ทัวร์อินเดีย เที่ยวอินเดีย มุมไบ อจันต้า เอลโลร่า 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินเจ็ท แอร์เวย์(9W)<<ชมความอลังการ ถ้ำอจันต้า สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก>> (ทัวร์ BOM-9W01)
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
กรุงเทพฯ – มุมไบ – วัดสิทธิวินัยยัค – ถ้ำช้าง – สถานีรถไฟวิคตอเรียเทอมินาส – ประตูชัยอินเดีย – ปูเน่
03.30 น.
คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 8 เคาน์เตอร์ P เช็คอินกรุ๊ปของสายการบิน เจ็ท แอร์เวย์ ( Jet Airways) โดยมีเจ้าหน้าที่ Go Holiday Tour ให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวก
05.55 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองมุมไบ โดยสายการบิน เจ็ท แอร์เวย์ ( Jet Airways) เที่ยวบินที่ 9W61 (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4.20 ชม.) (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
08.45 น.
เดินทางถึง สนามบิน ฉัตราปตีศิวะจิ (Chhatrapati Shivaji) เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว(เวลาท้องถิ่นของเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) รถโค้ชปรับอากาศรอรับท่านที่สนามบิน เพื่อเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองมุมไบ นำเที่ยวชม เมืองมุมไบ หรือ ชื่อเดิมอันเป็นที่รู้จักกัน คือ เมืองบอมเบย์ ซึ่งเป็นเมืองท่า และเมืองทางการค้าที่สำคัญของประเทศอินเดีย ชมตึกอาคารบ้านเรือน ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อครั้งเป็นเมืองอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1877 จนได้รับเอกราชเมื่อปี ค.ศ. 1947 และสถาปนาประเทศ เป็นสาธารณรัฐอินเดีย เมื่อปี ค.ศ. 1950 เมืองมุมไบ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอาหรับ มีหาดทรายสีขาวที่ทอด ยาวเหยียดของอ่าวราวกับสร้อยพระศอราชินี และเป็นเมืองที่ผลิตภาพยนตร์มากที่สุดในโลก อีกด้วย จนได้รับฉายาว่าเป็นเมือง Bollywood แห่งอินเดีย นำท่านเยี่ยมชม วัดสิทธิวินัยยัค (Siddhivinayak Temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ในศาสนาฮินดูสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1801 ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์ “พระพิฆเนศ” เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในองค์มณฑปศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธา ทันทีที่ท่านก้าวเข้าสู่ ภายในวัดที่คลาคล่ำ ไปด้วยฝูงชนที่มาเคารพสักการะ หลังจากที่ท่านได้สักการะองค์ท่านแล้ว จะมีพิธีกรรมที่ประหลาดอีกอย่างที่จำเป็นต้องทำ คือให้ท่านได้กระซิบคำอธิษฐานต่อ รูปปั้นหนู 2ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านด้วย จากนั้นให้ท่านได้บูชาเครื่องรางรูปบูชา องค์ท่านตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านล่องเรือท่ามกลางมหาสมุทรอินเดีย นำท่านสู่ เกาะช้าง (Elephanta Island) ให้ท่านได้นมัสการ พระพิฆเนศ หรือ “ฆรบุรี” ซึ่งชาวโปรตุเกสเรียกเกาะแห่งนี้ว่า พระพิฆเนศ เพราะเคยมีรูป สลักช้างขนาดยักษ์ ตั้งอยู่แต่ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายไปไว้ยังสวนสัตว์ในเมืองมุมไบนำชม ถ้ำช้าง (Elephanta Cave) ซึ่งเป็นเทวาลัยถ้ำ อันอลังการตั้งอยู่หลายแห่ง ภายในถ้ำถูกสลักเสลาอย่างสวยงาม เทวาลัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ขุดเจาะขึ้นในศตวรรษที่ 7 และ 8 งานประติมากรรมชิ้นเอกเป็น เทวรูป มเหศวรมูรติ หรือ พระตรีมูรติ ขนาดครึ่งองค์ สูง 5 เมตร เป็นรูปที่รวมเทพทั้ง 3 พระองค์ คือ พระศิวะ พระพรหม และพระนารายณ์ มีสามเศียร แสดงปางผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้ขอพรจาก พระตรีมูรติ จะมีความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิต ทั้งความรัก และการงาน