มหัศจรรย์....พม่า ไหว้พระ 5 วัดดัง 1 วัน
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง – พระนอนตาหวาน –วั ดหงาทัตยี – เทพทันใจ – เทพกระซิบ –วัดเจตุน
04.30 น. พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ประตู 6 Thai Lion Air (SL)โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
08.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้ง โดยเที่ยวบิน SL200
**ตั้งแต่ 27 ตุลาคม 62 ถึง 28 มีนาคม 63 ทางสายการบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางขาไป โดยออกจากสนามบินดอนเมือง กรุงทพฯ เวลา 06.45น. และถึงสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง พม่า เวลา 07.35น. **
09.10 น. เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
จากนั้น นมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง(Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มีลานอธิษฐาน ซึ่งเป็นจุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากองณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคลได้ นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตพระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาลองค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆจำนวนมากและยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมา
ทั้งสิ้นชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นภายหลังชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ตีระฆัง 3ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไปเช่นสีเหลือง,สีน้ำเงิน,สีส้ม,สีแดงเป็นต้น
**ร่วมทำพิธีนำสวดมนต์เสริมบารมี ขอพรแก้ปีชง โดยอาจารย์และผู้ที่มีประสบการณ์ในประเทศพม่า **
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร**เมนูพิเศษ เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร**
จากนั้น พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือ พระนอนตาหวานนมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55ฟุต สูง 16ฟุตซึ่งเป็นพระที่มีความพระที่มีความสวยที่สุดมีขนตาที่งดงามพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ
จากนั้น สักการะ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่อหงาทัตจี หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักเป็นลวดลายต่างๆจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง
จากนั้น นำท่านขอพร นัตโบโบยีหรือพระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทยวิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ(นัตโบโบยี)เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปรารถนา ให้เอาดอกไม้ ผลไม้โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วยหรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาทหรือจ๊าดก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย)แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก2ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1ใบ เอามาเก็บรักษาไว้จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยีแค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้
นำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะเทพกระซิบซึ่งมีนามว่า“อะมาดอว์เมี๊ยะ”ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกันการบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
จากนั้น นำท่านเข้าสู่ วัดเจตุน Kyay Thon Pagoda นมัสการ พระเจตุนพญาจี พระพุทธรูปสำริดที่เก่าแก่ของพม่าอายุราวร้อยกว่าปี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมียนมาร์อีกแห่งหนึ่ง
สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง
19.35 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL207
21.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
**ตั้งแต่ 27 ตุลาคม 62 ถึง 28 มีนาคม 63 ทางสายการบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางขากลับ ออกจากสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง พม่า เวลา 19.35น. และถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ เวลา 21.25น.**
หมายเหตุ : สำหรับลูกค้าที่จองทัวร์พม่าเดินทางช่วงวันหยุดสงกรานต์ตั้งแต่ 12-21 เมษายน 2563 ภัตตาคารชาบูชิ/เป็ดปักกิ่ง+กุ้งมังกร/พระราชวังบุเรงนอง/ตลาดสก๊อตจะปิดให้บริการค่ะ พระราชวังมัณฑะเลย์/พระราชวังไม้สักชเวนานจอง จะปิดให้บริการ โดยทางผู้จัดทัวร์จะเปลี่ยนเป็นร้านอาหารอื่นและสถานที่เที่ยวอื่นที่เปิดให้แทนค่ะ
อัตราค่าบริการรวม
- ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป -กลับพร้อมกรุ๊ป อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว
- อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
- ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
- ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์) เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิ์เก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
อัตราค่าบริการไม่รวม
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด 20 กิโลกรัมต่อท่าน
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ, โทรศัพท์ – โทรสาร, อินเทอร์เน็ต, มินิบาร์, ซักรีด ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน, อุบัติภัยทางธรรมชาติ, การประท้วง, การจลาจล ,การนัดหยุดงาน, การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมือง จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทย และต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ,ผู้ช่วยคนขับรถ 1,000 บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน(บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศ)
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)
** ขณะนี้รัฐบาลไทยและเมียนมาร์ได้ลงนามความตกลง ยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ และจะมีสิทธิ์พำนักในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องกลับมายื่นวีซ่าปกติอีก ทางทัวร์จะต้องเรียกเก็บค่าวีซ่าเพิ่มอีกท่านละ 1,000 บาท **