เที่ยวเมืองสุราษฎร์ธานี ชมกุ้ยหลินเมืองไทย สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์ 3 วัน 1 คืน

เที่ยวเมืองสุราษฎร์ธานี ชมกุ้ยหลินเมืองไทย สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์ 3 วัน 1 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี

20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก ออกเดินทางด้วย รถโค้ชปรับอากาศ VIP มุ่งหน้าสู่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (30 ท่านขึ้นไป คอนเฟิร์มเดินทาง) 

20.30 น. ออกเดินทางสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ10-11ชั่วโมง) อิสระให้ทุกท่านพักผ่อนบนรถตามอัธยาศัย 

วันที่ 2

เขาสก-กุ้ยหลินเมืองไทย-เขื่อนรัชชประภา-สะพานเเขวนเขาเทพพิทักษ์-ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี-ชุมชนท่องเที่ยวบ้านปากกะแดะ

07.00 น.  ถึง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เมืองหอยใหญ่  รับประทานอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร 

09.00 น.  นาท่านเดินทางสู่ เขาสก รับฟัง Brief ก่อนเดินทางลงเรือ ระหว่างทางธรรมชาติทะเลสาบเชี่ยวหลานแวะเก็บภาพที่ระลึกกับเขาสามเกลอ ชมกุ้ยหลินเมืองไทย ชมปลา วังปลาแพนางไพร จากนั้นนาท่านแวะถ่ายรูปเก็บภาพบรรยายกาศ เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสกเกือบทั้งหมด เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว เขื่อนรัชชประภา เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้าที่สาคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้า และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศชาติ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ในปี พ.ศ. 2531

นำท่านเดินทางสู่ สะพานเเขวนเขาเทพพิทักษ์ ตั้งอยู่หลังวัดเขาพัง เป็นสะพานแขวนด้วยสลิงขนาดไม่ใหญ่มากพาดผ่านแม่น้าสายเล็กๆ ไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่นี่คือสามารถมองเห็นภูเขารูปหัวใจหรือภูเขาเทพพิทักษ์ได้จากบนสะพานนี้และถือว่าเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยงาม ซึ่งธรรมชาติรอบๆทั้งภูเขา ต้นไม้ที่ยังคงเขียวขจีและมีความอุดมสมบูรณ์มากๆ 

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร 

บ่าย นาท่านเดินทางสู่ ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีลักษณะรูปแบบ ทางสถาปัตยกรรมไทย สร้างด้วยคอนกรีตตามแบบศิลปะศรีวิชัย โดยนาเค้าโครงของเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางศิลปกรรมมาเป็นแม่แบบขององค์ศาลหลักเมือง มีบันไดทางขึ้น ๔ ด้าน มีซุ้มประตูเข้า-ออก ๔ ด้าน และได้ อัญเชิญเครื่องหมายตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ประดับไว้ทั้ง ๔ ด้าน ภายในมณฑปประดิษฐานเสาหลักเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นเสากลมโต แกะสลักจากต้นราชพฤกษ์ ซึ่งถือว่าเป็นไม้ มงคลขนาดใหญ่ที่พบในป่าสุราษฎร์ธานี มีอายุถึง ๑๓๙ ปี ลงรักปิดทอง โดยแกะสลักตามแบบศิลปะศรีวิชัย ยอดบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนยอดเสาหลักเมืองเป็นพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า หันพระพักตร์ไปทั้งสี่ทิศเหมือนการแกะสลักพระพรหมสี่หน้าไว้ตามยอดเสาหลักเมืองอื่นๆ และมวยพระเกศาสลักเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พร้อมกับลงรักปิดทองอย่างวิจิตรสวยงาม จากนั้นนาท่านไปยัง ชุมชนท่องเที่ยวบ้านปากกะแดะ อยู่ในอาเภอดอนสัก เป็นแหล่งขายอาหาร ทะเลทั้งสดและแห้ง และยังเป็นชุมชนเลี้ยงหอยนางรมอีกด้วย ถือว่าเป็นแหล่งสาคัญทางอาหารทะเล 

เย็น  อิสระรับประทานอาหารเย็น ณ ตลาดศาลเจ้า 

พักที่ ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี หรือเทียบเท่า (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทาการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่ 3

วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร-ร้านขายของฝากไข่เค็มไชยา- กรุงเทพฯ

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พัก 

09.00 น. นาท่านเดินทางไปยัง วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ซึ่งปูชนียสถานที่สาคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความ เป็นเอกลักษณ์ของช่าง ศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยไว้ได้สมบูรณ์ ซึ่งรัฐบาลให้ความสาคัญแก่วัดประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสาคัญ ของชาติและยกฐานะวัดเป็น พระอารามหลวง และเป็นหนึ่งในสามของ โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ เจดีย์พระบรมธาตุนี้เป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจาจังหวัด และเป็นสัญลักษณ์ในธง ประจากอง และผ้าพันคอลูกเสือด้วย ซึ่งถือกันว่าถ้าใครไปเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี หากไม่ได้ไปนมัสการพระบรมธาตุไชยาแล้ว ก็เหมือนกับยังไปไม่ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

จากนั้นนาท่านแวะซื้อของ ไข่เค็มไชยา เป็นของฝากขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของอาเภอไชยาเนื่องจากใช้ไข่เป็ดธรรมชาติมาทาด้วยเทคนิคที่แตกต่างจากไข่เค็มถิ่นอื่น จึงเป็นไข่เค็มที่ไข่แดงสีแดงจัด มีรสชาติกลมกล่อมไม่เค็มจัด และอร่อยติดปากผู้ที่ได้ลองลิ้มชิมรสมาเป็นเวลายาวนาน 

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน แบบ Set Box 

15.00 น. นาท่านเดินทางกลับ กรุงเทพฯ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ10-11ชั่วโมง) 

                                               ☺☺☺☺☺☺☺☺☺☺ 

รายการทัวร์สามารถสลับ-ปรับเปลี่ยน หรืองดไปบางรายการได้ตามความเหมาะสม โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า อันเนื่องมาจากสภาพอากาศ เหตุการณ์ทางธรรมชาติ เหตุการทางการเมือง สภาพการจราจร ทั้งนี้จะคานึงถึงความปลอดภัย ความเป็นไปได้ และผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสาคัญ ทางผู้เดินทางจะไม่ฟ้องร้องใด อันเนื่องมาจากได้รับทราบเงื่อนไขก่อนการเดินทางแล้ว 

ราคาทัวร์ ไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และค่าทิปไกด์นาเที่ยว (ชาระทุกท่าน ยกเว้น ทารกอายุไม่เกิน 2 ปี ยกเว้นให้) ท่านละ 300 บาท/ทริป/ท่าน 

อัตราค่าบริการร่วม

  • ค่ารถปรับอากาศนาเที่ยว และรับ-ส่ง ตามรายการที่ระบุ 
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ 
  • ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุตามกรมธรรม์วงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล ตามเงื่อนไขของบริษัทฯประกันภัยที่บริษัททาไว้ (ไม่ครอบคลุมถึงสุขภาพ การเจ็บไข้ได้ป่วย) ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจากัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต ทุกกรณี ต้องมีใบเสร็จและเอกสารรับรองทางการแพทย์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ 
  • สาหรับชาวต่างชาติ ต้องชาระเพิ่ม 500 บาท 
  • กรณีที่มีเด็กอายุ 0-2 ปี ชาระค่าทัวร์ 50% จากราคาทัวร์ปกติของผู้ใหญ่ 
  • ค่าทิปคนขับรถ แล้วแต่สินน้าใจของท่าน 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% 

 

ราคา

THB 10,000,000

24 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more