มหัศจรรย์....น่าน แพร่ พิษณุโลก 4 วัน 2 คืน

มหัศจรรย์....น่าน แพร่ พิษณุโลก 4 วัน 2 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ • น่าน

22.00 น. พร้อมกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ดินแดง-วิภาวดี โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

23.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่  จังหวัดน่าน โดยรถตู้ V.I.P *บริการอาหารกล่องพร้อมเครื่องดื่มบนรถ*

วันที่ 2

น่าน • วัดบุญยืน • เที่ยวรอบเมืองน่าน •เสาพระหลักเมืองน่าน • วัดมิ่งเมือง • วัดภูมินทร์ •พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน • วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร • โฮงเจ้าฟองคำ • ตึกรังสีเกษม • วัดพระธาตุแช่แห้ง • ถนนคนเดินเมืองน่าน

07.00 น. เดินทางถึง วัดบุญยืน เสริมสิริมงคลกันในที่แรก พร้อมชมความงามสไตล์เมืองเหนือ และยังเป็นพระอารามหลวงอีกด้วย มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากเจ้าผู้ครองนครน่านจะประกอบพิธีบวงสรวงพระธาตุที่วัดแห่งนี้ เมื่อเกิดความไม่สงบหรือภัยพิบัติต่างๆ และยังเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีถทิน้ำพิพัฒน์สัตยาในพระวิหาร ต่อหน้าพระพุทธปฏิมากรปางประทับยืนสูง 4 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2340 สมัยเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน ซึ่งเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่มาจนถึงปัจจุบัน

จากนั้น  เดินทางสู่ อ.เมือง จ.น่าน เพื่อ รับประทานอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร เมนูข้าวซอยรสเลิศ บริเวณใกล้เคียงจะมีขายผ้านุ่งท้องถิ่นหากท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อได้

พาท่านเดินชมความงามของเมืองน่าน เมืองที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายของล้านนาเดิม ด้วยลักษณะเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก แต่ทุกตารางนิ้วของเมืองเต็มไปด้วย ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และความน่ารักที่รอให้ท่านสัมผัส ทำให้เป็นเมืองที่เที่ยวสนุก เที่ยวสบาย แต่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

พาท่านสักการะ เสาพระหลักเมืองน่าน ณ วัดมิ่งเมือง ซึ่งได้รับการสถาปนาวัดใหม่ จากเดิมที่เป็นวัดร้าง โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าครองนครในตอนนั้น สำหรับตัวอุโบสถนั้นพระครูสิริธรรมภาณี ได้บูรณะใหม่ในปี พ.ศ. 2527 เนื่องจากทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยตัวอาคารเป็นฝีมือของช่างพื้นบ้านของเมืองน่าน และงานลวดลายปูนปั้นจากช่างเชียงแสน ภาพในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองน่านตั้งแต่สมัยพญาภูคาเจ้าเมืองน่านองค์ปฐม ซึ่งเดิมศูนย์กลางอยู่ที่อ.ปัว ในปัจจุบัน สำหรับเสาหลักเมืองนั้น สมัยโบราณจะเรียกว่า เสามิ่งเมือง หรือ เสามิ่ง โดยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถะวรปัญโญ เป็นผู้โปรดให้ฝังเสาพระหลักเมืองน่านลง เมื่อปีพ.ศ. 2331

จากนั้นพาท่านชม หนึ่งในสถานที่ที่โด่งดังที่สุดของจังหวัดน่าน กับภาพเสียงกระซิบรรลือโลก ณ วัดภูมินทร์ แต่เดิมนั้นมีชื่อว่าวัดพรหมมินทร์ เอกลักษณ์ที่แตกต่างจากวัดล้านนาทั่วไปคือ โบสถ์และพระวิหารสร้างชอาคารจัตุรมุขหลังเดียวกัน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ซึ่งสันนิฐานกันว่าเป็นโบสถ์แบบจัตุรมุขหลังแรกของไทย พาท่านชม “ฮูบแต้ม” หรือภาพจิตรกรรมภายในวิหาร ซึ่งภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองในสมัยนั้น

