แกรนด์ไอซ์แลนด์ 10 วัน 7 คืน
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
20.35 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาท์เตอร์ Sสายการบินฟินแอร์ เจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง
23.35น. เหิรฟ้าสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ Finnair เที่ยวบินที่ AY144
วันที่ 2
เฮลซิงกิ – เรคยาวิค – วงกลมทองคำ – น้ำตกสโกก้า – เซลยาลันส์ฟอส เรย์นิสดรันก้าร์ - ชมหาดทรายดำ - วิค
06.05 น. เดินทางถึง กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วจากนั้น ต่อเครื่องสู่นครเรคยาวิค ประเทศไอซ์แลนด์
07.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิค Reykjavik โดยสายการบินฟินแอร์ Finnair เที่ยวบินที่ AY991
08.35น. เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิก เมืองเรคยาวิค Reykjavikเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านออกเดินทางสู่เส้นทางวงกลมทองคำ Golden Circle ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อน Geysir ที่มีความสูงของน้ำพุถึง 200 ฟุตจากพื้นดิน ที่พวยพุ่งสู่ท้องฟ้าทุกๆ 7-10 นาที และถือเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกน้ำพุร้อนแบบนี้ทั่วโลก
จากนั้นนำท่านชม น้ำตก Gull Foss หรือน้ำตกทองคำ (Golden Falls) ซึ่งน้ำตก ที่มีความสวยงามที่สุด และใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ สายน้ำที่ใสสะอาดที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขาใหลลงมา จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่บริเวณอุทยานแห่งชาติธิงเลลีร์ Thingvellir National Park องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี ค.ศ.2004 ชมจุดบริเวณที่เคยเป็นเป็นรัฐสภา หรือสถานที่แสดงความคึดเห็นและคัดเลือกผู้นำของชาวไอซ์แลนด์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.930 และเป็นพื้นที่ ที่ได้การยอมรับว่ามีธรรมชาติที่สวยงามของไอซ์แลนด์แห่งหนึ่ง
จากนั้นนำท่านชมรอยแตกร้าวของของโลก ที่มีความลึกลงสู่ใต้ดินถึง 14 เมตร ที่เกิดจากแผ่นดินไหว เมื่อปี ค.ศ. 1784 และทุก ๆ ปีรอยแตกนี้ก็จะขยายออกไปอีกถึงปีละ 1 เซนติเมตร นำท่านชมทะเลสาบ Pingvallavatn ทะเลสาบธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ชมเคริด Kerid ปากปล่องภูเขาไฟในสมัยโบราณ ซึ่งดับแล้ว ในบริเวณนั้นจะมีน้ำขังตัวอยู่ใต้ดิน เป็นลักษณะที่หาชมได้ยากมาก
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองวิก นำท่านชม น้ำตก เซลยาลันส์ฟอส (SeljalandsFoss) ซึ่งเกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา และเป็นน้ำตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด และท่านสามารถเดินลอดน้ำตกแห่งนี้ได้ จากนั้นนำท่านชมความงามของน้ำตก Skogafoss ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ มีความสูงประมาณ 62 เมตร ซึ่งไหลมาจากแม่น้ำ สโกก้า กก้า
นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ภูเขาไฟเอยาฟจาลลายุค (Eyjajallajikull) ภูเขาไฟอันโด่งดังของไอซ์แลนด์ ภายหลังจากการปะทุในช่วงปีค.ศ. 2010 ปัจจุบันเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียน มาถ่ายรูปความสวยงามของภูเขาไฟแห่งนี้ ที่ยอดเขาปกคลุม ไปด้วยหิมะตลอดทั้งปีอีกด้วยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามยิ่ง
จากนั้นนำท่านชม เรย์นิสดรันก้าร์ (Reynisdrangar) ซึ่งเป็นลักษณะของภูเขาเล็ก ๆ ที่ เกิดจากลาวาของภูเขาไฟ และก่อตัวขึ้นกลางแม่น้ำตามธรรมชาติ ชมหาดทรายดำ ที่เต็มไปด้วยหินสีดำและเม็ดทราย รวมทั้งแนวหินบะซอลต์ (เกิดจากลาวาภูเขาไฟที่แข็งตัวอย่างรวกเร็วเมื่อเจอน้ำกับทะเลที่เย็น) รูปทรงเหมือนแท่งออร์แกนในโบสถ์ และในบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยบรรดานกต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นกแก้วทะเล หรือ พัฟฟิ่น (Puffin) นกทะเลท้องถิ่นที่น่ารัก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารจากนั้นนำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : Edda Vik Hotel หรือที่พักระดับ
วันที่ 3
วิค – อุทยานแห่งชาติสกาฟตาฟิล - ฮอฟน์
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เขตอุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟล (Skaftafel) เที่ยวชมทัศนียภาพทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยความแปลกของแนวภูเขาไฟ และชั้นหินลาวาที่แข็งตัว แบบที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ชมน้ำตกระหว่างเส้นทาง ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา เป็นเส้นทางที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางต่อสู่เมือง ฮอฟน์ (HOFN) เมืองสวยริมชายฝั่ง ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงาม
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / จากนั้นนำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : Hótel Höfn หรือที่พักระดับใกล้เคียง
วันที่ 4
ฮอฟน์ – Lagoon around Jokulsarlon - Vatnajokull Glacier – เอไกล์สตาดีร์
