อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน

อิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ

18.00น.  คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4ประตู 9แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

21.25น.  ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่ 2

ดูไบ-มิลาน-แองเกิลเบิร์ก-ยอดเขาทิตลิส

00.50 น.  เดินทางถึงเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

03.35น.   ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK101 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

08.15น.   เดินทางถึง เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก ของสมาพันธรัฐสวิสระหว่างชมทิวทัศน์สองข้างทางและสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติแห่งสวิสเซอร์แลนด์ เมืองแองเกิลเบิร์ก เป็นอีกหนึ่งเมืองรีสอร์ทชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ๆกับ"ภูเขาทิตลิส" (Mount Titlis) ภูเขาที่มียอดสูงจากระดับน้ำทะเลหนึ่งกว่า 10,000 ฟุต หรือ 3,020 เมตร ปัจจุบันเมืองแองเกิลเบิร์กได้กลายเป็นอีกหนึ่งอัลไพน์รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้แล้วเมืองยังเป็นเสมือนแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ทั้งในช่วงฤดูร้อนทั้งสองและฤดู​​หนาว โดยเมืองใหญ่ๆที่อยู่ใกล้เมืองนี้คือเมืองลูเซิร์นและเมืองซูริค สำหรับบรรยากาศภายในเมืองนั้นค่อนข้างเงียบสงบ โดยในช่วงฤดู​​ร้อนจะมีกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญๆได้แก่ การเดินทางไกล, ขี่ม้า และขี่จักรยานภูเขา ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะเป็นการเล่นสกี การลากเลื่อนหิมะ และอื่นๆ

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านสู่ยอดเขาทิตลิส (TITLIS) แหล่งเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ภาคกลาง ที่หิมะคลุมตลอดทั้งปีสูงถึง 10,000 ฟิต หรือ 3,020 เมตร บนยอดเขาแห่งนี้หิมะจะไม่ละลายตลอดทั้งปี นั่งกระเช้ายักษ์ที่หมุนได้รอบทิศเครื่องแรกของโลกที่ชื่อว่า REVOLVING ROTAIRจนถึงสถานีบนยอดเขาทิตลิสหลังจากนั้นให้ท่านได้สนุกกับกิจกรรมบนยอดเขาแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการ ชมถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นถ้ำที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ภายในเป็นผนังน้ำแข็งพร้อมมีคำอธิยายเป็นจุด ๆ หรือสามารถเดินไปยัง TITLIS CLIFF WALKสะพานแขวนบนยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปรวมถึงการเลือกซื้อสินค้าที่ ร้านขายของที่ระลึกและ ลานหิมะซึ่งเป็นชั้นบนสุดซึ่งจะเป็นชั้นที่ท่าสามารถเดินย่ำหิมะออกไปยังลานกว้างซึ่งเป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับลงจากยอดเขาสู่เมืองแองเกิลเบิร์ก

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Terrace  Hotel หรือระดับเดียวกัน

 

วันที่ 3

ลูเซิร์น-สะพานไม้ชาเปล-รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน-เมืองเซนต์กัลเลน

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น  อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม  นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด นำท่านชมรูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จากนั้นเดินทางสู่เมืองเซนต์กัลเลน (St. Gallen)เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นศูนย์กลางวงการแฟชั่นเสื้อผ้าของสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านชมเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนสมัยเก่าเป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อค เป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อคจากนั้นนำท่านถ่ายรูปมหาวิหารเซนต์กัลเลน และ ห้องสมุดแอบบีย์ห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และเป็นห้องสมุดทางศาสนาคริสต์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากนั้นให้ท่านได้เดินเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมายบนถนน Spisergasseเป็นอีกหนึ่งถนนที่มีอาคาร บ้านเรือนสไตล์บาร็อคสวยงามตลอดเส้นทาง

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Radisson Blu Hotel St. Gallen หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 4

เมืองคูร์-เซนต์มอริตส์- BERNINA EXPRESS-ทิราโน่-โคโม่

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูร์ (Chur) เมืองเก่าริมแม่น้ำไรน์ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี ถือเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตฯ ถึงจะเป็นเมืองเก่าแก่แต่ก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีเสน่ห์ในสไตล์เมืองเก่า ทุกอย่างภายในเมืองไม่ว่าจะเป็นลักษณะอาคาร ลวดลายต่างๆในเมือง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์มอริตส์ (St. Moritz) เป็นเมืองรีสอร์ทหรูในหุบเขาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1775 ม. เหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุด ที่ระดับ 4049 ม. อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้เพียงไม่กี่กิโลเมตร เซนต์มอริตส์ แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนเขา และส่วนที่ราบโดยมีทะเลสาบขั้นอยู่ตรงกลาง

