มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน

มหัศจรรย์...ดูไบ 5 วัน 3 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพ • สุวรรณภูมิ • สนามบินนานาชาติดูไบ • พิพิธภัณฑ์ดูไบ • นั่งเรือAbra • ตลาดเครื่องเทศและตลาดทอง

06.30 น.   พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชั้น 4 ประตู 8 Row T เคาท์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ Emirate Airline (EK)โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

09.55 น.   ออกเดินทางสู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นครดูไบ โดยเที่ยวบิน EK 375  บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง 10 นาที+)

13.00 น.   ถึงสนามบิน ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศหนึ่งในตะวันออกกลางตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ริมอ่าวเปอร์เซียประกอบด้วยรัฐเจ้าผู้ครองนคร 7 รัฐได้แก่อาบูดาบีอัจมานดูไบฟูไจราห์ราสอัลไคมาห์ชาร์จาห์และอุมม์อัลไกไวน์ นำท่านเดินทางสู่ นครดูไบ เป็นนครใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เมืองดูไบถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก และมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองสูงมาก

จากนั้น ชม พิพิธภัณฑ์ดูไบ(Dubai Museum) ที่อยู่ในป้องปราการเก่าแก่อัลฟาฮิดิ(Al Fahidi Fort)ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักดูไบอย่างลึกซึ้ง ท่านจะได้รู้ถึงบทสรุปของดูไบแบบย่อประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาให้ชมแล้วเชื่อหรือไม่ว่าดูไบมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทุกๆ 10 ปี

จากนั้น  นั่งเรือAbraข้ามฟากที่Dubai Creek คือเวิ้งน้ำทะเลธรรมชาติจากอ่าวเปอร์เซียที่แบ่งเมืองออกเป็นสองส่วน ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือคือ Deira Dubai และทางด้านตะวันตกเฉียงใต้คือ Bur Dubai ทางน้ำแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของดูไบ โดยเริ่มแรกคือช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่การค้ากับอินเดียและ แอฟริกา และเป็นท่าเรือที่ปลอดภัยสำหรับเรือค้าขายตลาดเครื่องเทศและตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก(Spice Souk and Gold Souk)หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวดูไบที่ต้องไปสำรวจ ตลาดที่นี่เขาเรียกกันว่าซุค (Souk) ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือในอดีตเป็นที่ขนถ่ายสินค้าที่รวบรวมเครื่องเทศนานาชนิด ที่นำเข้ามาจากนานาประเทศ และทองคำที่ตั้งอยู่สองข้างทางนั้นสุกอร่ามละลานตามาก หากคุณเป็นคนนิยมเครื่องเพชรทองสไตล์อาหรับ รับรองว่าเดินตลาดทองดูไบที่นี่ไม่มีผิดหวังชัวร์

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก โรงแรม ALOFT DCC HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 2

พระราชวังชีค • สุเหร่าจูไมร่าห์ • ชายหาดจูเมราห์ • บุรจญ์อัลอาหรับ • โรงงานผลิตเสื้อหนัง • ขึ้นรถไฟMonorail • หมู่เกาะต้นปาล์ม • แอตแลนทิสเดอะปาล์ม • นั่งรถตะลุยทะเลยทราย

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าโรงแรม

จากนั้น  แวะถ่ายรูปกับ พระราชวังชีค(Shiekh Palace)พระราชวังสุดอลังการของท่านชีคแห่งนครดูไบตกแต่งด้วยสิ่งของล้ำค่า ประดับสวนปลูกต้นไม้อย่างร่มรื่นถ่ายรูปกับสุเหร่าจูไมร่าห์(Jumeirah Mosqe)สถานที่แสดงความศรัทธาและศึกษาศาสนาอิสลามสุเหร่าหินอ่อนสีขาวนวลสะอาดตามีงานสถาปัตยกรรมที่ทั้งสวยงามและทันสมัยและได้รับการกล่าวขานว่าเป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุดของเมืองเลยก็ว่าได้