ให้ท่านได้มีเวลาชื่นชม ความงดงามภายในถ้ำและบันทึกภาพ เป็นที่ระลึก ตามอัธยาศัย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้น นำท่านผ่านชมและถ่ายรูปด้านนอก สถานีรถไฟฉัตรปตี ศิวาจีเทอมินาส (Chhatrapati Shivaji Terminus) หรือ ชื่อเดิมวิคตอเรียเทอมินาส ที่ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามพระราชินีวิคตอเรีย ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียโกธิค ผสมผสานกับงานศิลปะแบบอินเดีย อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย(Gateway of India) สร้างขึ้นเพื่อเป็น อนุสรณ์ในการเสด็จมาเยือนมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่ ในปี ค.ศ.1911 เพื่อทรงร่วมงานเดลีดารบัร ความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะของท้องถิ่น กับแบบมุสลิมของรัฐคุชราต ให้ท่านได้อิสระเก็บภาพแห่งความประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปูเน่ (Pune) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ค่ำ
รับประทานอาหารเย็น ณ ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก The Central Park Hotelระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองปูเน่
วันที่ 2
ปูเน่ – พระพิฆคเณศทักดูเชท์ กันปาตี-Aga Khan Palace-ออรังกาบัด
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเที่ยวชมและสักการะองค์ พระพิฆคเณศดักดูเชท์ กันปาตี (Dagdusheth Ganpati Temple) พระพิฆคเณศประจำเมืองปูเน่ มีการประดับประดาด้วยเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและเพชร ทั่วทั้งองค์ จนได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นพระพิฆเนศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งในเทศกาลกันปาตีหรือเทศกาลคเณศจตุรถีของทุกปีจะมีการย้ายพระพิฆคเณศทรงเครื่องออกมาประดิษฐานยังศาลาที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้จาริกแสวงบูญได้เข้ามาชมและสักการะองค์เทวรูปของพระพิฆคเณศเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของผู้ที่ได้มาสักการะวัดแห่งนี้ นำท่านชม อากาข่าน พาเลซ (Aga Khan Palace) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1892 สมัยของ Sultan Muhammad Shah Agakhan III ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดี พรรคสันนิบาตแห่งชาติในปี ค.ศ. 1938 ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมระหว่างสไตล์อินเดีย อังกฤษ และมุสลิม เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นอนุสรณ์สถานในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพ ในปี ค.ศ. 1942 ท่านมหาตมะคานธี,ภรรยา และผู้ช่วยของท่านถูกจองจำในสถานที่แห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. 1942-6 พ.ค. 1944 ซึ่งระหว่างที่ถูกคุมขัง ภรรยาและผู้ช่วยก็ได้เสียชีวิตลง ร่างของทั้งสองได้ถูกนำมาฝังไว้ใต้แท่นอนุสรณ์ ต่อมาในภายหลังที่มหาตมะ คานธี เสียชีวิตลง เถ้าถ่านของท่านก็ได้ถูกนำมาเก็บไว้ในบริเวณใกล้เคียงกัน ภายในจัดเป็นพิพิธภัณฑ์มีรูปถ่ายที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในชีวิตของ มหาตมะ คานธี รวมถึงมีการจัดแสดงของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า หมวก รองเท้า ฯลฯ และพระราชวังนี้ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงเรื่อง “Gandhi” อีกด้วย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง ออรังกาบัด (Aurangabad) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
ค่ำ
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก VITS Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองออรังกาบัด
วันที่ 3
ออรังกาบัด – ถ้ำอจันต้า – ออรังกาบัด