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านลงเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ล่องลากูน Lagoon around Jokulsarlon ซึ่งที่ลากูนหรือทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งหรือไอซ์เบิร์ก (lceberg) ขนาดต่างๆมากมายลอยอยู่ในทะเลสาบ ชมความสวยงามของก้อนน้ำแข็งสีฟ้าที่ลอย อยู่รอบๆลำเรือนำท่านเดินทางสู่ Vatnajokull Glacier ธารน้ำแข็งซึ่งมีความหนาของน้ำแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยที่บางจุดมีความหนาของน้ำแข็งถึง 1 กิโลเมตร
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านนั่งรถโค้ชชมความงามของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอันสวยงามรอบๆ บริเวณ Breiddalsvik ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลทางฝั่งตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์ โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามไม่ว่าจะเป็นลาวาของภูเขาไฟ น้ำตกใหญ่น้อยนับร้อยสาย และสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติสองข้างทาง เช่น กวางเรนเดียร์ หงส์ป่า , นกเป็ดน้ำ ฯลฯ และสัตว์เลี้ยงอีกหลายชนิดมากมาย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง Egilsstadir เมืองซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งของ ทะเลสาบโลกูริน(Logurinn) ซี่งเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีเนื้อที่ถึง 53 ตารางกิโลเมตร ท่านจะได้ชมเมืองเล็ก ๆ เงียบ ๆ ตามแบบชนบทของ ไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : Egilsstadir Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง
วันที่ 5
เอไกล์สตาดีร์ – ดิมมูโบร์กีร์ – เมวัท - ฮูซาวิค
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่ ดิมมูโบร์กีร์ (Dimmuborgir) หรือที่แปลว่า ปราสาทดำ พื้นที่ซึ่งเกิดจากการ ระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในอดีตกาล ราว 2,000 ปีก่อน ธารลาวาที่ไหลปกคลุมพื้นที่เ มื่อโดนอากาศและน้ำ ที่เย็นจัด จึงทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นดินภูเขาไฟ และหินภูเขาไฟรูปทรงประหลาดต่างๆ ชาวพื้นเมืองเชื่อว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนใต้พิภพ ซึ่งเมื่อซาตานถูกขับไล่จากสวรรค์ลงสู่ ดินแดนใต้พิภพและผ่าน ดิมมูโบร์กีร์ทำ ใหพื้นที่แห่งนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้น
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม บ่อโคลนเดือด นําท่านชม นามาฟแจล (Namafjall) หรือบ่อโคลนเดือด คือโคลน (แอ่งตะกอนที่อิ่มตัวไปด้วยน้ํา) ซึ่งมีไอน้ําร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ํานั้นเคลื่อนที่จะทําให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย้อยๆ ในบริเวณภูเขาไฟปกติบ่อโคลนเดือดมักมีกํามะถันอยู่มาก อิสระให้ท่านได้เก็บ ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขตทะเลสาบเมวัท Myvatn ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนซึ่งมีผลพวงมาจากลาวาภูเขาไฟ และพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรณีวิทยา และได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ของไอซ์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1974 หลังจากนั้นมา เขตทะเลสาบ Myvatn ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งของประเทศ และเขตทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งชุกชุมของเป็ดนำที่สวยงามนานาพันธุ์ และถือเป็นเขตที่มีพันธุ์เป็ดน้ำมากที่สุดในยุโรป จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง Husavik
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : Husavik Hotel ที่พักระดับใกล้เคียง
วันที่ 6
ฮูซาวิค – ล่องเรือชมปลาวาฬ – พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน - กรุนดาร์ฟจอร์ดูร์
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (Husavik Whale Watching) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ทางท้องทะเล ซึ่งท่านจะได้พบกับนกทะเลชนิดต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงปลาวาฬนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Killer Whale (Orca) , Minke Whale Humpback Whale นอกจากนั้น ท่านจะมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของ ปลาโลมา (Doiphin) ซึ่งจะมาว่ายน้ำหยอกล้อท่านอยู่ข้างเรืออย่างมากมาย ถือเป็นความน่ารักและความงดงามทางธรรมชาติซึ่งมีเฉพาะในดินแดนแถบนี้เท่านั้น *** กรุณาเตรียมเสื้อกันลมติดตัวลงเรือด้วย
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้น นำท่านชม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Glaumbaer Folk Museum ซึ่งเป็นพิธิภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะหัตกรรมพื้นบ้านของชาวไอซ์แลนด์ รวมถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สติกกิชฮอลเมอร์(Stykkishólmur) เมืองที่มีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สามารถดึงดูด เพลิดเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ อันแสนเงียบสงบ ลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตกของอ่าวแคบๆในเขตเมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ ไม่พลาดไปชมความงดงามของภูเขาเคิร์กจูเฟล ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและได้รับความนิยมมากในหมู่นักไต่เขา ใกล้ๆภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : Foss Hotel Stykkisholmur ที่พักระดับใกล้เคียง
