe ตั้งอยู่ที่ความสูง1,034 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลด้วยทัศนียภาพที่เป็นหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบทำให้มีความสวยงามแปลกตาจนเป็นเหมือนหน้าตาของสวิสเซอแลนด์ที่คุ้นเคย

จากนั้น พาท่านนั่งรถไฟไต่เขาสู่ สถานียุงฟราวด์(Jungfraujoch) เป็นอีก 1 ยอดเขา ของเทือกเขาแอลป์ที่ที่คู่ควรแก่การพิชิต และไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคม 1912 ผู้บุกเบิกการสร้างรถไฟสายนี้นั้นคืออดอล์ฟ กอเยอร์-เซลเลอร์(Adolf Guyer-Zeller)โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างประมาณสูงถึง 16 ล้านฟรังค์

Jungfraujoch ถือเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปด้วยความสูง 3,454 เมตรเหนือระดับน้าทะเลซึ่งถือเป็นสุดยอดงานวิศวกรรมของการสร้างรถไฟไต่เขา และการเจาะอุโมงค์ภูเขาในศตวรรษที่ 19 เลยทีเดียว เมื่อถึงแล้ว พาท่านชม อุโมงค์น้ำแข็ง (Ice Palace) ที่เจาะธารน้ำแข็งลึกเขาไปกว่า 30 เมตร มีประติมากรรมน้ำแข็งอยู่อย่างมากมาย และคงอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศา ตลอดทั้งปี และชม อุโมงโลกอัลไพน์ (Alpine Sensaton) ที่จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง และพาท่านขึ้นสู่ Jungfrau Panorama view จุดสูงสุดของสถานี ที่ 3,571 เมตร ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

เที่ยง   พิเศษ บริการอาหารกลางวันบนยุงฟราว ให้ท่านได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการ (มื้อที่ 10)

พาท่านลงสู่อีก 1 เมืองชานเขายุงฟราว เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) เมืองสวยอีกเมืองที่ต้องแวะชม เพราะเป็นที่ตั้งของ น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach) ที่สูงกว่า 300 เมตร ผ่านซอกหน้าผาลงมาแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง และเบื้องล่างเป็นหมู่บ้านน่ารักๆ ตัดกับทิวเขาที่ล้อมโดยรอบ

จากนั้น  มุ่งหน้าสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ พาท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่

และพาท่านชม สะพานไม้คาเปิล (Chapel Bridge) อันเป็นลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 บริเวณใกล้เคียงกันนั้นให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วย ตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้

ค่ำ   อิสระอาหารเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาท่องเที่ยวของท่าน และเพื่ออรรถรสที่ครบถ้วน

ที่พัก  Ibis Styles Lucerne หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น   ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย  5-7  วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่ 6

ลูเซิร์น • ชไตน์ อัม ไรน์ • ชาฟฟ์เฮาเซิน • น้ำตกไรน์ • ซูริค • อิสระช้อปปิ้ง

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 11)

เดินทางสู่ เมืองชไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhein) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ) เมืองทางเหนือติดกับประเทศเยอรมันนี เมืองนี้มักไม่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว แต่นับได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามที่ไม่ควรพลาด ชมความงามของสถาปัตยกรรมของเมืองริมแม่น้ำไรน์ และการตกแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงศิลปะชั้นสูงอย่างเฟสโก้ที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ได้อย่างสวยงามซึ่งโดยปกติแล้วศิลปะเฟสโก้นั้นจะปรากฏอยู่ภายในอาคารเสียมากกว่า เนื่องจากมีขั้นตอนการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ที่เมืองนี้ท่านจะได้เห็นเฟสโก้ที่ประทับอยู่ในผนังด้านนอกของอาคารซึ่งหาชมได้ยากอย่างยิ่ง

จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ ชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ30 นาที) พาท่านชม น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) เมืองที่มีน้ำตกที่กว้างที่สุดของยุโรปโดยมีความกว้างถึง 150 เมตร สูง 23 เมตร มีกระแสน้ำเชี่ยวกราดตลอดทั้งปี โดยปริมาณกระแสน้ำไหลที่เคยวัดได้สูงสุดนั้นถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

จากนั้น  เดินทางกลับเข้าสู่ เมืองซูริก (Zurich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. )

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (มื้อที่ 12)

ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตลอดช่วงบ่ายที่บริเวณ ถนนบาร์นฮอฟ (Bahnhofstrasse) ถนนสายช้อปปิ้งของเมือง อัดแน่นไปด้วยด้วยร้านรวงต่างๆ ให้ท่านได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น CHANEL, PRADA, LOUIS VUITTON, HERMÈS, GUCCI, BURBERRY, LONGCHAMP, MAC, MANGO, DIESEL, SWAROVSKI และอีกมากมาย

ค่ำ    บริการอาหารเย็น ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 13)

ที่พัก Dormero Airport Hotel หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น   ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย  5-7  วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

วันที่ 7

สนามบินนานาชาติซูริค

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 14)

สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค (Flughafen Zürich) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Vat Refund)

13.15 น.  ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG971 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

**หลังวันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป เวลาถึงจะเปลี่ยนเป็น 13.30 น.**

วันที่ 8

สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

06.10 น.   ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยความประทับใจ

**หลังวันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป เวลาถึงจะเปลี่ยนเป็น 05.30 น.**

หมายเหตุ:  โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ และเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า โดยทางบริษัทฯจะคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการรวม

  • ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด Economy Class ไป-กลับพร้อมกรุ๊ป (BKK-ZRH-BKK) สายการบินไทย Thai Airways (TG) 
  • ภาษีน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่ง
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ ทั้งนี้หากสายการบินมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงในเรื่องของน้าหนักกระเป๋าการสะสมไมล์หรืออื่นใดที่เป็นประกาศจากสายบิน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยึดตามการเปลี่ยนแปลงตามประกาศนั้นๆ
  • ค่าที่พักโรงแรมตลอดการเดินทาง ระดับมาตรฐาน (พักห้องละ 2 ท่าน)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ, น้ำดื่มบริการบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวคนไทย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ หัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน สูงสุด 1,500,000 บาท/ เงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์ เงื่อนไขประกันการเดินทาง  ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมและค่าบริการวิซ่าเชงเก้น (สวิสเซอร์แลนด์) 4,000 บาท ชำระพร้อมค่ามัดจำ
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 30 กิโลกรัมต่อท่าน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์, ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปคนขับวันละ 2 CHF รวมทั้งทริป  6 วัน  12 CHF / ท่าน
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามระเบียบธรรมเนียมวันละ 3 CHF รวมทั้งทริป  8 วัน 24 CHF / ท่าน

ราคา

THB 10,000,000

29 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more