เดินทางสู่ ชายหาดจูเมราห์(Jumeirah Beach)ถ่ายรูปกับตึก บุรจญ์อัลอาหรับ(Burj al-Arab)เป็นโรงแรมที่หรูหราในนครรัฐดูไบเรียกได้ว่าเป็นโรแรมระดับ 7 ดาว สุดหรู มีความสูง 321 เมตรหรือ 1,050 ฟุตและเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดอันดับที่ 4 ของโลกและมีความสูงเป็นอันดับที่ 57 ของโลกตึกบุรจญ์อัลอาหรับตั้งอยู่บนเกาะเทียมที่ถูกถมขึ้นห่างจากชายฝั่งจูไมราบีช 280 เมตรและเชื่อมต่อด้วยสะพานที่มีลักษณะโค้งตึกบุรจญ์อัลอาหรับมีลักษณะโครงสร้างการออกแบบเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดูไบและตัวอาคารเลียนแบบมาจากใบของเรือใบ

หลังอาหาร  นำท่านชมโรงงานผลิตเสื้อหนัง ที่มีคุณภาพและชื่อเสียงของตุรกี เสื้อแจ็กเก็ตและหนัง มีคุณภาพดี แบบทันสมัย มีน้ำหนักเบา ฟอกหนังดี นุ่มบางเบา สวมใส่สบายขึ้น ราคาถูกกว่าในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาครึ่งต่อครึ่ง เพราะตุรกีเป็นผู้ผลิตและส่งออกไปขายทั่วโลก

จากนั้น  ขึ้นรถไฟMonorail จากปลายต้นปาล์มถึงยอดของต้นปาล์มสู่ หมู่เกาะต้นปาล์มเป็นโครงการก่อสร้างเกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซียในดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยแต่ละเกาะจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนต้นปาล์มและล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลมโดยพื้นที่จะมีการจัดเป็นที่อยู่อาศัยและรีสอร์ทการพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศแวะชมโรงแรม แอตแลนทิสเดอะปาล์ม(Atlantis The Palm)คือนิยามใหม่ของรีสอร์ทที่เป็นจุดหมายปลายทาง ด้วยสถานที่ตั้งบนเกาะปาล์มที่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ที่พักแห่งนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของดูไบอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในจุดสังเกตที่ ‘ต้องชม’ ของเมือง

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยเตรียมตัวแต่งกายไปทะเลทราย

จากนั้น  นำท่านตะลุยทะเลทรายด้วยรถ4WDขับเคลื่อน 4 ล้อ 1 คัน/6 ท่านโดยรับท่านจากโรงแรมสู่ทะเลทรายอาหรับ(Arabian Desert)แห่งนี้เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ4 (รองจาก1. Antarctic Desert / 2.Arctic Desert / 3. Sahara Desert) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของหลายประเทศในกลุ่มคาบสมุทรอาหรับเช่นจอร์แดนอิรักคูเวตกาตาร์โอมานเยเมนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ2,300,000 ตารางกิโลเมตรซึ่งถ้าเทียบกับประเทศไทยที่มีพื้นที่ประมาณ500,000 ตารางกิโลเมตรสนุกสนานกับการนั่งรถตะลุยทะเลทราย SAND DUNE พร้อมชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม  ท่านจะได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับประสบการณ์อันแปลกใหม่ นั่งรถตะลุยไปบนเนินทรายทั้งสูงและต่ำสลับกันไป (Sand Dune) นำท่านเดินทางไปทัวร์ทะเลทราย(Dune Safari & BBQ Dinner)

บริการอาหารเย็น ณ แคมป์กลางทะเลทราย กับเมนูบาร์บีคิว (ไก่,เนื้อแกะ,เนื้อวัว) ให้ท่านได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศ ที่แสน
โรแมนติกในแบบฉบับของชาวพื้นเมือง พร้อมชมการแสดงโชว์ต่างๆอาทิเช่น ระบำหน้าท้อง Belly Dance ฟรี!!!Henna Tattooการเพ้นท์ลวดลายแบบฉบับชาวอาหรับ /ทดลองเครื่องสูบบารากู่พื้นเมืองของชาวอาหรับ  ชิมชา กาแฟ สไตล์อาหรับ ผลไม้ตามฤดูกาล /กิจกรรมขี่อูฐ

22.00 น.  นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ที่พัก โรงแรม ALOFT DCC HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 3

อาบูดาบี • ถ่ายรูปกับรถ Ferrari • Grand Mosque • Heritage Village • ถ่ายรูปพาโนรามาวิว 360 องศา • เอทิฮัดทาวเวอร์ โรงแรม • เอมิเรตส์ พาเลซ • LAST EXIT