พาท่านเข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ดัดแปลงจากที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน มีพื้นที่รวม 14 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา โดยเคยเป็นศาลากลางจังหวัดน่าน ก่อนเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2517 ไฮไลท์สำคัญคือ งามช้างดำ ซึ่งเป็นของคู่บ้านคู่เมือง จนอยู่ในคำขวัญว่า “แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง” ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านยังมี ซุ้มลีลาวดี เรียงกันเป็นแนวยาวให้ท่านได้บันทึกรูปกันอย่างตามอัธยาศัย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องไม่พลาด

จากนั้น   พาท่านเข้าสักการะอีก 1 ปูชนียสถานที่สำคัญใรตัวเมืองน่าน ณ ที่มีจุดเด่นที่องค์เจดีย์ช้างค้ำ ที่เป็นศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย สังเกตได้จากลักษณะเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ และยังมีประติมากรรมก่ออิฐถือปูนเป็นรูปช้างล้อมองค์เจดีย์ไว้ นอกจากนั้นยังมีพระประธานปูนปั้นขนาดใหญ่ ศิลปะเชียงแสน ฝีมือสกุลช่างน่าน ซึ่งนับว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองน่าน

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารในตัวเมืองน่าน

บ่าย พาท่านเข้าชม โฮงเจ้าฟองคำ อาคารไม้สักหลังใหญ่สถาปัตยกรรมล้านนาที่มีอายุร่วม 200 ปี เคยเป็นที่อาศัยของเจ้าฟองคำ ผู้มีเชื้อสายของเจ้าอนันตวรฤทธิเดช ตัวบ้านแบ่งออกเป็น 4 หลังโดยเชื่อมกันทุกหลังและไม่ใช้ตะปูในการประกอบบ้านเลย ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่สะท้อนวีถีชีวิตของชาวน่านได้เป็นอย่างดี ตัวอาคารได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทบ้านพักอาศัย (คุ้มเจ้า) ประจำปี พ.ศ. 2555 จากสมาคมสถาปนิคสยาม

ให้ท่านแวะถ่ายรูป ณ ตึกรังสีเกษม อีกหนึ่งอาคารเก่าแก่ที่ราวกับท่านได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตด้วยบรรยากาศที่หาชมได้ยาก โดยตัวอาคารสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2458 โดยคณะมิชชันนารี ถือเป็นอาคารสไตล์ตะวันตกอาคารยุคแรกของเมืองน่าน ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และคงความสวยงามในแบบฉบับบดั้งเดิม มีคนเคยกล่าวว่า “มาเมืองน่านสิบครั้งไม่รู้จักน่าน แต่มาที่นี่ครั้งเดียวก็รู้จักน่าน และรักน่าน” ยิ่งถ้าท่านแต่ชุดไทย นุ่งซิ่นมาแล้วยิ่งได้บรรยากาศเข้าไปอีก

จากนั้น  รถตู้มารับและเดินทางไปยัง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ อีกด้วย สันนิษฐานว่า พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย ถือเป็นแบบอย่างสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของช่างสกุลน่าน นอกจากนั้นยังมีสิ่งคู่ควรแก่การสักการะอีกมากมาย อาทิ วิหารพระเจ้าทันใจ วิหารพุทธไสยาศน์ เป็นต้น

เดินทางกลับสู่ตัวเมือง เพื่อพาเดิน กาดข่วงเมืองน่าน หรือถนนคนเดินเมืองน่านที่จัดเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ของที่ระลึก อาหาร ที่เป็นสินค้าของชาวเมืองน่าน ให้ท่านได้เลือกรับประทานอาหารได้อย่างอิสระ โดยหากท่านสนใจลองทานขันโตกเมืองน่านก็สามารถลองทานได้ที่กาดข่วงแห่งนี้

