ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน

ไฮไลท์ จอร์แดน 6 วัน 4 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – คูเวต – อัมมาน

09.00 น.  นัดหมายคณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 เคาเตอร์ S  สายการบินคูเวตแอร์เวย์ เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ และบริการเรื่องกระเป๋าเดินทาง เช็คอิน และรับเอกสารประกอบการเดินทาง

11.45 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินคูเวต, โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU412 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง พร้อมจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง, กระเป๋าจะทำการเช็คทรูจากสนามบินสุวรรณภูมิ จนถึงสนามบินอัมมานควีนอเลีย (AMM) ประเทศจอร์แดน น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องสูงสุด ท่านละ 2 ใบ น้ำหนักต่อใบไม่เกิน 23 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม )

15.10 น.  เดินทางถึง สนามบินคูเวต (KWI) เปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางสู่กรุงอัมมาน

17.10น.   นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงอัมมาน โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU563

18.45 น.   ถึง ท่าอากาศยานอัมมานควีนอเลีย (AMM) ประเทศจอร์แดน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง โดยจะมีเจ้าหน้ามาคอยช่วยอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าให้แก่คณะ ทำการรับกระเป๋าสัมภาระ และการตรวจศุลกากร (เวลาท้องถิ่นที่ประเทศจอร์แดนช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) จากนั้นมีเวลาให้ท่านได้ทำการแลกเงินสกุลท้องถิ่น และเลือกซื้อซิมโทรศัพท์ ได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก SULAF LUXURY HOTEL, AMMAN ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

วันที่ 2

อัมมาน – มานาบา – เมาท์เนโบ – ปราสาทเครัค – เพตรา

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาดาบา (MADABA) (ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หรือเมืองแห่งโมเสก ว่ากันว่าที่นี่มีงานศิลปะโมเสกที่สวยงามมาก เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของประเทศจอร์แดน ผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่มานานกว่า 4,500 ปี ชมโบสถ์กรีกออโธ ดอกซ์ แห่งเซนต์จอร์จ บนพื้นโบสถ์มีแผนที่ทำด้วยกระเบื้องโมเสกสีสวยงามจำนวนกว่า 2 ล้านชิ้น ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก สร้างขึ้นในสมัย ศตวรรษที่ 6 หรือราว ๆ ปี ค.ศ.600  (พ.ศ.1143) ในยุคไบเซนไทน์ แผนที่นี่แสดงให้เห็นพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในอดีต เนินเขา หุบเขา หมู่บ้าน ตัวเมือง ครอบคลุม ไปจนถึงปากแม่น้ำไนล์ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เยรูซาเลม จอร์แดน ทะเลเดดซี และอียิปต์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขาเนโบ (Mt’ Nebo) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)  ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขา สถานที่ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิต และฝังศพ ของโมเสส (ศัพท์ในศาสนายูดาห์ และศาสนาคริสต์) หรือ นบีมูซา (ศัพท์ในศาสนาอิสลาม )ผู้นำชาวยิวเดินทางจากอียิปต์ ไปยังเมืองคานาอัน และเป็นผู้นำคำสอนบัญญัติสิบประการของ พระยะโฮวาห์ลงมาเผยแผ่สู่มนุษย์ ชม โบสถอ์นุสรณ์โมเสส ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงโมเสส อนุสรณ์แห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 300-400 ในยุคไบเซนไทน์  ตอนต้นคริสต์ศักราช ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่าย ให้ท่านชมวิว และเก็บภาพที่จะมองเห็นทัศนียภาพทั้งแม่น้ำจอร์แดน ทะเลเดดซี นครเจริโค เมืองเบธเลแฮม และเมืองเยรูซาเล็ม หรือดินแดนศักดิ์สิทธิ์

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัล-คารัค (AL-KARAK) (ระยะทาง 155 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองคารัค ตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ เพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพอันงดงามระหว่างทางขึ้นเขา โดยเฉพาะบริเวณ “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” ชม ปราสาทเครัค (KERAK CASTLE) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1142 โดยในอดีตเคยเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางของนักรบครูเสด เพื่อควบคุมเส้นทางสำหรับต่อสู้ในสงครามครูเสด ทั้งจากทางเหนือและใต้ กับกองทัพมุสลิมจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1187 ได้ถูกนักรบมุสลิมเข้าทำลายโดยภายใต้การนำทัพของซาลาดิน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา (ระยะทาง 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก SELLA HOTEL, PETRA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