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำอจันต้า ระหว่างทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของสภาพบ้านเรือนตลอดสองข้างทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทาง นำท่านชม ป้อมเดาลาตาบัด ป้อมปราการโบราณรอบภูเขาดัลคีรี ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ยารวะและถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ใน พ.ศ. 1839 กลายเป็นเมืองหลวงอินเดียภายใต้การปกครองของกษัตริย์มุสลิมอยู่พักหนึ่งก่อนถูกทิ้งร้างย้ายไปสร้างเมืองออรังกาบัด ชมซากมัสยิดที่ยังเหลือซากเสาจำนวน 106 ต้น ชมป้อมปราการพระราชวังบนเสาอายุ 700 ปี
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
นำท่านชมความอลังการของสถาปัตยกรรม ถ้ำอจันต้า (Ajanta Cave) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยบันดาลใจจากศาสนาพุทธโดยเจาะเป็นปราสาทขนาดใหญ่แบบศิลปะคุปตะและหลังคุปตะอันวิจิตรค้นหาความมหัศจรรย์ของสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ถ้ำอจันต้า คือ พุทธสถานที่สร้างจากการสกัดหน้าผาหินหุบเขาเหนือแม่น้ำวโฆระเป็นศูนย์กลางสำนักปฎิบัติของเหล่าสงฆ์ในพุทธศาสนา พุทธศตวรรษที่ 7-13 สืบเนื่องนานกว่า 600 ปี ก่อนถูกทอดทิ้งให้รกร้างกลางป่า และมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญจากนายทหารอังกฤษ ภายในถ้ำขนาดมหึมา กว่า 30 ถ้ำที่ถูกขุดเจาะด้วยฝีมือมนุษย์ สลักเสลาเป็นเสาประดับลวดลายอันงดงาม พระพุทธรูป และเจดีย์ศิลาที่สกัด และตบแต่งขึ้นจากหินชิ้นเดียวกับพื้นและผนังถ้ำภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติอันน่าอัศจรรย์พระพุทธรูปศิลาที่แสดงอารมณ์พระพักตร์ต่างกันเมื่อแสงตกสะท้อนจากต่างมุมจะทำให้ท่านพิศวงประทับใจไม่รู้ลืม ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก VITS Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองออรังกาบัด
วันที่ 4
ออรังกาบัด – ถ้ำเอลโลร่า – บีบีกา มักบารา ทัชมาฮาลน้อย
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำเอลโลร่า (Ellora Cave) ชมความงามที่ยิ่งใหญ่ของถ้ำ 34 ถ้ำ ซึ่งเป็นของพุทธสถาน 12 ถ้ำ เทวสถานในศาสนาฮินดู 14 ถ้ำ และศาสนสถานของเชนอีก 8 ถ้ำ เกิดจากการแกะสลักภูเขาทั้งลูกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา นมัสการพระพุทธรูปอายุกว่า 1,200 ปี ชมภาพแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามของเหล่าทวยเทพทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นรูปองค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณตลอดทั้งเหล่านางเทพอัปสรและอีกมากมายสุดที่จะบรรยาย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย
นำท่านชม บีบีกา มักบารา (Bi Bi Ka Maqbara) หรือทัชมาฮาลน้อย เพราะมีลักษณะสถาปัตยกรรมคล้ายทัชมาฮาล สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก โดยพระโอรสของออรังเซบ ทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา (พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี) ได้เวาลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หรือห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก VITS Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองออรังกาบัด
วันที่ 5
ออรังกาบัด – มุมไบ – กรุงเทพฯ
06.50 น.
นำท่านเดินทางสู่สนามบินออรังกาบัด
ออกเดินทางสู่ เมืองมุมไบ โดยสายการบิน เจ็ท แอร์เวย์ ( Jet Airways) เที่ยวบินที่ 9W355
07.40 น.
เดินทางถึง สนามบิน ฉัตราปตีศิวะจิ (Chhatrapati Shivaji) เมืองมุมไบ ให้ท่านเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
12.50 น.
นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน เจ็ท แอร์เวย์ ( Jet Airways) เที่ยวบินที่ 9W60 (มีบริการอาหารบนเครื่อง)
18.50 น.
เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ, ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