เย็น    อิสระเลือกรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก โรงแรมน่านนครา / โรงแรมน่านบ้านคุณ / โรงแรมบ้านน่าน หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 3

วัดศรีพันต้น • วัดพระธาตุเขาน้อย • วัดศรีมงคล • ร้านกาแฟไทลื้อ • ร้านลำดวนผ้าทอ • ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ • วัดภูเก็ต • วัดร้องแง • วัดปรางค์ Unseen Thailand ชมต้นดิกเดียน

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางมายัง วัดศรีพันต้น อีกหนึ่งวัดสำคัญในตัวเมืองน่านตั้งชื่อตามเจ้าผู้ครองนครน่านพระองค์นึง โดดเด่นด้วยตัววิหารของวัดซึ่งสีทองอร่ามตระการตา อ่อนโยนด้วยลาดลายตกแตกจากฝีมือช่างสกุลน่าน นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องแวะชม

จากนั้น  พาท่านเข้าชม วัดพระธาตุเขาน้อย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาโดยเป็นที่ประดิษฐานพระเกษาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้านบนยังประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ตรงจุดนี้ท่านยังสามารถชมวิวเมืองน่านได้อย่างสุดลูกหูลูกตา

เดินทางสู่ อ.ท่าวังผา สู่ วัดศรีมงคล อีกวัดที่ได้รับการตกแต่งแบบไทยล้านนา ซึ่งพระครูมงคลรังสี หรือหลวงปู่ครูบาก๋ง ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้าน เคยได้รับนิมนต์มาอยู่ที่วัดแห่งนี้จนมรณภาพ โดยรอบวัดตกแต่งด้วยโคมไฟกระดาษสา ร่มกระดาษสา ตุง ซึ่งล้วนเป็นข้าวของเครื่องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านทั้งสิ้น พาท่านสักการะพระประธานในวิหารหลวง และชมจิตรกรรมฝาผนังซึ่งส่วนหนึ่งเป็นรูปมหาอุทกภัยที่เมืองยม พ.ศ. 2424 อีกหนึ่งสิ่งที่โด่ดเด่นคือทัศนียภาพหน้าวัดซึ่งเป็นทุ่งนาอันกว้างขวางมีพื้นหลังเป็นดอยภูคา ให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศกันอย่างอัธยาศัย

ออกเดินทางสู่ อ.ปัว ทางตอนเหนือของจังหวัดน่าน ที่มีบรรยากาศแสนสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวาย เพื่อให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม

เดินทางสู่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ หนึ่งในฟาร์มเห็ดท้องถิ่นของปัวที่ทันสมัยที่สุด 

รับประทานอาหารกลางวัน โดยมีพิซซ่าเห็ดให้ท่านได้ลองทาน 1ถาด / โต๊ะ พร้อมเมนูจากเห็ดนานาชนิด

พาท่านสโลวไลฟ์พร้อมดื่มเครื่องดื่มเติมความสดชื่นที่ ร้านกาแฟไทลื้อ ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนาและขุนเขา ตัวร้านเป็นลักษณะบ้านแบบไทลื้อ และยังมีมุมจิบเครื่องดื่มหลายๆ จุด ซึ่งเก๋ไก๋ไม่ธรรมดา นอกจากนั้นท่านยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก ผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหลลายโบราณซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีของเมืองปัวได้ ที่ ร้านลำดวนผ้าทอ กล่องข้อความมุ่งหน้าสู่ วัดภูเก็ต โดยชื่อของวัดนั้นมาจากชื่อหมู่บ้านที่ชื่อว่าเก็ต และตั้งอยู่บริเวณเนินเขา มีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ ประดิษฐานหลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา ที่ศักดิ์สิทธิ์ หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ภายใตวัดยังมีเทมเพิล สเตย์ ซึ่งเป็นที่พำนักของผู้ที่มาปฏิบัตรธรรมที่วัดแห่งนี้ และยังมีพระพุทธธรรมจักรองค์ที่ 36 พระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