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าโรงแรม

เดินทางสู่ อาบูดาบี(Abu Dhabi)จากดูไบใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาบูดาบีตั้งอยู่บนเกาะรูปตัวทีที่ยื่นเข้าไปในอ่าวเปอร์เซียเมืองครอบคลุมพื้นที่ 67,340 ตารางกิโลเมตร (26,000 ตารางไมล์)และมีประชากรราว 860,000คนในปีค.ศ. 2007 อาบูดาบีถือเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดอันดับ 3 ในภูมิภาคและอันดับ 26 ของโลก

นำท่านชม มัสยิดSHEIKH ZAYED BIN SULTAN AL NAHYAN GRAND MOSQUEมัสยิดที่สวยที่สุดในโลกเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทุกคน ทันทีที่เดินเข้าสู่มัสยิดชิคชาเญด สิ่งที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นสีขาวสะอาดตาของมัสยิดแห่งนี้ มัสยิดชิคชาเญด ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 10 ปี โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1996 และเสร็จในปี 2007 โดยระดมช่างฝีมือมากกว่า 3,000 คนจากทั่วโลกมาร่วมสรรสร้างสถาปัตยกรรมอันงดงามแห่งนี้ วัสดุที่ใช้ในการสร้างมีตั้งแต่หินอ่อน เซรามิก คริสตัล และทองคำถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความทันสมัยให้เข้ากับวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามได้อย่างลงตัว ความสำคัญของมัสยิดแห่งนี้นอกจากจะเป็นที่รองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ถึง 40,000 คนแล้ว ยังเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 25 ของโลกด้วยไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาด คือ การเข้าชม โคมไฟแชนเดอร์เลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำจากทองคำและทองแดง นำเข้าจากประเทศเยอรมนีและ พรมผืนใหญ่ที่สุดในโลก ที่ทอเป็นผืนเดียวไม่มีรอยต่อ ขนาด 5,627 ตารางเมตรนอกจากเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวและประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว มัสยิดชิคชาเญด ยังเป็นสุสานฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyanอดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผู้สร้างมัสยิดแห่งนี้ไว้ก่อนจะสวรรคตด้วย

***การแต่งกาย*** สำคัญมากและกรุณาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ผู้ชาย : ต้องแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ใส่กางเกงขายาว เสื้อแขนยาว
ผู้หญิง : ห้ามใส่เสื้อผ้ารัดรูป เสื้อและกางเกงห้ามแนบเนื้อเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และต้องเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะด้วย

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ถ่ายรูปกับรถ Ferrari ณ บริเวณด้านหน้า เฟอร์รารี่เวิลด์Ferrari World theme park (ไม่รวมค่าเข้าชมประมาณ 70USD/ท่าน) เป็นสวนสนุกในร่มแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในโลกออกแบบมาได้อย่างโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์เฟอร์รารี่ขนาดใหญ่บนหลังคาสีแดงสดส่วนโค้งเว้าของหลังคาได้แรงบันดาลใจจากFerrari GT body มีขนาดครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด200,000 ตารางเมตรมีพื้นที่ในร่มให้ผู้เข้าชมได้86,000 ตารางเมตรขนาดใหญ่พอๆกับ7 สนามฟุตบอลเลยทีเดียวจุดประสงค์ที่สร้างขึ้นก็เพื่อระลึกถึงผู้ผลิตรถยนต์เฟอร์รารี่ขวัญใจคนทั่วโลก

เดินทางสู่  Heritage Village (Heritage Village) จัดแสดงวิถีชีวิตอาหรับของUAE ถูกทำซ้ำในสมัยโบราณนี่เป็นรูปแบบดั้งเดิมของการฟื้นฟูบูรณะอดีตอาหรับสำหรับประเทศอาหรับที่นี่แสดงให้เห็นชีวิตในสมัยโบราณไม่เพียงแต่ของเอมิเรตของอาบูดาบีแต่ของเขตภูมิอากาศทั้งหมดของประเทศที่นี่ในบางพื้นที่คุณสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของชาวโอเอซิสชายฝั่งทะเลผู้สร้างมรดกหมู่บ้านแห่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตแบบเก่าแก่ของทั้งประเทศไม่ใช่แค่ภูมิภาคเดียวเท่านั้นแวะถ่ายรูปกับตึก