เพตรา – วาดิรัม

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพูที่แกะสลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซี กับอ่าวอะกาบะ ซึ่งซ่อนตัวซ่อนตัวอยู่ภายใต้อ้อมกอดของหุบเขาวาดี มูซา ที่สูงชันประดุจเป็นปราการอันยิ่งใหญ่ถูกลืมเลือนไป จากความทรงจำของผู้คนและสูญหายไปจากแผนที่นานนับพันปี จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1812 (พ.ศ. 2355) เมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเห็นและออกมาเขียนหนังสือ เล่าขานถึงความสวยงามและความมหัศจรรย์ของนครแห่งนี้ เพตราแห่งนี้จึงเริ่มปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งและในปี ค.ศ.1985 (พ.ศ. 2528) องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เพตรา เป็นเมืองมรดกโลก โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า"เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" (one of the most precious cultural properties of man's cultural heritage) และยังได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย ให้ท่านนั่งม้าลัดเลาะไปตามพื้นหินและทรายกว่า 600 เมตร (ค่านั่งม้ารวมอยู่ในค่าบริการแล้ว ทั้งนี้โปรดเตรียมค่าทิปสำหรับคนจูงม้าตามธรรมเนียม ท่านละ 5 JOD(ดีน่า จอร์แดน) ต่อเที่ยว และแนะนำให้เตรียมผ้าปิดจมูกติดตัวไปด้วย ราคาทัวร์ไม่รวมรวมค่าขี่อูฐ ขี่ลา รถม้าลาก สนใจกรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์) มุ่งหน้าไปในเส้นทางมหัศจรรย์ที่ทางเข้าออกของเมืองเพตรา พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป

จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่เมืองบริเวณซอกเขาเรียกว่าซิค SIQ เป็นหุบเขาสูงกว่า 250 ฟุต ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อนจนเกิดเป็นช่องทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างหุบเขา ชมสีสันความสวยงามของหินสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และยังมีภาพศิลปะแกะสลักจากภูเขา อาทิ รูปปั้นแกะสลักต่าง ๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ อีกมากมาย เข้าเขตหน้าผาสูงชั้นสองข้างทางสู่มหานครแห่งศิลาทรายสีชมพู ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-Khazneh / Treasury) สถานที่แห่งนี้ถูกสันนิษฐานว่า  สร้างในราวศตวรรษที่ 1 - 2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้นมหาวิหารถูกแกะสลักจากภูเขาสีชมพู ทั้งลูก อย่างกลมกลืนได้สัดส่วนและสวยงามน่าอัศจรรย์ เป็นอาคารสองชั้น อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานว่าเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเธียน อิสระในการเดินชมและเก็บภาพบรรยากาศ

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ เขตอุทยานวาดิรัม (WADI RUM) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวาน จากประเทศซาอุฯเดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียน ก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตรา) นำคณะเข้าที่แคมป์ที่พักเพื่อทำการเช็คอิน

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ แบบ บาบีคิว บุฟเฟต์ ที่ห้องอาหารของแคมป์ที่พัก

ที่พัก RAHAYEP DESERT CAMP, WADI RUM หรือเทียบเท่า (ห้องพักที่แคมป์เป็นแบบ Deluxe Tent สะดวกสบาย มีห้องน้ำทันสมัยในตัว ทั้งนี้ไฟฟ้าส่วนกลางจะปิดเวลาประมาณ 4 ทุ่มตรง เพื่อให้ลูกค้าออกมาชมบรรยากาศดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน แต่ภายในห้องยังสามารถเปิดไฟได้จนถึงประมาณเที่ยงคืน)