พาชมอีกหนึ่งวัดสวย วัดร้องแง ถือเป็นวัดโบราณของปัว มีวิหารเก่าแก่และโด่ดเด่นด้วยศิลปะแบบไทลื้อ ซึ่งได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถาน โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ หน้าบันของวิหารเป็นลายพันพฤกษา มีหลังคาคลุมต่ำ ภายในประดิษฐานพรประธานมารวิชัย เสาวิหารมีลวดลายสีทองบนพื้นสีแดง หรือ ลายคำ ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น ลายกรวยเชิง ลายพรรณพฤกษา ลายดอกไม้ นอกจากนี้ไม่ควรพลาดชมธรรมาสน์ทรงโบราณแบบดั้งเดิมของล้านนาที่หาชมได้ยาก

จากนั้นพาท่านชม Unseen Thailand ที่ วัดปรางค์ ในตัวเมืองปัว ซึ่งมี ต้นดิกเดียน ต้นไม้มหัศจรรย์ ที่มีความพิเศษด้วยลักษณะของตัวต้นไม้นั้นหันหลังให้แดด และหันหน้าเข้าหาวัดนอกจากนั้นเมื่อผู้คนมาสัมผัสตัวต้นแล้วใบไม้จะสั่นไหวทุกครั้งราวกับมีความรู้สึก ตัววัดยังมีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนกับที่ใด

เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารในตัวเมืองปัว

ที่พัก  ปัว พาโนราม่า / โรงแรมปัวเดอวิว บูติค รีสอร์ท / โรงแรมชมพูภูคารีสอร์ท หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 4

แพร่ • วัดพระธาตุช่อแฮ • วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร • สักการะพระพุทธชินราช • กรุงเทพฯ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พาท่านออกเดินทางสู่เมืองแพร่ เพื่อสักการะพระธาตุประจำคู่บ้านคู่เมืองแพร่ ที่ พระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิด ปีขาล องค์เจดีย์เป็นศิลปะเชียงแสน แบบแปดเหลี่ยมย่อมุมไม่สิบสองบุด้วยทองจังโก สูง 33 เมตร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายและพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นยังมีหลวงพ่อช่อแฮประดิษฐานในพระอุโบสถอายุหลายร้อยปี พระพุทธฌลกนารถบพิตร กรุอัฐิครูบาศรีวิชัย และอีกมากมาย นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาที่สุดของจังหวัดแพร่

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร จ.แพร่

มุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก สู่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร ซึ่งประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในสมัยพญาลิไท ถือเป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะที่สวยงามมากที่สุดองค์หนึ่งที่สร้างในยุคนั้น งามจนพระบาทสมเด็จพระจุมจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้นำมาประดิษฐานที่วัดในพระนคร แต่ชาวเมืองได้ขอให้ไม่ให้นำไปเนื่องจากเป็นดั่งศูนย์รวมใจของเมือง พระองค์จึงได้โปรดให้หล่อองค์จำลองและประดิษฐานไว้ ณพระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร

เดินทางสู่ จ.นครสวรรค์ แวะรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร  มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ ณ ปั๊มน้ำมัน ปตท.ดินแดง-วิภาวดี

22.00 น.  เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

อัตราค่าบริการรวม

  • อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่ารถรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์) เงื่อนไขประกันการเดินทาง  ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ, โทรศัพท์ – โทรสาร, อินเทอร์เน็ต, มินิบาร์, ซักรีด ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของ, อุบัติภัยทางธรรมชาติ, การประท้วง, การจลาจล ,การนัดหยุดงาน, การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมือง จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทย และต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ,ผู้ช่วยคนขับรถ 200 บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน(บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศ)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)

ราคา

THB 10,000,000

26 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more