*** นำท่านถ่ายรูปสุดชิควิววพาโนรามา 360 องศา  จุดเช็คอินยอดนิยมและจุดที่ถือว่าเป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองอาบูดาบี ***

จากนั้น   ถ่ายรูปกับตึก เอทิฮัดทาวเวอร์(Etihad Tower) คือกลุ่มอาคารที่ใช้ในการถ่ายทำฉาก‘จัมป์รถ’ ข้ามตึกของโดมินิกทอเรตโต (รับบทโดยวินดีเซล) ในหนังเรื่องFurious 7ที่ผสมผสานทั้งความสวยงามยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมเข้ากับวีรกรรมสุดห่ามที่ไม่มีมนุษย์ปกติคนใครนึกอยากทำเป็นต้นแบบของความหรูหราและงดงามท่ามกลางบรรดาตึกระฟ้าในอาบูดาบีตัวอาคารสำนักงานสร้างจากหินอ่อนและประกอบไปด้วยการตกแต่งรายละเอียดอย่างใส่ใจและระบบไฟที่ทันสมัยทั่วทั้งอาคารตั้งแต่ทางเข้าอาคารผู้ที่แวะเวียนมาที่เอทิฮัดทาวเวอร์จะต้องประทับใจกับบรรยากาศและสภาพแวดล้อมชั้นหนึ่งที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและความสวยงามทันสมัย

ถ่ายรูปกับ โรงแรม เอมิเรตส์ พาเลซ (Emirates Palace) ในกรุงอาบูดาบี (Abu Dhabi) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยโรงแรมที่เปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ.2005 (พ.ศ.2548) แห่งนี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 96,000 ล้านบาท จากการใช้ เงิน ทอง และหินอ่อน เป็นวัสดุในการก่อสร้าง ประติมากรรมหรือสถาปัตยกรรม สไตล์อาหรับ นอกจากนั้นโรงแรมแห่งนี้ยังติดตั้งโคมไฟระย้าที่ทำขึ้นมาจากแก้วคริสตัลของ "สวารอฟสกี้" เป็นจำนวนถึง 1,002 ชิ้น ตัวโรงแรมนั้นตั่งอยู่ ที่ริมชายหาด ยาวประมาณ 1.3 กิโลเมตร และตัวตึกโรงแรมเอง มีความกว้างประมาณ 850,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ นามว่า John Elliot

จากนั้น  เดินทางกลับดูไบใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ระหว่างทางแวะ “LAST EXIT” จุดเช็คอินที่ใหม่ของดูไบ ให้ท่านให้แวะถ่ายรูปและซื้อสิ้นค้าต่างต่างมากมาย

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก  โรงแรม ALOFT DCC HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ 4

นั่งรถลิมูซีนLimousine car ชมเมืองดูไบ • ดูไบ เฟรม • ชั้นที่ 124 ของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ • ดูไบมอลล์ • น้ำพุแห่งดูไบ

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าโรงแรม

ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์สุดExclusiveนำท่านนั่งรถลิมูซีนLimousine carชมเมืองดูไบ ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่หรูหราเป็นรถสำหรับขับในเมืองอันดีเลิศและภูมิฐานหากคุณต้องการเดินทางแบบมีสไตล์และหรูหราอย่างแท้จริงนี่คือสิ่งที่สามารถตอบโจทย์คุณได้

เดินทางสู่ ‘ดูไบ เฟรม’คือสถาปัตยกรรมหน้าตาคล้าย ‘กรอบรูป’ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำท่านถ่ายรูปหน้าตึก (ไม่รวมค่าขึ้นตึก) ผ่านกระบวนการก่อสร้างมาถึง 10 ปีเต็ม ด้วยเม็ดเงินกว่า 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.39 พันล้านบาท คอนเซปต์ง่ายๆ ของ ‘ดูไบ เฟรม’ คือการแสดงภาพให้ผู้เข้าชมได้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของดูไบ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพราะที่ตั้งของดูไบ เฟรม นั้นตั้งอยู่บริเวณเขตแบ่งระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่อย่างพอดิบพอดี

