มหัศจรรย์....MYANMAR โปรสุขใจ ไปอิ่มบุญ 3 วัน 2 คืน มหัศจรรย์....MYANMAR โปรสุขใจ ไปอิ่มบุญ 3 วัน 2 คืน มหัศจรรย์....MYANMAR โปรสุขใจ ไปอิ่มบุญ 3 วัน 2 คืน มหัศจรรย์....MYANMAR โปรสุขใจ ไปอิ่มบุญ 3 วัน 2 คืน

มหัศจรรย์....MYANMAR โปรสุขใจ ไปอิ่มบุญ 3 วัน 2 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง – เจดีย์สุเล – สิเรียม – เจดีย์เยเลพญา – พระนอนตาหวาน

04.30 น.  พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ขาออก ชั้น 2 เคาน์เตอร์สายการบินไทยไลอ้อนแอร์  ประตู 6 Thai Lion Air (SL)โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

07.35 น.  ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้ง  โดยเที่ยวบิน SL200

08.25 น.  เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)

จากนั้น  นำท่านเข้าชม เจดีย์สุเล(Sule Pagoda) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีเหลืองทองอร่าม ภายในองค์เจดีย์บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ณ เจดีย์แห่งนี้ ยังมีเทพทันใจองค์ที่โตที่สุด ที่ชาวพม่านับถือมากที่สุด และเชื่อกันว่า ขออะไรจากท่าน ท่านจะประทานให้อย่างรวดเร็ว

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น เดินทางสู่ เมืองสิเรียม(Thanlyin) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ45กิโลเมตรเมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพลฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปีพ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยาท่านจะเห็นเศษซากกำแพงสไตล์ลูซิตาเนียนบาโรก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี

นำท่านนั่งเรือแจว ชม พระเจดีย์เยเลพญา(Kyaik Hwaw Wun Pagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปีเป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ นำท่านไหว้สักการะเพื่อขอพรพระจกบาตรหรือพระอุปคุปที่เป็นที่นับถือของชาวพม่าสามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัว ขนาดใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ นำท่านเดินทางกลับย่างกุ้ง

จากนั้น  สักการะพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือ พระนอนตาหวาน นมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16ฟุตซึ่งเป็นพระที่มีความพระที่มีความสวยที่สุดมีขนตาที่งดงามพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก**โรงแรมหรูระดับ 4 ดาว SUMMIT HOTEL พักหรูระดับ 4*

วันที่ 2

เจดีย์โบตาทาวน์ - เทพทันใจ – เทพกระซิบ - ตลาดสก็อต - วัดบารมี – พระมหาชเวดากอง

06.30 น.   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้น ชม เจดีย์โบตาทาวน์ สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000ปีก่อน ในปี 2486เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2องค์ และพบพระพุทธรูปทองเงินสำริด 700องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์

จากนั้น  นำท่านขอพร นัตโบโบยีหรือพระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทยวิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี)เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วยหรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก

จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่าบาทหรือจ๊าดก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย)แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1ใบ เอามาเก็บรักษาไว้จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยีแค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้นำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะ เทพกระซิบซึ่งมีนามว่า“อะมาดอว์เมี๊ยะ”ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้วซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกันการบูชาเทพกระซิบบูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้

จากนั้น  นำท่านเดินทางสู่ ตลาดสก๊อต เป็นแหล่งศูนย์รวมของฝากทุกชนิด ตั้งแต่อาหารนานาชาติ เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ เครื่องเงิน, อัญมณี, ไม้แกะสลัก, เครื่องลงรักปิดทองต่างๆ, ถ้วยชามจีนโบราณ, ผ้าไหมลายต่างๆ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด มีสินค้าวางขายแทบทุกชนิด

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ** เมนูพิเศษ สลัดกุ้งมังกร เป็ดปักกิ่ง **

จากนั้น  นำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี ให้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์พระเกศาธาตุนี้เมื่อนำมาวางบนมือ จะสามารถเคลื่อนไหวได้อีกทั้งวัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุดด้วยไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา  พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่าง ๆพร้อมรับพระธาตุเพื่อนำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลฟรี!!ชมเจดีย์โบตาทาวน์สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย  8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์

เย็น   นำท่านชมและนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง(Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีเจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มี ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิรมงคลนอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตพระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาลองค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตันภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่างๆจำนวนมากและยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์จะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้นชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อนอังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นภายหลังชาวพม่า ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ตีระฆัง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป

19.00 น.  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารชาบูชิ บุฟเฟ่ต์ เต็มอิ่มกับชาชูชิ สุกี้หม้อไฟและซูชิสารพัดหน้าในเครือโออิชิ

จากนั้น   นำท่านเข้าสู่ที่พัก**โรงแรมหรูระดับ 4 ดาว SUMMIT HOTEL พักหรูระดับ 4*

วันที่ 3

กรุงเทพฯ

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง

10.10 น.  ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ  โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่  SL 201

12.00 น.   เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

อัตราค่าบริการรวม

  • ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป -กลับพร้อมกรุ๊ป อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว
  • ที่พักโรงแรมตามรายการ 2 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
  • อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ
  • ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์) เงื่อนไขประกันการเดินทาง  ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ,ผู้ช่วยคนขับรถ 1,000 บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน(บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศค่ะ)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)

** ขณะนี้รัฐบาลไทยและเมียนมาร์ได้ลงนามความตกลง ยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ และจะมีสิทธิพำนักในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องกลับมายื่นวีซ่าปกติอีก ทางทัวร์จะต้องเรียกเก็บค่าวีซ่าเพิ่มอีกท่านละ 1,000 บาท **

ราคา

THB 10,000,000

18 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more