ย่างกุ้ง -หงสา -อินทร์แขวน สักการะ 3 มหาบูชาสถาน 3 วัน 2 คืน ( นอนอินทร์แขวน 1 คืน)
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
กรุงเทพฯ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานมิงกาลาดง – เมืองย่างกุ้ง – เมืองหงสาวดี – เจดีย์ชเวมอดอว์ - พระมหาเจดีย์มุเตา - ไจ้ทีโย - คิมปูนแคมป์ - พระธาตุอินทร์แขวน
07.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออกประตู 6 เคาว์เตอร์สายการบิน MYANMAR AIRWAY โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
10.15 น. นำท่านเหินฟ้าสู่ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าโดยเที่ยวบิน 8M 336 ตั้งแต่กรุ๊ปวันที่ 31 มีนาคม 2561 เป็นต้นไปเวลาจะเปลี่ยนเป็น 8M336 10.40-11.25
11.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิงกาลาดง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองหงสาวดีเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรหงสาวดีของชาวมอญ และอาณาจักรตองอูของชาวพม่า
นำท่านนมัสการ เจดีย์ชเวมอดอว์ คนไทยนิยมเรียกว่า พระมหาเจดีย์มุเตา เป็นเจดีย์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองที่สูงที่สุดของหงสาวดี นับว่าเป็น 1ใน5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งในสมัยก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนออกศึกของ บูรพกษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์มอญหรือพม่า รวมทั้งพระเจ้าบุเรงนองด้วย และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระนางสุพรรณกัลยา ทรงประทับอยู่ในหงสาวดี ก็เคยเสด็จมานมัสการพระเจดีย์องค์นี้
นำท่านมุ่งหน้าสู่เมือง ไจ้ทีโย เดินทาง 3 ชั่วโมงถึง คิมปูนแคมป์ เชิงเขาไจ้ทีโยหยุดพักเพื่อเปลี่ยนรถเป็นรถบรรทุกหกล้อเพื่อขึ้นบนภูเขา ไจ้ทีโย ใช้เวลาเดินทางจากบริเวณนี้ประมาณ 35 นาที ชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง พร้อมสัมผัสความเย็นซึ่งจะค่อย ๆ เย็นขึ้นเรื่อย ๆ เดินทางจนเกือบถึงพระธาตุอินทร์แขวน จากนี้เดินขึ้นไปจนถึงโรงแรมที่พัก พระธาตุอินทร์แขวน เป็นองค์เจดีย์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ สูง 5.5 เมตร ปิดทองทั้งองค์ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาอย่างหมิ่นเหม่ ดูคล้ายว่าจะตกลงไปในหุบเหวได้ทุกขณะพระธาตุอินทร์แขวนนี้นับเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ ปี พุทธศักราช 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรมเรื่อง “เจ้าจันทร์ผมหอม” นิราศพระธาตุอินทร์แขวน
พักที่ KYAIKHTO HOTEL หรือ YOE YOE LAY HOTEL *หรือระดับเทียบเท่า*
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากที่พักเดินไป พระธาตุอินทร์แขวน ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีเท่านั้น หลังอาหารค่ำเชิญท่านไปนมัสการพระธาตุตามอัธยาศัย สามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะนมัสการกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้ทีโย ควรเตรียมเสื้อกันหนาว หรือกันลม หรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ เบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษเปิดถึงเวลา 20.00 น. เท่านั้น
วันที่ 2
พระธาตุอินทร์แขวน – เมืองหงสาวดี - พระราชวังบุเรงนอง - พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว - พระเจดีย์ไจ๊ปุ่น – ช้อปปิ้งตลาดสก็อต - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
05.00 น. เชิญท่านนมัสการ พระธาตุอินทร์แขวน หรือใส่บาตรตามอัธยาศัย หรือถวายข้าวพระพุทธ มีชุดจำหน่ายบริเวณนั้น ให้ท่านได้ขอพรพระธาตุอินทร์แขวนอีกครั้ง ถ่ายรูป และชมทัศนียภาพรอบ ๆ พระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมา โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปก็ดูคล้ายกับลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นำไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางกลับตามเส้นทางเดิมมุ่งหน้าสู่ เมืองหงสาวดี ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรมอญโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ชมวัดและโบราณสถานที่สำคัญในหงสาวดี
นำท่านเข้าสู่ วัดไจ้คะวาย เพื่อทำบุญใส่บาตรข้าวสวยแด่ภิกษุ สามเณร จำนวน 1,200 รูป ที่นี้เราจะใส่บาตรข้าวสวยเพียงอย่างเดียว สำหรับอาหารทางชาวบ้านจะจัดเตรียมไว้ต่างหาก (หรือถ้าต้องการถวายสิ่งอื่นๆ ก็สามารถนำไปได้ตามกำลังศรัทธา) สถานที่แห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนานักธรรมชั้นตรี, โท และเอก จากนั้นนำท่านเดินทางต่อ ด้วยความอิ่มบุญและอิ่มใจ (สิ่งที่ทางวัดต้องการขณะนี้คือข้าวสาร โดยทางวัดจะมีการทำบุญบริจากข้าวสารกระสอบละ 1,000 บาทโดยประมาณ)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง ซึ่งเพิ่งเริ่มขุดค้น และ บูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี 2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ปัจจุบันการขุดค้นยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ก็พอจะเห็นได้ว่าบริเวณของพระราชวังแห่งนี้กว้างใหญ่เพียงใด
หลังจากนั้นนำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว เป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของเมืองหงสาวดี อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพื้นเมือง นำชม พระเจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2019 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทิศประกอบด้วยสมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า(ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้าในอดีต 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้าโกนาคม์ (ทิศใต้) พระพุทธเจ้ากกุสันธะ(ทิศตะวันออก) และพระพุทธเจ้ามหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ
นำท่าน ช้อปปิ้งตลาดสก็อต ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของพม่า มีสินค้าของที่ระลึกมากมาย อาทิ อัญมณี ทับทิม ไพลิน หยก ไข่มุก เครื่องเงิน เครื่องหวาย งานฝีมือ เช่น ผ้าปูโต๊ะ ผ้าโสร่ง นำท่านชม พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของพม่า ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะชื้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กระรัต และทับทิม 2,317 เม็ด ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่าและชาวต่างชาติมากมายที่พากันเที่ยวชมและนมัสการทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย โดยกล่าวขานกันว่า ทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มีจำนวนมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ที่ธนาคารชาติอังกฤษเสียอีกและนับเป็นมหาเจดีย์ที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก(สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต)
คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ
ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันตัง ธาตุโย ธัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมะนัง ธัมมะ การะนัง ธาตุโย
ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย ธัสสะติ จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะติ
อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา
วันเกิด |
อาทิตย์ |
จันทร์ |
อังคาร |
พุธ |
พุธกลางคืน |
พฤหัสบดี |
ศุกร์ |
เสาร์ |
สัตว์สัญลักษณ์ |
ครุฑ |
เสือ |
สิงห์ |
ช้างมีงา |
ช้างไม่มีงา |
หนูหางยาว |
หนูหางสั้น |
พญานาค |
พักที่ GRAND UNITED HOTEL / MILLENNIUM HOTEL / IBIS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า *IBIS HOTEL ถือเป็นโรงแรม 4 ดาว LOCAL*เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
วันที่ 3
เมืองย่างกุ้ง – พระเจดีย์โบตะทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ – เจดีย์เจ๊าทัตจี (พระนอนตาหวาน) - พระหินอ่อน – ช้างเผือก- ท่าอากาศยานมิงกาลาดง – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำชม พระเจดีย์โบตะทาวน์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่นำไปบรรจุใน พระเจดีย์ชเวดากอง เมื่อพระเกศาธาตุได้ ถูกอัญเชิญขึ้นจากเรือ ได้นำมาประดิษฐานไว้ที่พระเจดีย์โบตะตองแห่งนี้ก่อน พระเจดีย์แห่งนี้ได้ถูก ทำลายในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ โดยมีความแตกต่างกับพระเจดีย์ทั่วไปคือ ออกแบบให้ใต้ฐานพระเจดีย์มีโครงสร้างโปร่งให้คนเดินเข้าไปภายในได้ โดยอัญเชิญ พระบรมธาตุไว้ในผอบทองคำให้ผู้คนได้เข้ามากราบไหว้มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนผนังใต้ฐานเจดีย์ ได้นำทองคำและของมีค่าต่าง ๆ ที่มีพุทธศาสนิกชนชาวพม่านำมาถวายแก่องค์พระเจดีย์ มาจัดแสดงไว้
นำท่านสักการะขอพรจาก เทพทันใจ ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่า อธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนา
จากนั้นสักการะ เทพกระซิบ หรือนัตอะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตำนานกล่าวว่านางเป็นธิดาของพญานาคที่เกิดความศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างแรงกล้า ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนสิ้นชีวิตไปและได้กลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพบูชามานานแล้ว
นำท่านชม เจดีย์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามที่สุด มีขนตาที่งดงาม พระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ และพระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทยที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ เป็นศิลปะพม่าที่งดงามมีขนาดความยาวขององค์ 70 เมตร
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านสักการะ พระหินอ่อน (เจ๊าดอจี) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ แกะสลักจากหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่ามีน้ำหนักถึง 60 ตัน สูง 37 ฟุต แกะสลักโดยช่างชาวเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งถือว่าเป็นช่างฝีมือดีที่สุดของพม่า
นำท่านชม ช้างเผือก ที่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของพม่ามีสีขาวเผือกตลอดทั้งตัวจำนวน 3 เชือก ต้องตามคชลักษณะของช้างเผือกทุกประการ และภายยังมีขนหางของช้างเผือกให้ท่านได้บูชาเพื่อนำกลับไปเป็นเครื่องรางพกติดกาย คนโบราณเชื่อกันว่าขนหางของช้างเผือกนั้นให้คุณทางด้านปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ช่วยป้องกันอาถรรพ์ ปัดรังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆได้ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิงกาลาดง เมืองย่างกุ้ง
16.30 น. นำท่านเหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ 8M331
18.15 น. ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ...พร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.
- ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
- ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่านหรือ 3 ท่าน
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
- ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
- ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ(กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
- ค่าทิปคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น ท่านละ 500 บาท/ทริป/ต่อท่าน *หัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจ*
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%