จากนั้น สุดพิเศษ!!นำท่านเดินทางสู่ชั้นที่ 124 ของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ BurjKhalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลก(รวมค่าบัตรขึ้นตึกชั้นที่ 124)หรือเดิมชื่อบุรจญ์ดูไบBurj Dubai ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่2ธันวาคมพ.ศ. 2552และเปิดให้ใช้ได้อย่างเป็นทางการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาขนาดยักษ์มีที่ตั้งณ "ชุมทางเชื่อมต่างระดับที่1" ของถนนชิคซาเยดและถนนโดฮาเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกโดยมีความสูงประมาณ828เมตรและเมื่อวันที่22กรกฎาคมพ.ศ.2550ตัวตึกได้ทำสถิติกลายมาเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง546เมตรแซงตึกไทเป101เรียบร้อย (สูงกว่าตึกไทเป101ประมาณ97เมตรและสูงกว่าอาคารใบหยก2 218เมตร)

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่ ดูไบมอลล์(Dubai Mall) ห้างสรพพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ด้านล่างของ BurjKhalifaณ ใจกลางของตัวเมืองดูไบคือศูนย์การค้าขนาดใหญ่มหึมาซึ่งเป็นที่รวมของร้านค้ามากกว่า1,200 ร้านร้านอาหารและร้านกาแฟมากกว่า200 แห่งและตลาดขายทองในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกสิ่งที่น่าสนใจด้านสันทนาการประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ไม่รวมค่าเข้าชม)ลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดกีฬาโอลิมปิกสวนสนุกในร่มและโรงภาพยนตร์22 จอสถานที่อันดึงดูดใจเหล่านี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่มากกว่า5.9 ล้านตารางฟุต (550,000 ตารางเมตร) บนอาคารสี่ชั้น

นำท่านชม  น้ำพุแห่งดูไบ(Dubai Fountain) หรือ น้ำพุเต้นระบำ ตั้งอยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา ทะเลสาบที่เป็นศูนย์กลางของเมืองดูไบ ถูกรายล้อมไปด้วยตึกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ดูไบมอลล์เบิร์จคาลิฟา หรือ หอคอยคาลิฟา เดิมชื่อ เบิร์จดูไบ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาขนาดยักษ์ มีที่ตั้ง ณ “ชุมทางเชื่อมต่างระดับที่ 1” ของถนนชิค ซาเยด และถนนโดฮา นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมชื่อดังอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากน้ำพุแห่ง ดูไบ นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่ง ของโครงการพัฒนาขนาดยักษ์ของ ดูไบ โดยน้ำพุนั้น มีความยาว 900 ฟุต หรือ 275 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 2 สนาม สามารถพ่นน้ำได้ครั้งละ 22,000 แกลลอน (83,000 ลิตร) และความสูงของการพ่นน้ำในแต่ละครั้งนั้นสูง ประมาณ 240 ฟุต หรือเทียบเท่ากับตึกสูงประมาณ 50 ชั้นสิ่งพิเศษของน้ำพุแห่ง ดูไบ จะใช้ไฟทั้งสิ้น 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะแสดงประกอบดนตรีครั้งละ ประมาณ 5 นาที โดยน้ำพุแห่ง ดูไบ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 7.2 พันล้านบาท

ค่ำ   อิสระอาหารค่ำ ที่ ดูไบมอลล์

สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ สนามบินดูไบ

22.35 น.   ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ  โดยสายการบินเอมิเรตส์Emirate Airline (EK) เที่ยวบินที่  EK374

วันที่ 5

กรุงเทพ ฯ

07.35 น.   เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

                       **********************************
อัตราค่าบริการรวม

  • ตั๋วเครื่องบินไป -กลับพร้อมกรุ๊ป กรุงเทพฯ-ดูไบ-กรุงเทพฯ สายการบิน Emirate Airline(EK) เป็นตั๋วหมู่คณะไม่สามารถสะสมไมล์ได้
  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 กก.ต่อ 1 ใบ (โหลดได้ท่านละ 1 ใบ)กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ
  • ค่าวีซ่าท่องเที่ยวประเทศดูไบ
  • ค่าโรงแรมตลอดการเดินทาง (พักห้องละ 2 -3ท่าน)(กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ,น้ำดื่มบริการบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวคนไทย
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท, ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 500,000 บาทเงื่อนไขประกันการเดินทาง  ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 30 กิโลกรัมต่อท่าน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ,หัวหน้าทัวร์ตามระเบียบธรรมเนียม รวมทั้งทริป 50USD/ท่าน

ราคา

THB 10,000,000

27 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more