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถไฟ BERNINA EXPRESS หนึ่งในเส้นทางของรถไฟ Glacier Express ซึ่งเป็นรถไฟ Panoramic Train ที่ช้าที่สุดเพื่อให้ท่านสัมผัสบรรยากาศเส้นทางรถไฟที่เก่าแก่และสวยงาม เป็นเส้นทางมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของ Switzerland ท่านได้ชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ โดยรถไฟนั้นจะเดินทางข้ามผ่านเทือกเขาแอลป์บนความสูงกว่า 2000 เมตรจากกระดับน้ำทะเล และยังเป็นเส้นทางสายมรดกโลกทางธรรมชาติที่องค์การ UNESCO ให้การยอมรับ โดยจุดหมายปลายทางของรถไฟจะอยู่ที่ เมืองทิราโน่ เมืองเล็กๆ ที่อยู่ในแคว้นเวทตินทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีและเป็นเมืองชายแดนระหว่างประเทศอิตาลีกับสวิตเซอร์แลนด์

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองโคโม เป็นเมืองในแคว้นลอมบาร์เดีย ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโมเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม โคโมเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย โดยในปี 2013 โกโมมีจำนวนผู้มาพำนักค้างคืนถึง 215,000 คน ถือเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของแคว้นลอมบาร์เดียรองจากมิลาน, แบร์กาโม และเบรชชา

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Just Hotel Lomazzo Fieraหรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

โคโม่-ทะเลสาบโคโม่-มิลาน-มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่นบริเวณทะเลสาบโคโม (Lago di Como) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโคโม ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางเหนือของประเทศอิตาลี บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบโคโมล้อมรอบด้วยภูเขาสูงที่ยังมีป่าไม้เขียวชะอุ่ม หลายจุดบนชายฝั่งเป็นช่องเขาแคบและหน้าผาที่สวยงาม ทางเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ยาวเหยียดสุดสายตาเป็นกำแพงธรรมชาติที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนบริเวณนี้ เทือกเขาแอลป์นั้นมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปี จึงทำให้สามารถเล่นสกีหิมะได้ตลอดเวลา นี่คือจุดดึงดูงให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาท่องเที่ยวพักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสายหลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน(MILAN) เมืองสำคัญทาง ภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (DUOMO)ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัยและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Klima Hotel Milano Fiereหรือระดับเดียวกัน

วันที่ 6

มิลาน-เจนัว-McArthurGlen Outlet-สนามบิน-ดูไบ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว เมืองใหญ่สุดของ อิตาลีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ อาจเป็นจุดแรกที่จุดประกายความหวังและจิตนาการของโคลัมบัสที่จะก้าวผ่านผืนน้ำกว้างใหญ่ไปยังโลกที่เขาใฝ่ฝัน นำท่านถ่ายรูปบริเวณอ่าวเจนัว อันเป็นท่าเทียบเรือสาราญ เรือยอชท์หรู เรือใบสีขาวละลานตา และยังคงมีเรือโบราณจาลองขนาดยักษ์ ดูปืนไฟ สลักเสลาด้วยรูปปั้นอันวิจิตรคล้ายย้ำเตือนให้ระลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชาวเมืองเจนัวคน

นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า มหาวิหารซานลอเรนโซ หรือ ดูโอโม่ที่สร้างขึ้นในแบบโรมันเนสค์และโกธิค ในสมัยศตวรรษที่ 12-14 และน้ำพุ กลางเมือง นำท่านเยี่ยมชม เปียซซ่า เฟร์ รารี่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นบริเวณที่โคลัมบัสเคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งตอนเด็กๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัยจากนั้นนำท่านเดินทางสู่Serravalle Designer Outletเป็นสถานที่ที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมืองและจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein ,Diesel,Camper,Furla, Moschino, Bulgari, Bose, และอื่นๆ โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดทั้งปีอิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน

22.00 น.    ออกเดินทางสู่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK092(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่ 7

ดูไบ-กรุงเทพฯ

06.25 น.   เดินทางถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น.   ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK 372(บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

19.15 น.   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

อัตรานี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด (ECONOMY CLASS)โดยสายการบินเอมิเรตส์ (เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ)
  • ค่าที่พัก 3-4 ดาว (ห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ (ขอสงวนสิทธิ์ในการย้ายเมืองเข้าพัก ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าพักที่เมืองนั้นๆได้ เช่น ติดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า งานประชุม เหตุสุดวิสัยต่างๆ ฯลฯ)
  • ค่ารถปรับอากาศ และบริการนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยในการเดินทาง 2,000,000/500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง(ไม่รวมค่าทิป)

อัตรานี้ไม่รวม

  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ
  • ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก พนักงานยกกระเป๋า
  • ค่าธรรมเนียมและค่าบริการในการขอยื่นวีซ่ากลุ่มเชงเก้น 3,500 / ท่าน ทางสถานทูตจะไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมทุกกรณี
  • ค่าทิปคนขับรถท้องถิ่น  (2 ยูโรx 5วัน = 10ยูโร)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย วันละ 100 x 7 วัน = 700บาท

ราคา

THB 10,000,000

27 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more