วันที่ 7
สติกกิชฮอลเมอร์ – ภูเขาคีร์กจูเฟล – นํ้าตกเฮินฟอซซ่า - เรคยาวิค
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่ ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) เป็นภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตกและธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นําท่านชมความสวยงามของ นํ้าตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) ซึ่งเป็นนํ้าตกสาขาหนึ่งของนํ้าตกใหญ่ที่ก่อกําเนิดจากแหล่งลําธารและแม่นํ้าสายต่างๆเป็นระยะทางกว่า 900 เมตร ของทุ่งลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารนํ้าแข็ง แลงโจกุล Langjökull จากนั้นนำท่านเดินทางลอดอุโมงกลับสู่เมือง เรคยาวิค นำท่านชมนครเรคยาวิค เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีความสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงอื่นๆในแถบสแกนดิเนเวีย ท่านจะได้ สัมผัสกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ จากนั้นอิสระเลือกซื้อหาสินค้าท้องถิ่นเป็นของที่ระลึก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : Radisson Blu Saga Hotel ที่พักระดับใกล้เคียง
วันที่ 8
เรคยาวิค - ชมเมือง– บลูลากูน - ชมวิวบนอาคารพาร์ลานพร้อมดินเนอร์
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองเรคยาวิค Reykjavik เมืองหลวงของประเทศ ไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลก และมีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก นำท่านเที่ยวชมเมืองหลวงแสนสวยริมชายฝั่งทะเลแห่งนี้ โดยรอบ เรคยาวิค Reykjavik เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุดโดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก ทำเลที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่ง Ingolfur Arnarson ชาวนอร์ดิค เป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี ค.ศ. 870 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวง ปัจจุบันเขตเมืองมีประชากรประมาณ 120,000 คน
นำท่านชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา โบสถ์ประจำเมืองที่ใช้จัดงานพิธีทางศาสนาที่สำคัญของประเทศซึ่งมีรูปทรงสถาปัตยกรรมแปลกไม่เหมือนที่ใดในโลก จากนั้นนำท่านชมตึกอาคารรัฐสภา รูปทรงทันสมัยและนำท่านเก็บภาพอาคารHofdi ที่ใช้ประชุมผู้นำระหว่างประธานาธิบดีเรแกน กับประธานาธิบดีกอบอชอฟ ในสมัยสงครามเย็น
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำร้อน บลูลากูน Blue Lagoon ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย อาทิ ซิลิกา Sillica,พืชทะเลblue green algae,โคลนซิลิกาSillica Mud,ฟลูออรีนFluoringe,โซเดียม Sodium,โปตัสเซียมPotassium,แคลเซี่ยมCalcium,ซัลเฟต Salphate,คลอรีนChlorine, คาร์บอนไดออกไซด์Carbon Dioxide เป็นต้น นอกจากนั้น ภายในบ่อน้ำร้อนบูล ลากูน ยังมีเกลือแร่ซึ่งจะช่วยให้ท่านผ่อนคลาย และรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย ท่านจะได้สัมผัสกับความสบายตัวจากการลงแช่และอาบน้ำในบ่อน้ำร้อนบูลลากูน***** กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำติดตัวไปด้วย นำท่านขึ้นลิฟต์สู่ชั้นบนสุดของตึกพาร์ลาน เป็นตึกสไตล์โมเดิร์น ที่มีภัตตาคารอยู่ด้านบนให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเรคยาวิคอย่างเต็มที่แบบ 360 องศา
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารของตึกพาร์ลาน
พักที่ : Keflavik Hotel ที่พักระดับใกล้เคียง
วันที่ 9
เคฟราวิค – เฮลซิงกิ – กรุงเทพ
เช้า บริการอาหารมื้อเช้าณห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านสู่สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิก
10.25 ออกเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยเที่ยวบิน AY992
15.55 เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ (เวลาที่ไอซ์แลนด์ ช้ากว่า เฮลซิงกิ 3 ชั่วโมง)
16.50 เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ โดยสายการบินฟินแอร์ Finn Air เที่ยวบินที่ AY141
วันที่ 10
กรุงเทพฯ
06.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ,ฟ้า , อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดย ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เฮลซิงกิ – เคฟราวิค –เฮลซิงกิ - กรุงเทพฯ
- ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12ช.ม./วัน
- โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
- ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม
- ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
- ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท
- ค่าทิปพนักงานขับรถ
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด , ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
- ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
- ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พัก และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ตามวัฒนธรรมการบริการแบบสากลโลก ท่านละ 100 บาทต่อวัน