วันที่ 4

วาดิรัม – เดดซี

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของแคมป์ที่พัก

นำคณะนั่งรถกระบะเปิดหลังคารับบรรยากาศท่องทะเลทรายที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลก แห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดง ปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์ ในสงครามอาหรับ ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับ ร่วมรบขับไล่กองทัพออตโตมัน  ที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ฮอลลีวูด เรื่อง“LAWRENCE OF ARABIA” (และในปี ค.ศ.1963 สามารถกวาดรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ อีกกว่า 30 รางวัล นำแสดงโดย PETER O'TOOLE, OMAR SHARIF นําคณะท่องทะเลทรายต่อไปยัง ภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนแกะสลักก่อน

ประวัติศาสตร์ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่ แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจําวันต่างๆ และรูปภาพต่างๆ ผ่านชมเต็นท์ชาวเบดูอิน ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย (โปรดเตรียมค่าทิปคนขับรถตามธรรมเนียม ท่านละ 2 JOD (ดีน่า จอร์แดน)

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) (ระยะทางประมาณ 326 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ทะเลที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสบุคว่าเป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และมีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทะเลทั่วไปทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พักเพื่อทำการเช็คอิน จากนั้นให้ท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเลและพิสูจน์ความจริงว่าท่านสามารถลอยตัวในน้ำทะเลแห่งนี้ได้จริงหรือไม่ ให้ท่านเลือกบำรุงผิวพรรณโดยการพอกโคลนจากทะเลเดดซี หรือเลือกพักผ่อนตามอัธยาศัยภายในบริเวณโรงแรมที่พัก (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้น มีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่าง ๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์)

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก RAMADA RESORT, DEAD SEA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 5

ทะเลเดดซี – อัมมาน

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ถือเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน และมีความเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก นำท่านชมเมืองหลวง กรุงอัมมาน เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก

และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่, ย่านธุรกิจ, ตลาดใจกลางเมือง, ย่านคนรวย ฯลฯ ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) บนยอดเขาสูงสุดในกรุงอัมมาน ถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้านการเมืองต่าง ๆ รอบเมือง แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังแต่ยังสวยงาม และมีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยยุคหิน เผยให้เห็นอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมที่มาจากยุคเหล็ก รวมถึงยุคโรมัน ยุคไบแซนไทน์ และยุคอุมัยยะฮ์ ชม วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.162-166 (พ.ศ. 705-709) วิหารแห่งนี้        มีขนาดใหญ่กว่าวิหารที่อยู่ในโรมโบราณเสียอีก เดินผ่านทางเข้าที่เป็นแนวเสาระเบียงไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ข้างใน จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปลายหน้าผา ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิว พาโนรามาอันสวยงามของเมือง ใกล้กันนั้นมีมือรูปกำปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนเผยให้เห็นความขาวโพลนจนแทบไม่มีเลือด

จากนั้นผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์อับดลุลาห์ที่สอง (Raghadan Palace) ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูและตรวจตราอย่างเข้มงวด

ชม โรงละครโรมัน อายุกว่า 2,000 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของนครอัมมาน แต่ปัจจุบันก็ยังทำให้ผู้ที่พบเห็นได้ทึ่งกับการวางแผนทางด้านงานวิศวกรรมของโรมัน อันชาญฉลาดและมีดีไซน์ที่ น่าจดจำ โรงละครโรมัน แห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากที่สุดในอัมมาน โรงละคร มีความลาดเอียงลึกลงไป เอื้อให้เสียงที่ได้ยินรอบตัวนั้นมีคุณภาพเยี่ยม การออกแบบสุดสร้างสรรค์นี้สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 6,000 คน สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 (พ.ศ. 704-723) สมัยการปกครองของ แอนโทนิอุส ปิซุส (Antoninus Pius)

ชม ย่านตลาดเก่า ของเมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า ไม่ไกลจากโรมัน เธียเตอร์ ตลาดจะเริ่มคึกคัก เริ่มเปิดก็หลังเที่ยงวันไปแล้ว ตลาดที่นี่มีทั้งของสด ของแห้งอาหาร เครื่องใช้ไม้สอย เสื้อผ้าเครื่องนุงห่ม ผัก ผลไม้ ถั่วงา ถั่วต่างๆ เครื่องเทศ ขนมปังหลากหลายชนิดมาก ขนมหวานที่ทำจากธัญพืช ร้านน้ำผลไม้จะมีประปรายบางร้านขายชา กาแฟด้วย บางร้านขายเฉพาะน้ำผลไม้ อาหารฟาสฟู๊ดของที่นี่คือร้านขายเคบับหรืออาหารประเภทแป้งห่อเนื้อ อีกร้านที่มีเยอะไม่แพ้กันคือ ร้านขายน้ำหอม ที่มีทั้งแบบปรุงมาสำเร็จ บรรจุขวดแล้ว และแบบที่ให้ลูกค้าเลือกปรุงกลิ่น     เอาเอง และที่นี่จะเห็นแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำงานนอกบ้าน เพราะไม่อนุญาติให้ผู้หญิงทำงานนอกบ้าน และที่สำคัญเวลาเราจะถ่ายภาพบุคคลจะต้องขอเจ้าตัวเขาก่อนทุกครั้ง เพราะที่นี่ไม่ชอบให้ใครถ่ายภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานควีนอเลีย เพื่อทำการเช็คอินไฟล์ท เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

18.45 น.   ออกเดินทางสู่ เมืองคูเวต, โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU564 (บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มบนเครื่อง น้ำหนักกระเป๋าสูงสุดท่านละ 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม)

22.00 น.  เดินทางถึงสนามบินคูเวต เปลี่ยนเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

23.25 น.  นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ KU411 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

 

วันที่ 6

คูเวต – กรงุเทพฯ

10.05 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด แบบหมู่คณะ (เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ) โดยสายการบินคูเวตแอร์เวย์  น้ำหนักกระเป๋าเดินทางสูงสุดท่านละ 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม และกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) ท่านละ1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. 
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง 
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่) ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าวีซ่าประเทศจอร์แดนแบบท่องเที่ยวหมู่คณะ 
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุแบบหมู่คณะวงเงินค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศสูงสุด 5 แสนบาท /และเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 ล้านบาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 80 ปี) 
  • ไกด์ท้องถิ่น ผู้มีประสบการณ์ คอยดูแลและให้ความรู้ ตลอดการเดินทาง (ไม่รวมค่าทิป)
  • หัวหน้าทัวร์ (ไกด์ไทย) ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง (ไม่รวมค่าทิป)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ (สำหรับกรุ๊ปส่วนตัวเท่านั้น)
  • ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว และ ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียม
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม ท่านผู้เดินทางทุกท่านจะต้องดูแลทรัพย์สินของท่านด้วยตนเอง ตามธรรมเนียมการเข้าพักในโรงแรมทุกแห่ง หากท่านให้พนักงานยกกระเป๋าไปส่งที่ห้องพัก พนักงานยกกระเป๋าจะได้รับทิปตอบแทนเมื่อให้บริการขั้นต่ำ 1 JOD หรือเทียบเท่า ต่อกระเป๋า 1 ใบ (แนะนำให้ทุกท่านรับผิดชอบกระเป๋าของตนเองเพื่อความสะดวก, รวดเร็ว และปลอดภัย)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือรายการ และทางบริษัทขอเรียนให้ท่านทราบว่ารายการทัวร์ไม่มีบริการแจกน้ำดื่มระหว่างวันออกทัวร์   
  • ค่าขี่ลา, ขี่อูฐ และรถม้าลาก ที่เพตรา ฯลฯ 
  • ค่าทิปม้าที่เมืองเพตรา ท่านละ 5 JOD 
  • ค่าทิปคนขับรถจี๊ปที่ทะเลทรายวาริดัม ท่านละ 2 JOD 
  • ค่าทิปคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น เพื่อเป็นสินน้ำใจตามธรรมเนียม ขั้นต่ำ 30 USD ต่อท่าน ตลอดทริป
  • ค่าทิปสำหรับหัวหน้าทัวร์ไทย เพื่อเป็นสินน้ำใจตามธรรมเนียม ขั้นต่ำ 600 บาท ต่อท่าน ตลอดทริป

ราคา

THB 10,000,000

27 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more